โควิด-19

ผลประชุมศบค. คงระดับพื้นที่-มาตรการเดิม – เพิ่มวัคซีนกลุ่มนักเรียน

โดยยังคงมาตรการเดิม เพื่อควบคุมการระบาดให้ต่อเนื่อง

Home / โควิด-19 / ผลประชุมศบค. คงระดับพื้นที่-มาตรการเดิม – เพิ่มวัคซีนกลุ่มนักเรียน

ประเด็นสำคัญ

  • ผลการประชุมสรุปว่า ยังคงมาตรการหลักในการป้องกันการระบาดของโควิด-19 ไว้เช่นเดิม
  • ไม่ว่าจะเป็น ระดับพื้นที่สถานการณ์ มาตรการการเดินทาง การรักษาระยะห่าง เป็นต้น
  • จัดแผนกระจายวัคซีน 24 ล้านโดส ในช่วงเดือนต.ค.

ผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในวันนี้ โดยนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. ได้แถลงถึงผลการประชุมที่เกิดขึ้น

โดยศบค.ประเมินสถานการณ์ของการระบาดของโควิด-19 ในประเทศจากมาตรการล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้น ทำให้สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ให้อยู่ไปในทิศทางตามที่ประเมินไว้ได้

ซึ่งจากการประเมินในช่วงเดือนตุลาคม หากมีการผ่อนคล้ายมาตรการอาจจะส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งได้ ในช่วงปลายปีนี้ ดังนั้น จึงยังให้คงมาตรการเดิมเอาไว้ เพื่อให้แนวทางของจำนวนผู้ป่วยลดลงต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกันให้เน้นมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลมากขึ้น หรือ Universal Prevention มากขึ้น มาตรการทางสังคม การควบคุมการเดินทาง มาตรการ Covid Free Setting ในองค์กร และการตรวจคัดกรองด้วย ATK

ซึ่งคาดว่า จะช่วยให้สามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ เช่นเดียวกับจำนวนผู้เสียชีวิต ดังนั้นจึงย้ำให้เน้นมาตรการเหมือนเช่นที่ผ่านมา ให้คงไว้เช่นเดิม

ส่งผลให้ยังคงระดับพื้นที่สถานการณ์การระบาดในประเทศยังคงเดิม คือ

  • พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด
  • พื้นที่ควบคุมสูงสุด 37 จังหวัด
  • พื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด

แผนวัคซีน

ซึ่งในส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 มีการเน้นการให้วัคซีนกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยที่ประชุมเห็นชอบในแนวทางการจัดการ-บริหารวัคซีน โดยคาดว่า ในเดือน ตุลาคมที่จะถึงนี้ จะสามารถจัดหาวัคซีนได้ราว 24 ล้านโดส แบ่งเป็น

  • ซิโนแวค 6 ล้านโดส
  • แอสต้าเซเนก้า 10 ล้านโดส
  • ไฟเซอร์ 8 ล้านโดส

นอกจากนี้ในแผนการจัดหาวัคซีนในช่วงเดือน พ.ย. – ธ.ค. คาดว่าจะสามารถจัดหาวัคซีนได้อีกราวเดือนละ 23-24 ล้านโดส ซึ่งจะทำให้ มียอดรวมของวัคซีนที่ฉีดให้กับประชาชนในปีนี้รวม 152 ล้านโดส

สำหรับแผนการกระจายวัคซีนนั้น จะมีการจัดสรรตามกลุ่มเป้าหมายประกอบไปด้วย

  • ประชาชนทั่วไป ที่มีอายุ 18 ปีทั่วประเทศ
  • นักเรียนที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี ทั่วประเทศ
  • แรงงานในระบบประกันสังคม
  • หน่วยงานอื่น ๆ
  • ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มและต้องการเข็มกระตุ้น เข็ม 3

ซึ่งในการฉีดวัคซีนในสูตรไขว้นั้น ซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า จะใช้สำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกกลุ่ม ซึ่งเป็นสูตรหลักของประเทศ แต่จะมีสูตรไขว้ ระหว่างแอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ สำหรับกรณีความจำเป็นอื่น ๆ

สำหรับในกลุ่ม นักเรียนอายุ12-17 ปี จะใช้วัคซีนไฟเซอร์ทั้ง 2 เข็ม เพื่อเป็นการเปิดการเรียนการสอนอีกครั้ง โดยจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน เนื่องจากมีประเด็นของปัญหากรณีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

ส่วนในภูเก็ตแซนด์บ็อก จะมีการกระตุ้นในเข็มที่ 3 โดยใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า