ประเด็นสำคัญ
- อิสราเอล เผชิญการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ทำให้ยอดผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นเกิน 1 หมื่นราย/วัน ต่อเนื่องกัน 4 วันแล้ว และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
- โดยยอดล่าสุด (ยังไม่ครบวัน) พบการติดเชื้อไปแล้ว 9,900 ราย
- ทางการอิสราเอลเร่งฉีดวัคซีนกระตุ้นในเข็มที่ 3 โดยในขณะนี้ มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่3 แล้วกว่า 2 ล้านคน หรือคิดเป็นราว 25% ของจำนวนประชากร
- มีประชาชนราว 65% หรือ 6 ล้านคน ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม
…
สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศอิสราเอล ยังคงอยู่ในระดับที่ทางการอิสราเอลยังคงเป็นกังวลอยู่ เนื่องจากนับเป็นวันที่ 4 แล้ว ที่อิสราเอลพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในระดับหลักหมื่นรายต่อวัน
รายงานสรุปยอดล่าสุดของวานนี้ อิสราเอลพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 11,187 รวมผู้ป่วยสะสม 1,096,881 ราย โดยมีผู้ป่วยอาการหนัก 719 ราย ใช้เครื่องช่วยหายใจ 149 ราย และยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 7,090 ราย
ซึ่งวานนี้ จากอัตราการตรวจหาเชื้อจำนวน 145,000 ตัวอย่าง ทำให้อัตราการพบเชื้ออยู่ที่ 7.9% สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ส่วนในวันนี้ (3 ก.ย.) ยอดล่าสุด (ยังไม่ครบวัน) อยู่ที่ประมาณ 9,900 ราย
และจากการที่มีรายงานการพบผู้ป่วยรายใหม่ทั้งจากผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน และผู้ที่เคยรับวัคซีนมาก่อน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ทำให้ทางการอิสราเอลเร่งฉีดวัคซีนบูสเตอร์ให้ประชาชนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยในขณะนี้ แบ่งตามจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1-2-3 พบว่า มีประชาชนจำนวนราว 6 ล้านรายที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งเข็ม ส่วนในเข็มที่สอง มีได้รับไปแล้วจำนวน 5,501,329 ราย และเข็มที่สาม จำนวน 2,485,547 ราย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ในรายงานของกระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลระบุว่า แม้ยอดจำนวนผู้ป่วยจากการติดเชื้อจะยังคงมีแนวโน้มที่สูง โดยมีค่า R อยู่ที่ 1.09 สูงกว่าก่อนหน้านี้ แต่จำนวนผู้ป่วยที่มีอาการหนัก-อาการรุนแรง มีจำนวนลดลง ไม่ได้มากเหมือนช่วงก่อนหน้า
โดยในขณะนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก จำนวน 363 ราย ที่ไม่มีประวัติการได้รับวัคซีน ส่วนผู้ป่วยอาการหนักที่ได้รับวัคซีนแล้วมีจำนวน 282 ราย และผู้ป่วยอาการหนักส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป
พบการติดเชื้อในเด็กมากขึ้น
จากการเร่งการตรวจค้นหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มเด็กทำให้พบว่า ในขณะนี้มีเด็กนักเรียนกว่า 4 หมื่นราย ที่ติดเชื้อโควิด19 แล้ว และอีกราว 57,000 ราย อยู่ในระหว่างการแยกกักตัว ซึ่งจะมีการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้งในช่วงก่อนที่จะมีการเปิดการเรียนการสอนในเดือนตุลาคม โดยมีเป้าหมายเพื่อตรวจหาผู้ป่วยเด็ก และคัดแยกออกมาก่อนที่จะมีการแพร่เชื้อให้กับเพื่อน หรือ ครู ในโรงงาน
สำหรับโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ระบาดจะให้มีการปรับการเรียนการสอนเป็นแบออนไลน์แทน และในขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการสรุปแนวทางการฉีดวัคซีนให้กับเด็กในกลุ่มอายุ 6-12 ปีอีกด้วย
โดยทางการระบุว่า สำหรับในขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบและขออนุมัติการใช้วัคซีนในกลุ่มเด็ก ซึ่งเบื้องต้นพบว่า วัคซีนมีความปลอดภัยเพียงพอในการที่จะป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มเด็กได้