ประเด็นสำคัญ
- ญี่ปุ่นรายงานยอดผู้เสียชีวิตหลังรับวัคซีน 1,002 ราย โดยยังไม่พบความเชื่อมโยงกับวัคซีน
- มีรายงานแพ้วัคซีน 2,336 ราย, อาการไม่พึงประสงค์กว่า 22,000 ราย
- นอกจากนี้ พบผู้เสียชีวิต 2 รายก่อนการระงับการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา
…
ประเทศญี่ปุ่นได้รายงานผลการพบอาการไม่พึงประสงค์, ผลข้างเคียง รวมถึงผู้ที่เสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีน โดยสรุปตั้งแต่ 17 ก.พ. 2564 ถึงวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า
ในประเทศญี่ปุ่นได้มีการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์และโมเดอร์นา โดยพบว่า อาการไม่พึงประสงค์ และอาการแพ้ที่พบนั้น มีจำนวนน้อยและไม่มีความน่ากังวลใด ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการฉีดวัคซีน
อาการไม่พึงประสงค์
- วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์ พบอาการไม่พึงประสงค์จำนวน 20,492 ราย จากจำนวนการฉีด 90,651,661 โดส หรือคิดเป็นราว 0.2%
- วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโมเดอร์น่า พบอาการไม่พึงประสงค์จำนวน 1,564 ราย จากจำนวนการฉีด 12,261,354 โดส
อาการแพ้
มีการพบอาการแพ้วัคซีนจำนวน 2,336 ราย โดยแบ่งเป็น
- วัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 2,211 ราย คิดเป็น 24 รายต่อ 1 ล้านโดส
- วัคซีนโมเดอร์นา จำนวน 125 ราย คิดเป็น 10 รายต่อ 1 ล้านโดส
ซึ่งในจำนวนนี้ พบว่า มีอาการแพ้รุนแรงจำนวน 414 ราย แบ่งเป็น
- วัคซีนไฟเซอร์ 405 ราย คิดเป็น 4 ราย ต่อ 1 ล้านโดส
- วัคซีนโมเดอร์นา จำนวน 9 ราย หรือคิดเป็น 0.7 ราย ต่อ 1 ล้านโดส
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ / เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
โดยในรายงานของหลายประเทศในกลุ่มวัคซีนชนิด mRNA พบว่า ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบได้ โดยในประเทศญี่ปุ่นพบว่า
- วัคซีนไฟเซอร์ พบผู้ป่วยจำนวน 59 ราย หรือ 0.7 ราย ต่อ 1 ล้านโดส
- วัคซีนโมเดอร์น่า พบผู้ป่วยจำนวน 13 ราย หรือ 1.1 ราย ต่อ 1 ล้านโดส
ส่วนการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน / ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ยังไม่มีรายงานการพบแต่อย่างใด
การเสียชีวิตหลังได้รับวัคซีน
สำหรับการเสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีนทั้งสิ้น1,002 ราย ซึ่งทั้งหมดยังไม่พบความเกี่ยวข้องหรือสาเหตุที่เกิดขึ้นจากการได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่อย่างใด โดยในรายงานพบว่า
- วัคซีนไฟเซอร์ มีรายงานการเสียชีวิต 991 ราย
- วัคซีนโมเดอร์นา มีรายงานการเสียชีวิต 2 ราย
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเสียชีวิตหลังเข้ารับวัคซีนนั้น จะยังคงมีการสืบสวนและประเมินความเชื่อมโยงจากผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทางการญี่ปุ่นระบุว่า วัคซีนยังคงมีความปลอดภัยเพียงพอในการเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด-19
…
อาการผื่นแดงหลังฉีดโมเดอร์นาในผู้หญิง
ในขณะเดียวกันจากการสำรวจกว่า 4 หมื่นรายในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโมเดอร์นา พบว่า มีจำนวน 2369 ราย หรือราว 5.6% มีเกิดภาวะเป็นผื่นแดง และคัน ซึ่งแม้ว่าอาการดังกล่าวจะมีอาการไม่รุนแรงก็ตาม และหายไปได้เองในเวลาราว 4-8 วัน
แต่จากอัตราการพบราว 1 ใน 18 ราย และส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ( 83% ของผู้ที่มีอาการ) ซึ่งจะเกิดอาการในช่วง 4 – 21 วันหลังจากที่รับวัคซีน (ส่วนใหญ่ในช่วงประมาณ 1 สัปดาห์หลังรับวัคซีน)
โดยผู้เชี่ยวชาญได้ตั้งข้อสังเกตดังกล่าว หลังจากที่พบว่า อัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์นี้ อยู่ที่ 0.8% จากรายงานการทดลองทางคลินิกในต่างประเทศเท่านั้น ในขณะที่ในประเทศญี่ปุ่นมีอัตราอยู่ที่ 5.6% และส่วนใหญ่พบในผู้หญิง โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีอายุน้อย
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชายระบุว่า อาการท่เกิดขึ้นนั้นไม่น่ากังวลแต่อย่างใด และวัคซีนยังคงมีความปลอดภัยในการใช้งาน
พบเสียชีวิต 2 ราย จากกรณีระงับการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา
สำหรับวัคซีนโมเดอร์นา ที่ทางการญี่ปุ่นได้มีการสั่งระงับไปเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมาหลังระบุว่า มีการพบการปนเปื้อนในวัคซีน โดยได้มีการสั่งระงับการฉีดทั่วประเทศ จำนวนกว่า 1.6 ล้านโดส ซึ่งมีรายงานการเสียชีวิตก่อนที่จะมีการสั่งระงับการฉีดไปก่อนหน้านี้ จำนวน 2 ราย
โดยในล็อตที่มีการสั่งระงับไปแล้วนั้น คือ
- ล็อตหมายเลข 3004667 (ราว 57,000 โดส) ซึ่งเป็นล็อตที่มีรายงานการสิ่งแปลกปลอมปน
- ล็อตหมายเลข 3004734 (ราว 52,000 โดส) ซึ่งยังไม่มีรายงานการพบการปนเปื้อนแต่อย่างใด แต่ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายได้รับวัคซีนจากล็อตนี้
- ล็อตหมายเลข 3004734 (ราว 54,000 โดส) ยังไม่มีรายงานการปนเปื้อน
รายละเอียดผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นชาย อายุ 38 ปี ไม่มีประวัติโรคประจำตัว โดยได้เข้ารับวัคซีนครั้งแรกในวันที่ 18 ก.ค. และเข็มที่สอง วันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยหลังจากที่ฉีดวัคซีนแล้วพบว่า ในวันที่ 16 ส.ค. มีอาการไข้ 38.5 °C จึงได้มีการรับประทานยาลดไข้ และในวันที่ 17 ส.ค. ก็ยังคงมีอาการไข้ และรับประทานยาลดไข้ ก่อนที่จะมีรายงานการเสียชีวิตในวันที่ 18 ส.ค.
ผู้เสียชีวิตรายที่ 2 เป็นชาย อายุ 30 ปี ไม่มีโรคประจำตัวเช่นกัน โดยได้รับวัคซีนเข็มแรกในวันที่18 ก.ค. และเข็มที่ 2 ในวันที่ 22 ส.ค. โดยหลังจากฉีดวัคซีนแล้ว ในวันที่ 23 ส.ค. ผู้เสียชีวิตรายนี้ ระบุเช่นเดียวกับรายแรกคือ มีอาการไข้ จึงได้หยุดงาน และอาการดีขึ้นในวันถัดมา จึงได้ออกไปทำงาน-กลับบ้านตามปรกติ
ก่อนที่จะมีรายงานการเสียชีวิตในเช้าวันที่ 25 ส.ค.
ซึ่งสำหรับทั้งสองกรณีนี้ ยังคงอยู่ในระหว่างการสอบสวนความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่