ประเด็นสำคัญ
- ประเทศญี่ปุ่นเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ที่มียอดผู้ป่วยรายใหม่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ล่าสุด พบเพิ่มอีก 19,950 ราย รวมสะสม 1,175,455 ราย ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่ม 23 ราย รวมสะสม 15,460 ราย
- ทางการญี่ปุ่นต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มในอีก เพิ่ม 7 จังหวัด และต่ออายุในพื้นที่เดิมออกไปอีก ถึงวันที่ 12 ก.ย. ทั้งหมด
- อย่างไรก็ตาม อัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น สะท้อนประสิทธิภาพของวัคซีนที่ญี่ปุ่นฉีดให้กับประชาชนในประเทศ
…
สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่น ยังคงมีผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วยต้นเดือน ก.ค. 64 ที่ผ่านมาก่อนมีการเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค และแนวโน้มยังคพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่ในช่วงต้นเดือน ก.ค. 64 ที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นมีรายงานการพบผู้ป่วยเฉลี่ยวันละ 1,400 -1,500 รายต่อวัน หลังจากนั้นประเทศญี่ปุ่นเผชิญกับการระบาดของเชื้อโควิด-19 ในสายพันธุ์เดลต้า แต่ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือน ก.ค. ค่อยๆ เพิ่มขึ้น จนกระทั่งในช่วงปลายเดือน ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับการเปิดการแข่งขัน โตเกียว โอลิมปิค 2020 สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังคงเพิ่มสูงขึ้น
ท่ามกลางการจัดการแข่งขันโอลิมปิค จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในญี่ปุ่นยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและทำสถิติสูงสุดเป็นระยะๆ จนกระทั่งในวันที่ 9 ส.ค. หลังพิธีปิดการแข่งขันโอลิมปิคในวันที่ 8 ส.ค. ญี่ปุ่นมีผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันเฉลี่ยวันละ 14,000 กว่าราย รวมภายในหนึ่งเดือน ยอดผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นสูงขึ้น 10x โดยยอดผู้ป่วยรายใหม่สูงที่ของญี่ปุ่นอยู่ที่ 20,400 รายในวันที่ 13 ส.ค. 64 หลังจากนั้นก็เริ่มลดลง แต่ยังอยู่ในระดับที่สูงอยู่
โดยรายงานของวันที่ 17 ส.ค. 64 ประเทศญี่ปุ่นพบผู้ป่วยรายใหม่ +19,950 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 1,175,455 ราย
ประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่ม 7 จังหวัด
จากสถานการณ์การระบาดที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มในอีก 7 จังหวัด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.- 12 ก.ย. ในพื้นที่ อิบารากิ โทจิงิ กุมมะ ชิซูโอกะ เกียวโต เฮียวโงะ และฟูกูโอกะ
นอกจากนี้ ยังได้มีการขยายเวลาในการบังคับใช้ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่เดิมที่เคยมีการประกาศไปก่อนหน้านี้คือ กรุงโตเกียว จังหวัดโอซากา ไซตามะ ชิบะ คานางาวะ และโอกินาวา ที่กำลังจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ส.ค. นี้ ให้ต่ออายุมาตรการดังกล่าวออกไปอีกจนถึง 12 ก.ย. นี้ด้วย
ในขณะที่บางพื้นที่ที่มีการระบาดอยู่ ได้มีการประกาศใช้มาตรการควบคุมแบบเข้มงวด นั้น ก็ได้มีการประกาศเพิ่มในอีก 10 จังหวัดด้วยกันคือ มิยางิ ยามานาชิ โทยามะ กิฟุ มิเอะ โอกายามะ ฮิโรชิมา คางาวะ เอฮิเมะ และคาโงชิมะ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 20 ส.ค. – 12 ก.ย. เช่นเดียวกัน
ส่วนจังหวัด ฟูกูชิมะ ไอจิ ชิงะ คูมาโมโตะ ฮอกไกโด และอิชิกาวะ ที่ได้มีการประกาศใช้มาตรการควบคุมแบบเข้มงวดก่อนหน้านี้ ก็ได้ขยายเวลาสิ้นสุด จากเดิมคือ 31 ส.ค. นี้ ออกไปเป็น 12 ก.ย. เช่นเดียวกัน
เดินหน้าฉีดวัคซีนต่อเนื่อง
แม้ว่า อัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่นจะอยู่ในระดับที่สูงก็ตาม แต่จำนวนอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ไม่ได้สูงขึ้นมากนักเมื่อเทียบกับการระบาดในระลอกก่อนหน้า
จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในญี่ปุ่นอยู่เฉลี่ยวันละ 20 รายเท่านั้น สะท้อนถึงประสิทธิภาพของวัคซีนที่ในประเทศญี่ปุ่น มีผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกไปแล้ว 50% ของจำนวนประชากร และมีผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 38%
โดยญี่ปุ่นยังคงเดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในกลุ่มต่างๆ อย่างต่อเนื่องกว่าวันละ 1 ล้านโดสต่อเนื่องหลังจากที่ญี่ปุ่น ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อช่วงเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา และเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ ให้ได้วันละ 1 ล้านโดส
