โควิด-19

พบเชื้อสายพันธุ์เดลต้า ในผู้ฉีดวัคซีน-ไม่ฉีด สูงใกล้เคียงกัน กังวลแพร่เชื้อได้

ประเด็นสำคัญ ผลการศึกษาปริมาณเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ พบว่า ปริมาณเชื้อในผู้ติดเชื้อทั้งที่ได้รับวัคซีน และไม่ได้รับวัคซีน มีค่าใกล้เคียงกัน และอยู่ในปริมาณที่สูง ทำให้กังวลว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีน เมื่อติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า จะสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ ซึ่งผลการศึกษาพบว่า มีความแตกต่างจากเชื้อในสายพันธุ์อื่น ผลการศึกษาฉบับใหม่ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ…

Home / โควิด-19 / พบเชื้อสายพันธุ์เดลต้า ในผู้ฉีดวัคซีน-ไม่ฉีด สูงใกล้เคียงกัน กังวลแพร่เชื้อได้

ประเด็นสำคัญ

  • ผลการศึกษาปริมาณเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ พบว่า ปริมาณเชื้อในผู้ติดเชื้อทั้งที่ได้รับวัคซีน และไม่ได้รับวัคซีน มีค่าใกล้เคียงกัน และอยู่ในปริมาณที่สูง
  • ทำให้กังวลว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีน เมื่อติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า จะสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้
  • ซึ่งผลการศึกษาพบว่า มีความแตกต่างจากเชื้อในสายพันธุ์อื่น

ผลการศึกษาฉบับใหม่ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ชี้ว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา สามารถผลิตไวรัสในปริมาณใกล้เคียงกัน ทั้งในผู้รับวัคซีนแล้วและยังไม่ได้รับวัคซีน หากพวกเขาติดเชื้อ

การศึกษาที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (30 ก.ค.) เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 469 ราย ซึ่งเป็นชาวแมสซาชูเซตส์ที่เคยเดินทางไปยังเทศมณฑลบาร์นสตาเบิล ระหว่างวันที่ 3-17 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้ป่วย 346 ราย หรือราวร้อยละ 74 เป็นผู้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะผลทดสอบตัวอย่างจากผู้ป่วย 133 ราย พบสายพันธุ์เดลตาถึงร้อยละ 90

นอกจากนี้ค่าจำนวนรอบที่ใช้ในการขยายสารพันธุกรรมไวรัส (Ct) ยังมีความคล้ายคลึงกันในตัวอย่างที่เก็บจากผู้ป่วยที่รับวัคซีนครบโดสและยังไม่ได้รับวัคซีน

โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ฯ เผยว่าผลการศึกษาบ่งชี้การติดเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์เดลตา ส่งผลให้ปริมาณเชื้อไวรัสฯ อยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกันทั้งในผู้ที่รับวัคซีนแล้วและยังไม่ได้รับวัคซีน

“ปริมาณเชื้อไวรัสฯ ที่สูงบ่งบอกความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ ก่อให้เกิดความกังวลว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนที่ติดเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์เดลตา จะสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้ ซึ่งแตกต่างจากสายพันธุ์อื่นๆ”

วาเลนสกีกล่าว พร้อมเสริมว่าการค้นพบครั้งสำคัญนี้เป็นเรื่องน่ากังวลและนำไปสู่คำแนะนำให้ประชาชนกลับมาสวมหน้ากากอนามัยอีกครั้ง

ทั้งนี้ ศูนย์ฯ ปรับปรุงแนวปฏิบัติการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อวันอังคาร (27 ก.ค.) พร้อมเรียกร้องชาวอเมริกันที่ได้รับวัคซีนกลับมาสวมหน้ากากอนามัย ขณะอยู่ในโรงเรียนและพื้นที่สาธารณะในร่มตามจุดที่เกิดการระบาดหนักของโรคโควิด-19

“เราแนะนำประชาชนสวมหน้ากากอนามัยอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วจะไม่แพร่เชื้อไปยังผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว” วาเลนสกีกล่าว

ขณะเดียวกันศูนย์ฯ เสนอให้เขตอำนาจศาลพิจารณาการขยายกลยุทธ์ป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะในร่มเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในสถานที่รวมตัวขนาดใหญ่ที่มีผู้เดินทางมาจากหลากหลายพื้นที่

ที่มา – ซินหัว