120 วันเปิดประเทศ โควิด-19

[รายงานพิเศษ] 1/4 ไมล์แรกจากปลายทาง 120 วันเปิดประเทศไทย

ประเด็นสำคัญ แนวโน้มสถานการณ์การพบผู้ป่วยรายใหม่เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เพิ่มสูงขึ้น อัตราการฉีดวัคซีน เพิ่มขึ้นกว่า เดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา แต่ยังคงห่างจากเป้าหมาย สถานการณ์โลก อัตราการพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเช่นกัน ยิ่งทำให้การเปิดประเทศยากขึ้น เมื่อวันที่ 22…

Home / โควิด-19 / [รายงานพิเศษ] 1/4 ไมล์แรกจากปลายทาง 120 วันเปิดประเทศไทย

ประเด็นสำคัญ

  • แนวโน้มสถานการณ์การพบผู้ป่วยรายใหม่เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เพิ่มสูงขึ้น
  • อัตราการฉีดวัคซีน เพิ่มขึ้นกว่า เดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา แต่ยังคงห่างจากเป้าหมาย
  • สถานการณ์โลก อัตราการพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเช่นกัน ยิ่งทำให้การเปิดประเทศยากขึ้น

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงถึงเป้าหมาย “120 วันเปิดประเทศไทย” ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ที่ต้องการจะตั้งเป้าหมายในการดำเนินการ “เปิดประเทศ”

โดยแม้ว่า ในภายหลังจะมีความสับสนในประเด็นเรื่องของการนับวันเริ่มต้นว่าเป็นวันที่แถลง หรือเป็นวันที่เริ่มโครงการภูเก็ตแซนต์บ็อก ทาง MThai จึงได้ตั้งต้นเอาวันที่ 1 ก.ค. ตามกำหนดของการเริ่มต้นโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกมาเป็นวันดีเดย์ของเป้าหมาย 120 วันเปิดประเทศ และนับจากวันนั้น ถึงวันนี้ (30 ก.ค.) ผ่านมาแล้ว 30 วัน หรือ 1/4 ของระยะเวลาที่ตั้งเป้าหมายไว้ จึงนำสรุปภาพรวมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นอย่างไรกันบ้าง

ภาพรวม – 1/4 ไมล์ ของ 120 วันเปิดประเทศ

สถานการณ์ในวันที่ 1 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อก ในวันนั้น ศบค. รายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมจำนวน 264,834 ราย นับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย และมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในวันดังกล่าว จำนวน 5,533 ราย

ภาพรวม 120 วันเปิดประเทศใน 30 วันแรก

สถิติผู้ป่วยมิ.ย.64ก.ค. 64
จำนวนผู้ติดเชื้อสะสม
ทั้งเดือน
99,509319,074
ผู้ป่วยรายใหม่
เฉลี่ย/วัน
3,31710,636
จำนวนผู้ป่วยรายใหม่
ต่ำสุด
2,230
( 1 มิ.ย. 64)
5,420
( 5 ก.ค. 64)
จำนวนผู้ป่วยรายใหม่
สูงสุด
5,406
( 28 มิ.ย. 64)
17,669
( 29 ก.ค. 64)

จะเห็นว่า ในภาพรวมของการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้ติดเชื้อสะสม พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องมากกว่า ในช่วงของเดือน มิ.ย. กว่า 3 เท่าตัว ทั้งในส่วนของจำนวนสะสม, ผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันโดยเฉลี่ย และยอดผู้ป่วยรายใหม่สูงสุด

อัตราการหายป่วยเพิ่มขึ้นแต่ไม่มากพอ

ในสถานการณ์ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น พบว่า แนวโน้มอัตราการหายป่วยของผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยในเดือน ก.ค. เกือบ 2 เท่าตัว เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. แต่ต้องไม่ลืมว่า ในภาพรวม เดือน ก.ค. มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว ด้วยเช่นกัน

ทำให้อัตรการครองเตียงของผู้ป่วยพุ่งสูงขึ้นกว่า 140,000 ราย ในช่วงระยะเวลา 30 วัน (ระหว่าง 1-30 ก.ค.)

สถิติผู้ที่หายป่วยมิ.ย.64ก.ค. 64
หายป่วยสะสม
ทั้งเดือน
99,134173,691
ผู้หายป่วย
เฉลี่ย/วัน
3,3045,790
ผุ้หายป่วยเพิ่มรายวัน
ต่ำสุด
1,578
( 24 มิ.ย. 64)
2,534
( 4 ก.ค. 64)
ผู้หายป่วยเพิ่มรายวัน
สูงสุด
5,711
( 11 มิ.ย. 64)
10,678
( 29 ก.ค. 64)

อัตราผู้เสียชีวิต

จากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ยอดผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ซึ่งในเดือน ก.ค. 64 มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2,656 ราย มากกว่าเดือน มิ.ย. ราว 2.6 เท่า

สถิติการเสียชีวิตมิ.ย.64ก.ค. 64
ผู้เสียชีวิตสะสม
ทั้งเดือน
9922,656
ผู้เสียชีวิต
เฉลี่ย/วัน
3,30488.5
ผู้เสียชีวิตรายวัน
ต่ำสุด
17
( 14 มิ.ย. 64)
41
( 3 ก.ค. 64)
ผู้เสียชีวิตรายวัน
สูงสุด
53
( 30 มิ.ย. 64)
165
( 29 ก.ค. 64)

วัคซีนประเทศไทย

หนึ่งในเป้าหมายที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประกาศเอาไว้คือ เป้าหมายการฉีดวัคซีนให้ได้ 50 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2564 นี้ หรือคิดเป็นราว 100 ล้านโดส โดยในช่วงที่ผ่านมานับตั้งแต่มีการฉีดวัคซีนในเดือน มี.ค. ให้กับกลุ่มเสี่ยงและบุคลากรทางการแพทย์ ประเทศไทยฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 17 ล้านโดส

โดยมีจำนวนการฉีดมากที่สุด คือ 559,989 โดส ในวันที่ 10 มิ.ย. 2564 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากในช่วงวันดีเดย์ฉีดวัคซีนของประเทศในช่วง 7-8-9 มิ.ย. นั่นเอง

ภาพรวม 120 วันเปิดประเทศใน 30 วันแรก
สถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19มิ.ย.64ก.ค. 64
ฉีดวัคซีนสะสม
ทั้งเดือน
6,262,8397,083,779
ฉีดวัคซีน
เฉลี่ย/วัน
208,761244,268
ฉีดวัคซีน
สูงสุด
559,989
( 10 มิ.ย. 64)
443,714
( 3 ก.ค. 64)

จะเห็นว่า ในช่วงเดือน ก.ค. 64 นั้น สถานการณ์การฉีดวัคซีนสามารถฉีดเพิ่มได้มากกว่า ในเดือน มิ.ย. ราว 8 แสนโดส และอัตราการฉีดวัคซีนเฉลี่ยต่อวัน ก็มีจำนวนสูงขึ้น แต่เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่เคยตั้งเป้าไว้ในเดือน ก.ค. คือ 10 ล้านโดส ก็จะเห็นว่า พลาดจากเป้าหมายไปราว 3 ล้านโดส

แต่หากมองภาพรวมของทั้งหมด ที่มีเป้าหมาย 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปีนี้ ก็จะเป็นว่า ยังคงเหลืออีกกว่า 82 ล้านโดส ที่จะต้องเร่งฉีดต่อไป ให้ได้เฉลี่ยวันละเกือบ 5.4 แสนโดส หรือเดือนละไม่ต่ำกว่า 16.6 ล้านโดส และยังมากกว่าแผนที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้คาดการณ์ไว้คือราวเดือนละ 10 ล้านโดส นับตั้งแต่เดือน ก.ค. 64 เป็นต้นไป

ซึ่งในขณะนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้เร่งจัดหาวัคซีนมาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เช่น วัคซีนของไฟเซอร์ ที่ได้รับมาจากสหรัฐฯ วัคซีนของแอสตร้าเซเนก้า ที่จะได้รับจากสหราชอาณาจักร

แต่อย่างไรก็ตาม จากการประเมินในขณะนี้ ถือเป็นงานยากสำหรับการจัดหาวัคซีนให้ได้ตามเป้าที่ 100 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้

บทสรุป 1/4 ไมล์แรกของ 120 วัน

หากตัวเลข 120 วันเปิดประเทศของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เป็น “เป้าหมาย” ที่ตั้งไว้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ธุรกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่จะเป็นเครื่องยนต์หลักของรายได้ที่จะเข้ามาในประเทศไทย ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่ท้าทาย ในวันที่ได้มีการประกาศแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่มีการประกาศเป้าหมายของการทำงานที่ชัดเจน

แต่ในแง่ของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน 30 วันแรก หรือ 1/4 ของเป้าหมายนั้น กลับกลายเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากในการเดินหน้าเปิดประเทศของไทย

  • สถานการณ์การระบาดยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งยอดผู้ป่วยรายใหม่ ยอดผู้ที่เข้ารับการรักษาตัว รวมถึงยอดของผู้เสียชีวิต
  • สถานการณ์ทั่วโลก การระบาดที่เกิดขึ้นก็เป็นไปในทิศทางขาขึ้นเช่นกัน การคาดหวังการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ คงไม่ง่ายเหมือนช่วงเดือน มิ.ย. มีเพียงไม่กี่ประเทศเป้าหมายการท่องเที่ยวของไทยที่สถานการณ์ยังคงควบคุมได้ดี
  • อัตราการฉีดวัคซีน ยังคงห่างจากเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่า จะมีความพยายามจัดหาวัคซีนจากแหล่งต่าง ๆ เพิ่มขึ้นก็ตาม แต่ยังคงเป็นเรื่องยาก ท่ามกลางการระบาดและความต้องการวัคซีนที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

ท้ายที่สุดนี้ แม้ว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้ และไม่ง่าย แต่คงจะต้องหาทางแก้ไข เดินหน้าสู้กันต่อไป เพื่อที่จะผ่านสถานการณ์ “อันยากลำบาก” ในวันนี้ไปให้ได้

โดย – ทีมข่าว MThai x Mono29News