โควิด-19

วิจัยพบ ‘ยามาซิทินิบ’ อาจยับยั้งโคโรนาพันธุ์ใหม่ก่อโควิด-19 ได้

หลังผลทดสอบในหนู พบลดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้มากกว่า 99%

Home / โควิด-19 / วิจัยพบ ‘ยามาซิทินิบ’ อาจยับยั้งโคโรนาพันธุ์ใหม่ก่อโควิด-19 ได้

ประเด็นสำคัญ

  • คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยชิคาโกของสหรัฐฯ พบว่ายามาซิทินิบ (Masitinib) อาจมีประสิทธิภาพรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
  • หลังทำการคัดกรองยาในคลังเกือบ 2 พันตัว เหลือ 30 ตัวและนำมาทดสอบ
  • ผลการทดสอบในหนู พบช่วยลดจำนวนเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ลงได้มากกว่าร้อยละ 99

คณะนักวิจัยจากคณะวิศวกรรมศาสตร์โมเลกุลพริตซ์เกอร์และห้องปฏิบัติการแห่งชาติอาร์กอนแห่งมหาวิทยาลัยชิคาโกของสหรัฐฯ พบว่ายามาซิทินิบ (Masitinib) อาจมีประสิทธิภาพรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

นักวิจัยเริ่มต้นด้วยการคัดกรองคลังยาต้านโอซี43 (OC43) ที่มีความปลอดภัยทางคลินิก 1,900 ตัว จากนั้นนำยาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด 30 ตัว ไปทดสอบเพาะเลี้ยงเซลล์ต้านเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ก่อนจะส่งยาเหล่านี้ไปทดสอบกับโปรตีเอส3ซีแอล (3CL) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่เชื้อไวรัสใช้ในการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนภายในเซลล์

ทั้งนี้ โอซี43 เป็นเชื้อไวรัสโคโรนาอีกชนิดที่ก่อให้เกิดไข้หวัดและสามารถทำการศึกษาภายใต้เงื่อนไขความปลอดภัยทางชีวภาพทั่วไป

นักวิจัยพบว่าจากยาทั้งสามสิบตัวข้างต้น ยามาซิทินิบสามารถยับยั้งเอนไซม์ไวรัส3ซีแอล ภายในเซลล์ได้อย่างสมบูรณ์ โดยสามารถจับกับตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจงของโปรตีเอส3ซีแอลโดยเฉพาะ และยับยั้งการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสได้

ต่อมานักวิจัยนำยามาซิทินิบไปทดสอบกับหนู และพบว่าช่วยลดจำนวนเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ลงได้มากกว่าร้อยละ 99 และยังช่วยลดระดับไซโตไคน์อักเสบในหนูได้ด้วย

ขณะเดียวกันนักวิจัยยังเริ่มทดสอบยามาซิทินิบในการเพาะเลี้ยงเซลล์เพื่อต่อต้านไวรัสชนิดอื่นๆ และพบว่ายามีประสิทธิภาพต่อต้านพิโคร์นาไวรัส ซึ่งรวมถึงไวรัสตับอักเสบเอ โปลิโอ และไรโนไวรัส ที่ก่อให้เกิดไข้หวัดได้เช่นกัน

นอกจากนี้นักวิจัยยังทดสอบยามาซิทินิบในการเพาะเลี้ยงเซลล์กับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์อัลฟา เบตา และแกมมา และพบว่ามันทำงานได้ดีพอๆ กัน เนื่องจากมันสามารถจับกับโปรตีเอส ไม่ใช่จับกับพื้นผิวของเชื้อไวรัส

นักวิจัยกำลังทำงานร่วมกับบริษัทเภสัชภัณฑ์ที่พัฒนายามาซิทินิบ เพื่อปรับแต่งตัวยาให้กลายเป็นยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และอาจนำไปทดลองทางคลินิกกับมนุษย์ในอนาคต เพื่อทดสอบว่าสามารถรักษาโรคโควิด-19 ได้หรือไม่

“ยามาซิทินิบมีศักยภาพจะเป็นยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพในตอนนี้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดการติดเชื้อครั้งแรก และคุณสมบัติต้านไวรัสของยาจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด”

เนอร์ เดรย์แมน นักวิจัยดุษฎีบัณฑิตที่เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยากล่าว

“นี่ไม่ใช่การระบาดครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ นอกจากวัคซีนแล้ว เราจำเป็นต้องค้นหาวิธีรักษาใหม่ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ”

แม้จะได้รับอนุมัติให้ใช้รักษาเนื้องอกผิวหนังในสุนัขเท่านั้น แต่ยามาซิทินิบเคยผ่านการทดลองทางคลินิกในมนุษย์สำหรับโรคต่างๆ อาทิ โรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา โรคอัลไซเมอร์ โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง และโรคหอบหืด โดยพบว่ายาตัวนี้มีความปลอดภัยในมนุษย์ แต่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลายประการ ทั้งความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารและอาการบวมน้ำ รวมถึงอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจได้

ทั้งนี้ ผลการศึกษาดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านวารสารไซเอนส์ (Science) เมื่อวันอังคาร (20 ก.ค.) ที่ผ่านมา

ที่มา – ซินหัว