ประเด็นสำคัญ
- สถาบันดูแลสุขภาพในนครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐฯ พบว่าการดื่มกาแฟมากกว่า 1 แก้วต่อวัน สัมพันธ์กับความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสฯ ลดลงราวร้อยละ 10
- การบริโภคผักปรุงสุกหรือผักดิบอย่างน้อย 0.67 หน่วยบริโภคต่อวัน (ยกเว้นมันฝรั่ง) สัมพันธ์กับความเสี่ยงติดเชื้อลดลง
- อย่างไรก็ตาม คณะนักวิจัยยังไม่ทราบแน่ชัดถึงกลไกเชื่อมโยงระหว่างองค์ประกอบในอาหารและโรคโควิด-19
…
งานวิจัยจากนอร์ธเวสเทิร์น เมดิซิน (Northwestern Medicine) สถาบันดูแลสุขภาพในนครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐฯ พบการดื่มกาแฟและการบริโภคผักปริมาณมากอาจช่วยป้องกันการป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ได้
คณะนักวิจัยใช้ข้อมูลจากยูเค ไบโอแบงก์ (UK Biobank) ฐานข้อมูลชีวการแพทย์และทรัพยากรการวิจัยของสหราชอาณาจักร ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ถูกบันทึกในปี 2006-2010 กับการป่วยโรคโควิด-19 ช่วงเดือนมีนาคม-ธันวาคม 2020 ซึ่งยังไม่มีวัคซีนป้องกัน โดยให้ความสนใจกับองค์ประกอบในอาหาร รวมถึงการรับประทานกาแฟ ชา ผัก ผลไม้ ปลาที่มีไขมัน เนื้อสัตว์แปรรูป และเนื้อแดง
การวิจัยพบว่าร้อยละ 17 ของผู้รับการตรวจโรคโควิด-19 จำนวน 37,988 คน ซึ่งเข้าร่วมการศึกษาครั้งนี้ มีผลตรวจโรคเป็นบวก
คณะนักวิจัยพบว่า
- การดื่มกาแฟมากกว่า 1 แก้วต่อวัน สัมพันธ์กับความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสฯ ลดลงราวร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับการดื่มกาแฟน้อยกว่า 1 แก้วต่อวัน
- การบริโภคผักปรุงสุกหรือผักดิบอย่างน้อย 0.67 หน่วยบริโภคต่อวัน (ยกเว้นมันฝรั่ง) สัมพันธ์กับความเสี่ยงติดเชื้อลดลง
- การบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปเพียง 0.43 หน่วยบริโภคต่อวัน สัมพันธ์กับความเสี่ยงติดเชื้อสูงขึ้น
- การได้รับน้ำนมแม่ตั้งแต่เด็กลดความเสี่ยงติดเชื้อลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่เคยได้รับน้ำนมแม่
อย่างไรก็ดี คณะนักวิจัยยังไม่ทราบแน่ชัดถึงกลไกเชื่อมโยงระหว่างองค์ประกอบในอาหารและโรคโควิด-19
“กาแฟเป็นแหล่งคาเฟอีน แต่อาจมีสารประกอบอื่นอีกหลายสิบชนิดที่อาจเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ดังกล่าวที่เราพบ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อแปรรูปที่ไม่ใช่เนื้อแดงกับความเสี่ยงติดเชื้อที่สูงขึ้นบ่งชี้ปัจจัยที่ไม่เกี่ยวข้องเนื้อสัตว์”
มาริลิน คอร์เนลีส ผู้เขียนอาวุโส และผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์ป้องกันจากสถาบันยาฟีนเบิร์ก มหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น กล่าว
การวิจัยเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ส่วนใหญ่ในปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยส่วนบุคคลที่ได้รับการประเมินหลังมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก
อนึ่ง นอร์ธเวสเทิร์น เมดิซิน เป็นความร่วมมือระหว่างนอร์ธเวสเทิร์น เมโมเรียล เฮลธ์แคร์ (Northwestern Memorial HealthCare) และภาควิชาแพทยศาสตร์ฟีนเบิร์ก มหาวิทยาลัยฯ ซึ่งทำหน้าที่วิจัย ฝึกสอน และดูแลผู้ป่วย ขณะที่งานวิจัยฉบับนี้ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์มหาวิทยาลัยฯ เมื่อวันจันทร์ (19 ก.ค.) และวารสารนูเทรียนส์ (Nutrients)
…
ที่มา – ซินหัว