อีกหนึ่งคำแนะนำที่เป็นประโยชน์มากๆสำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าตนเองติดโควิดแต่ยังไม่ได้ตรวจ หรือหาที่ตรวจไม่ได้ และเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อย หรือเริ่มมีอาการ โควิดลงปอด จะทำยังไงต่อไปเมื่อเรายังเข้าไม่ถึงการรักษา มาดูคำแนะนำในการสังเกตตัวเองเบื้องต้นและวิธีการปฎิบัติตัวที่สามารถนำมาใช้ได้ทันที
วิธีสังเกตว่าเราเหนื่อยขึ้นกว่าปกติ หรือโควิดลงปอดแล้วหรือไม่ ก็คือ ถ้าเคยทำกิจกรรมอะไรปกติแล้วไม่เหนื่อย แต่อยู่ดีๆรู้สึกเหนื่อยก็ให้สงสัยไว้ก่อน ยกตัวอย่างเช่น เดินไปมาในห้องแล้วเหนื่อย หรือนั่งอยู่ที่เก้าอี้แล้วลุกขึ้นก็รู้สึกเหนื่อย หรือนั่งยองๆอยู่ที่พื้นแล้วลุกขึ้นก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว อันนี้ถือว่ามีปัญหาแล้ว
ถ้ามีเครื่องวัดออกซิเจนหรือสมาร์ทวอทช์ ที่สามารถใช้วัดค่าออกซิเจนได้ก็ใช้ได้หมด คนปกติทั่วไปค่าจะอยู่ที่ 97 -100 % แต่ถ้าตกลงมาถึง 94% นั่นแสดงว่าอาจจะมีปัญหาว่าโควิดลงปอดแล้ว
มาดูวิธีว่าถ้ารู้สึกว่า โควิดลงปอด แล้วยังต้องนอนรอเตียงอยู่ที่บ้านจะทำยังไง
1 พยายามอยู่เฉยๆ และ นอนคว่ำ จะช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น เพราะไม่ถูกกดทับช่วยให้หายใจเอาออกซิเจนเข้าปอดได้มากขึ้น วิธีคือ เอาหมอนมากอดไว้แล้วนอนคว่ำทับลงไปบนหมอน
2 ถ้านอนคว่ำไม่ได้ ให้นอนตะแคงถ้าทำได้ให้ตะแคงแล้วเอียงให้คว่ำลงไปประมาณ 45องศา จะช่วยให้หายใจได้มากขึ้น
3 สำหรับในกลุ่มตั้งครรภ์ ให้นอนตะแคงด้านซ้ายลง เพราะจะทำให้น้ำหนักของมดลูกไม่ไปกดทับเส้นเลือดที่อาจส่งผลให้เกิดการลิ่มเลือดอุดตัน ถ้าทำได้ให้ตะแคงซ้ายและเฉียงไปทางคว่ำลงเล็กน้อย
4 ถ้านอนนานๆ พยายามเคลื่อนไหวขาบ่อยๆ เหยียดขาบ่อยๆ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี
5 ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องดื่มมากจนเกินไปถึงขั้น 4-5 ลิตร ไม่จำเป็นและอาจเป็นอันตรายได้ และควรดื่มน้ำเรื่อยๆ ทยอยจิบไปตลอดวัน ไม่ดื่มมากๆทีเดียว
6 หากกินอาหารไม่ได้ ให้ดื่มน้ำเกลือแร่(เกลือแร่ที่ใช้ดื่มเวลาท้องเสียหรือเกลือแร่ที่ใช้ดื่มหลังออกกำลังกายก็ได้) หรือถ้าไม่มีก็ใช้น้ำตาลและเกลือผสมน้ำดื่มได้ ไม่ต้องใส่เกลือให้เค็มมาก อาจใส่ 1ช้อนชาต่อน้ำ1แก้ว แล้วผสมน้ำตาลลงไปนิดหน่อย เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงาน จะช่วยลดความอ่อนเพลียจากการรับประทานอาหารไม่ได้
7 ถ้ารู้สึกเหนื่อยมาก หลีกเลี่ยงการลุกไปเข้าห้องน้ำ เพราะการเบ่งถ่ายหรือลุกนั่ง อาจทำให้เป็นลม หมดสติ หัวใจหยุดเต้นได้ ใช้กระโถนไปเลย หรือถ้าจะเข้าห้องน้ำห้ามล็อกประตูเด็ดขาด
8 ถ้ามีไข้ต่ำๆ ก็สามารถกินพาราเซตามอลได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอจนไข้สูง จะได้ทำให้รู้สึกบรรเทาลง ไม่แนะนำให้กินยากลุ่มอื่นโดยเฉพาะ NSAID เช่น ibuprofen, naproxen, mefenamic acid (ponstan), diclofenac (voltaren)
9 ยาที่ควรมีติดบ้าน พาราเซตามอล เกลือแร่ ยาแก้อาเจียร ยาแก้ไอ ส่วนสมุนไพรฟ้าทะลายโจรให้กินตามกำหนดเท่านั้น เพราะหากกินมากเกินไปอาจทำให้ตับวายได้
10 ถ้าป่วยแล้วแยกตัวเองออกมา ควรติดต่อและแจ้งอาการกับครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ
ที่มาข้อมูลจาก DoctorTany
