ประเด็นน่าสนใจ
- พบผู้ป่วยเพิ่ม 4,528 ราย แบ่งเป็น ในเรือนจำ 1,902 ราย ภายนอกเรือนจำ 2,599 ราย และเดินทางจากต่างประเทศ 27 ราย
- รวมสะสมทั้งหมด 154,307 ราย (เฉพาะระลอกเดือน เม.ย. 64 รวมสะสม สะสม 125,444 ราย)
- หายป่วยเพิ่ม 2,933 ราย รวมหายแล้ว 105,244 ราย
- เสียชีวิตเพิ่ม 24 ราย รวมสะสม 1012 ราย
- คงเหลือรักษาตัว 48,051 ราย
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในวันนี้ ศบค. ได้แถลงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ประจำวันที่ 30 พฤษภาคม โดยสรุปดังนี้
สำหรับสถานการณ์โลก พบผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลกสะสม 170 ล้านราย เฉพาะในวันนี้ เพิ่มขึ้นอีก 4.9 แสนราย ซึ่งในประเทศใกล้เคียงกับไทย คือ มาเลเซียพบผู้ป่วยเพิ่ม 9,020 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 98 ราย โดยในวันที่ 1-14 มิ.ย. นี้ จะมีการล็อกดาวน์ในมาเลเซีย
ศบค. มีความกังวลว่า จะมีการเดินทางกลับประเทศไทย ของคนที่อยู่ในมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม ยินดีให้ทุกคนได้เดินทางกลับประเทศ แต่ขอให้คนไทยที่จะกลับ เดินทางกลับมาตามระบบที่ถูกต้อง ในขณะเดียวกันก็ทางจนท. เพิ่มการเฝ้าระวังเพิ่มเติมมากขึ้น
สถานการณ์โควิด-19ในไทย
- พบผู้ป่วยเพิ่ม 4,528 ราย รวมสะสม 154,307 ราย
- โดยพบในเรือนจำ 1,902 ราย ภายนอกเรือนจำ 2,599 ราย มาจากตปท. 27 ราย
- หายป่วยเพิ่ม 2,933 ราย รวมหายแล้ว 105,244 ราย
- เสียชีวิตเพิ่ม 24 ราย รวมสะสม 1012 ราย
- รักษาตัว 48,051 ราย โดยรักษาตัวอยู่ใน รพ. 19,008 ราย และรพ.สนาม อีก 29,043 ราย
- อาการหนัก 1,209 ราย มีผู้ป่วยที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 389 ราย
- ฉีดวัคซีน 3.54 ล้านโดส โดยแบ่งเป็น เข็มแรก 2.45 ล้านราย และผู้ที่ฉีดครบ 2 เข็ม 1.09 ล้านราย
ผู้เสียชีวิตในวันนี้
- กทม.ยังเสียชีวิตสูงสุด
- โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเสียงชีวิต
- ติดเชื้อจากคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน ผู้ดูแล
- ยังคงมีผู้ป่วยติดเตียงเสียชีวิตจากการติดเชื้อจากผู้ดูแล/คนใกล้ชิด
จึงฝากถึงผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อที่มีการเดินทางออกไปยังสถานที่ต่าง ๆ ให้เลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้กับกลุ่มเหล่านี้
สำหรับยอดการเสียชีวิต ทางศบค. จะพยายามรายงานยอดให้เร็วขึ้น เพื่อให้ทันเหตุการณ์มากขึ้น
แนวโน้มการระบาดของโควิด-19
- ในกทม. ปริมณฑลยังสูงอยู่
- ในพท. ตจว. วันนี้เพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง รวมแล้วกว่า 1,200 ราย
- ยังคงพบผู้ป่วยสูงในเรือนจำ
- การพบเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก, ระบบบริการยังทรงตัว
- แต่ยังคงพบผู้ป่วยที่ลักลอบเข้าประเทศ โดยวันนี้พบเพิ่มอีก 1 ราย เดินจากกัมพูชา
- การลักลอบเข้าประเทศยังคงมีอยู่
- สำหรับการระบาดในหลายจังหวัดที่พบการระบาดสูงๆ ยังคงอยู่ในกลุ่มเดิม
- เช่นที่ เพชรบุรีคงสูงอยู่ ในกลุ่มคลัสเตอร์โรงงาน
- แนวโน้มเริ่มมีพบการระบาดในตลาด ในชุมชนขนาดเล็ก เช่น ที่นนท์ พบที่ตลาดปากเกร็ด
- การพบติดการติดเชื้อในเรือนจำ ซึ่งมีความเป็นห่วงในการดูแลรักษาผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ
- ในบางจังหวัด เริ่มกลับมาพบผู้ป่วยเพิ่ม แม้จำนวนไม่มากนัก แต่ก็ทำให้ต้องกลับมาเฝ้าระวังเพิ่ม
- เนื่องจากมีการเดินทางข้ามจังหวัด และพบการติดเชื้อ
สถานการณ์ในกทม.
- วันนี้ลดลงเล็กน้อย
- ไม่พบคลัสเตอร์ใหม่ เป็นการพบผู้ป่วยในคลัสเตอร์เดิม จึงยังวางใจไม่ได้ เพราะแนวโน้มยังคงพบผู้ติดเชื้ออยู่
- กทม. จะมีการเฝ้าระวังในตลาด 486 แห่ง และจะมีการลงตรวจเชิงรุกในพท.ตลาดต่าง ๆ ทั้งหาเชื้อ และสุขาภิบาลต่างๆ
- สำหรับผู้ให้บริการตลาด สามารถประเมินตัวเองได้ผ่านระบบ Thai Stop Covid จะได้เห็นแนวทางในการปรับปรุง (ลิ้ง – https://stopcovid.anamai.moph.go.th)
- กรณีของแคมป์คนงานได้มีการลงสำรวจ พบว่าในบางเขต พบมากกว่า 20 แคมป์ บางพื้นที่มีแคมป์คนงานอยู่อย่างหนาแน่นมาก เช่น บางกะปิ บางเขน ห้วยขวาง
- ได้ให้ผอ.เขตลง ชี้แจงกับผู้ประกอบการ
- เรียกบริษัทก่อสร้างหารือเพิ่มเติม ในการดูแลสถานที่พัก ไซต์งาน ให้มีความเป็นอยู่ที่ปลอดภัยมากขึ้น
- เน้นย้ำ เรื่องการเคลื่อนย้ายคนงาน หากย้ายแรงงานข้ามพท. ต้องขออนุญาตมายัง สนง.เขต
- กรณีที่แคมป์คนงาน-ไซต์งานอยู่คนละที่ ต้องมีรถรับส่ง
- ซึ่งพบว่า หลายแคมป์ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่บางแคมป์ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ ก็จะมีการสั่งปิดแคมป์ต่อไป
- โดย 1-10 มิ.ย. จะมีการตรวจแคมป์คนงานอีก ทั้งสิ่งแวดล้อม และตรวจหาเชื้อเพิ่ม
- หากพบว่า บางแคมป์มีการทำผิดซ้ำ ไม่ปรับปรุง อาจจะต้องมีการดำเนินการลงโทษต่อไป
- ฝากชุมชน ปชช. ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบการไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ให้แจ้งจนท.ได้
- ขอความร่วมมือนายจ้างที่มีแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย เข้าสู่ระบบ เพื่อมีสิทธิ์การรักษา ประกันต่างๆ
- ฝาก ปชช. เลี่ยงการกล่าวโทษ ถึงติดเชื้อ-เชื้อชาติ ฯลฯ เพราะผู้ติดเชื้อไม่ได้ต้องการเป็นผู้ป่วย และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ