Excel การหาผลรวม Excel การเขียนสูตร Excel สูตร Excel เรื่องน่ารู้

การเขียนสูตร Excel ที่คุณต้องรู้! ช่วยให้ทำงานไวขึ้น

ลืมกันไปหรือยังคะ วิธีการเขียนสูตรใน Excel ที่ช่วยหาผลรวม การหาค่าเฉลี่ย ซึ่งเป็นเทคนิคการทำงานที่จะช่วยให้เพื่อนๆ ทำงานได้เร็ว และคำนวณตัวเลขเยอะๆ ออกมาได้ถูกต้อง โดยไม่จำเป็นต้องมาใช้เครื่องคิดเลขกดหาค่าอีก ถ้าจำสูตร Excel ไม่ได้ละก็ วันนี้เราจะมาทบทวนพร้อมๆ กัน…

Home / CAMPUS / การเขียนสูตร Excel ที่คุณต้องรู้! ช่วยให้ทำงานไวขึ้น

ลืมกันไปหรือยังคะ วิธีการเขียนสูตรใน Excel ที่ช่วยหาผลรวม การหาค่าเฉลี่ย ซึ่งเป็นเทคนิคการทำงานที่จะช่วยให้เพื่อนๆ ทำงานได้เร็ว และคำนวณตัวเลขเยอะๆ ออกมาได้ถูกต้อง โดยไม่จำเป็นต้องมาใช้เครื่องคิดเลขกดหาค่าอีก ถ้าจำสูตร Excel ไม่ได้ละก็ วันนี้เราจะมาทบทวนพร้อมๆ กัน

การเขียนสูตร Excel ที่คุณต้องรู้!
ช่วยให้ทำงานไวขึ้น

สูตรที่ 1 SUM : การหาผลรวม

SUM ใช้ในการหาผลรวมของตัวเลข SUM(number1, [number2], …) ในวงเล็บ คือช่วงเซลล์ที่มีตัวเลขที่ต้องการหาผลรวม

ตัวอย่าง =SUM(A2:A10)

 

สูตรที่ 2 SUMIF การหาผลรวมในช่วงที่กำหนดไว้

SUMIF ใช้ในการหาผลรวมของตัวเลขในช่วงที่กำหนดไว้ SUMIF(range, criteria, [sum_range])

range หมายถึง ช่วงเซลล์ที่มีเงื่อนไขที่ระบุใน criteria

criteria หมายถึง เงื่อนไขที่ระบุ โดยจะเป็นตัวเลขหรือความข้อความก็ได้

[sum_range] หมายถึง ช่วงเซลล์ที่ต้องการให้หาผลรวมตามเงื่อนไขที่เราระบุไว้

ตัวอย่าง =SUMIF(B2:B11,B4,C2:C11)

 

สูตรที่ 3 AVERAGE : การหาค่าเฉลี่ย

ใช้ในการหาค่าเฉลี่ยของตัวเลข AVERAGE(number1, [number2], …) ในวงเล็บคือ ช่วงเซลล์ที่มีตัวเลขที่ต้องการหาค่าเฉลี่ย

ตัวอย่าง =AVERAGE(C2:C11)

 

สูตรที่ 4 MAX/MIN การหาค่าสูงสุด/ต่ำสุด

ใช้ในการหาค่าที่มากที่สุด/น้อยที่สุดของชุดตัวเลข

MAX(number1, [number2], …) ในวงเล็บคือ ช่วงเซลล์ที่มีตัวเลขที่ต้องการหาค่าที่มากที่สุด

MIN(number1, [number2], …) ในวงเล็บคือ ช่วงเซลล์ที่มีตัวเลขที่ต้องการหาค่าน้อยที่สุด

ตัวอย่าง =MIN(C2:C11) กับ =MAX(C2:C11)

 

สูตรที่ 5 COUNT : การนับจำนวนช่อง ที่มีตัวเลขอยู่

ใช้ในการนับจำนวนเซลล์ที่มีตัวเลขบรรจุอยู่ COUNT(value1, [value2], …) ในวงเล็บคือช่วงเซลล์ที่ต้องการจะนับ

ตัวอย่าง  =COUNT(C2:C11)

 

สูตรที่ 6 VLOOKUP : การหาข้อมูลโดยอิงจากข้อมูลอีกชุดหนึ่ง

VLOOKUP(lookup_value, table_array, col_index_num, [range_lookup])

lookup_value หมายถึง ช่องเซลล์ที่เราต้องการใส่ข้อมูลลงไป

table_array หมายถึง การเลือกช่วงของข้อมูลจาก column หนึ่ง ถึงอีก column หนึ่ง ที่เราต้องใช้ในการหา

col_index_num หมายถึง การเลือกว่าข้อมูลที่เราจะค้นหาอยู่ใน column ที่เท่าไหร่ของ table_array

range_lookup มี 2 ค่า ได้แก่

TRUE หมายถึง ข้อมูลที่ใส่ลงไปใน lookup_value มีการเรียงจากน้อยไปมาก เช่น 0 , 1 , 2 ,3

FALSE : ข้อมูลที่เราจะใส่ลงไปใน lookup_value ไม่ได้เรียงกัน ว่าจะน้อยไปมาก หรือมากไปน้อย

ตัวอย่าง  =VLOOKUP(C13,B2:C11,2,FALSE)

สูตรที่ 7 TODAY การใส่วันที่ปัจจุบัน

TODAY ()

() หมายถึง แค่กด Enter ก็จะแสดงลำดับของวันที่ปัจจุบันตามที่ตั้งค่าไว้ใน Control Panel

ตัวอย่าง= TODAY () กด Enter

 

สูตรที่ 8 BAHTTEXT การเปลี่ยนตัวเลขเป็นตัวอักษร

BAHTTEXT (number) เลขในวงเล็บคือ เซลล์ที่มีข้อมูลเป็นตัวเลขที่ต้องการจะเปลี่ยนเป็นตัวอักษร

ตัวอย่าง =BAHTTEXT(C13) จะได้ค่าจำนวนเงินเป็นตัวอักษร

 

สูตรที่ 9 DATE การใส่วันที่ที่ต้องการ

DATE (year, month, day)

year, month, day หมายถึง การใส่ ปี เดือน และวันที่ต้องการ โดยจะแสดงผลออกมาในรูปแบบที่ตั้งค่าใน Control Panel

ตัวอย่าง =DATE(2019,6,19)

 

สูตรที่ 10 UPPER/LOWER

คือ การเปลี่ยนข้อความภาษาอังกฤษเป็นตัวพิมพ์ใหญ่หรือตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด

UPPER(text) / LOWER(text)

text หมายถึง ข้อความที่ต้องการเปลี่ยนเป็นตัวพิมพ์ใหญ่หรือตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด

ตัวอย่าง =UPPER(B2) หรือ =LOWER(B2)

 

สูตรที่ 11 IF การทดสอบเงื่อไขว่าเป็นจริงหรือเท็จ

IF(logical_test, [value_if_true], [value_if_false])

logical_test หมายถึง เงื่อนไขที่ต้องการตรวจสอบ

value_if_true หมายถึง ค่าที่จะแสดงถ้าเงื่อนไขเป็นจริง

value_if_false หมายถึง ค่าที่จะแสดงถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ

ตัวอย่าง =IF(C2<D2, “กำไร”, “ขาดทุน”)

 

สูตรที่ 12 CONCATENATE การเชื่อมคำ

CONCATENATE(text1, [text2],…) ในวงเล็บคือ คำที่ต้องการนำมาเชื่อมกัน

ตัวอย่าง =CONCATENATE(B2,C2)