บริติช เคานซิล ประเทศไทย ผนึกกำลัง กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จับคู่ความร่วมมือมหาวิทยาลัยไทย-สหราชอาณาจักร ผลักดัน 15 โครงการใน 7 มหาวิทยาลัยไทย สู่ท็อป 100 มหาวิทยาลัยโลก ภายใต้โครงการความร่วมมือระดับอุดมศึกษาระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักร (TH-UK World-class University Consortium) เน้นสร้างความร่วมมือแบบยั่งยืนของกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหราชอาณาจักร นำร่องด้วย 7 สาขาวิชาภายใต้ยุทธศาสตร์ของกระทรวง อว.
ได้แก่ สาขาสถาปัตยกรรมและสิ่งแวดล้อมสรรค์สร้าง สาขาวิศวกรรมเคมี สาขาวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต สาขาเกษตรกรรมและป่าไม้ สาขาแพทย์ศาสตร์ สาขาภูมิศาสตร์ และสาขาพัฒนศาสตร์ โดยความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือของมหาวิทยาลัยทั้ง 2 ประเทศทั้งในด้านการเรียนการสอน การทำวิจัย และโครงการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ ในขณะที่นิสิต นักศึกษาในโครงการเหล่านั้นเองก็จะได้รับประสบการณ์การเรียนแบบนานาชาติ ได้มีโอกาสในการฝึกฝนทักษะการทำวิจัย การนำเสนอ และการสร้างเครือข่ายระดับนานาชาติมากขึ้น
รศ.ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า จาก (ร่าง) กรอบนโยบายและยุทธศาสตร์สำคัญด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2566 – 2570 ได้มุ่งเน้น 4 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่
(1) การพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันด้วยเศรษฐกิจสร้างคุณค่าและพึ่งพาตนเองได้ยั่งยืน
(2) การยกระดับสังคมและสิ่งแวดล้อมให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน
(3) การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรมระดับขั้นแนวหน้า และ
4) การพัฒนากำลังคน สถาบันอุดมศึกษา และสถาบันวิจัยให้เป็นฐานการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ ดังนั้นทั้งภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม ภาคประชาสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิทยาลัย อาจารย์ นักวิจัย และบุคลากรในมหาวิทยาลัย จึงมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการร่วมกับ กระทรวง อว. ในการขับเคลื่อนโยบายและยุทธศาสตร์ดังกล่าว
นโยบายและยุทธศาสตร์การพลิกโฉมมหาวิทยาลัย เป็นกุญแจสำคัญเพื่อให้มหาวิทยาลัยพัฒนาความเป็นเลิศและผลิตบัณฑิตให้ตรงกับความต้องการของประเทศ พัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนและยกระดับมหาวิทยาลัยของไทยให้มีมาตรฐานทัดเทียมในระดับนานาชาติ ล่าสุด อว. จึงได้ร่วมมือกับบริติช เคานซิล ในโครงการความร่วมมือระดับอุดมศึกษาระหว่างประเทศไทยและสหราช-อาณาจักร (TH-UK World-class University Consortium) เพื่อเปิดโอกาสให้สถาบันอุดมศึกษาในไทยสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติทั้งในด้านวิชาการและการวิจัย สนับสนุนมหาวิทยาลัยในไทยให้เกิดการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยในสหราชอาณาจักร เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสร้างระบบอุดมศึกษาที่มีความเชื่อมโยงในระดับสากลมากขึ้น เพื่อที่จะบรรลุความเป็นผู้นำระดับโลก นอกจากนี้ ที่ผ่านมา อว.ยังได้เผยแพร่และนำเสนอการกำหนดตัวบ่งชี้ ภายใต้โครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย เพื่อวัดผลการปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัย และมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมากในการยกระดับมหาวิทยาลัยไทยให้ติด 100 อันดับแรกของโลกภายใน 10 ปีข้างหน้า รศ.ดร.พาสิทธิ์ กล่าว
ทางด้าน นางเฮลก้า สเตลมาเกอร์ ผู้อำนวยการ บริติช เคานซิล ประเทศไทย กล่าวว่า บริติช เคานซิล ในฐานะองค์กรเพื่อความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและโอกาสทางการศึกษาจากสหราชอาณาจักร มียุทธศาสตร์ “Going Global Partnership” ในการสร้างความสัมพันธ์ระดับนานาชาติที่เข้มแข็งและเท่าเทียมของภาคการศึกษาระดับอุดมศึกษาของสหราชอาณาจักร โดยได้นำร่องร่วมมือกับกระทรวง อว. เปิดตัวโครงการความร่วมมือระดับอุดมศึกษาระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักรเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา คัดเลือกมหาวิทยาลัยไทย 7 มหาวิทยาลัยใน 15 สาขาวิชานำร่องร่วมโครงการ จับคู่สร้างความร่วมมือในระดับนานาชาติกับมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร อันเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญ และเป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยในประเทศยังสามารถเร่งพัฒนาเพื่อยกระดับในการอันดับและขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก
7 มหาวิทยาลัยของไทย 15 สาขาวิชาที่เข้าร่วม ประกอบด้วย
- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำนวน 1 สาขาได้แก่ วิชาแพทยศาสตร์
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 7 สาขา ได้แก่ สาขาวิชาสถาปัตยกรรม สาขาวิศวกรรมเคมี สาขาวิทยาศาตร์ชีวภาพ สาขาแพทย์ศาสตร์ 2 โครงการ สาขาภูมิศาสตร์ สาขาพัฒนศาสตร์
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำนวน 1 สาขา ได้แก่ สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และป่าไม้
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จำนวน 1 สาขาได้แก่ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพจาก
- มหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 3 สาขา ได้แก่ สาขาวิชาวิทยาศาตร์ชีวภาพ สาขาแพทย์ศาสตร์ และสาขาพัฒนศาสตร์
- มหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 1 สาขา ได้แก่ สาขาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ จาก
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำนวน 1 สาขาได้แก่ สาขาวิชาพัฒนาศาสตร์
จากผลการวิเคราะห์ภาพรวมของทั้ง 15 สาขาวิชา 7 มหาวิทยาลัยที่เข้าร่วม จะพบว่าต่างมีจุดแข็งในเรื่องชื่อเสียงที่เป็นที่ยอมรับภายในประเทศ มีทรัพยากรที่เพียบพร้อม และมีสมรรถนะในการสร้างสรรค์งานวิจัย ในขณะเดียวกันยังสามารถพัฒนาเพิ่มขึ้นในด้านทักษะภาษาอังกฤษ และยังขาดการสร้างกลยุทธ์ในภาพรวมที่เอื้อต่อการทำงานในระดับนานาชาติ ซึ่งในภาพรวมต่างมองว่า สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งทางการศึกษา และความร่วมมือกันนี้จะสามารถพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนและการทำวิจัยที่มีศักยภาพสูงขึ้นและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ผ่านการทำงานร่วมกันในรูปแบบต่าง ๆ เช่น โอกาสในการทำงานวิจัยร่วม โครงการแลกเปลี่ยนนิสิต นักศึกษา และโปรเจกต์ความร่วมมือระหว่างประเทศต่าง ๆ มากมาย ซึ่งสำหรับนิสิต นักศึกษาในประเทศไทยเอง ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้รับประสบการณ์การเรียนการสอนในระดับนานาชาติ ได้พัฒนาทักษะในด้านการทำวิจัย การนำเสนอ รวมไปถึงการสร้างเครือข่ายแบบนานาชาติ
ในลำดับถัดไปจะเป็นการจับคู่กับมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร ซึ่งได้รับการตอบที่ดีจากหลากหลายมหาวิทยาลัย อาทิ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน มหาวิทยาลัยเอดินบะระ เมื่อได้คู่มหาวิทยาลัยแล้ว บริติช เคานซิล จะให้ทุนสนับสนุนมูลค่ากว่า 65,000 ปอนด์ หรือประมาณ 3 ล้านบาท ในการดำเนินกิจกรรมร่วมกันในช่วงปีแรกของโครงการ เพื่อสร้างคอนเนคชั่นแรกเริ่มระหว่างมหาวิทยาลัยไทยและสหราชอาณาจักร อันจะนำไปสู่การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และกลายเป็นคอนเนคชั่นที่มั่นคงในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งล้วนตอบโจทย์กลยุทธ์การพัฒนาศักยภาพของมหาวิทยาลัยตามทิศทางของกระทรวง อว. นางเฮลก้า กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.britishcouncil.or.th และเฟสบุ๊คแฟนเพจ British Council Thailand