Mitsubishi nissan นิสสัน มิตซูบิชิ

Mitsubishi อาจจะยุติส่งแพลตฟอร์มรถใหม่เฉพาะแบรนด์ในญี่ปุ่น ภายใน 5 ปี

Mitsubishi Motor เตรียมหยุดพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ในญี่ปุ่น เน้นที่การใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ Nissan ภายใต้การใช้เครื่องยนต์ เทคโนโลยี และดีไซน์เฉพาะตัว

Home / AUTO / Mitsubishi อาจจะยุติส่งแพลตฟอร์มรถใหม่เฉพาะแบรนด์ในญี่ปุ่น ภายใน 5 ปี

Mitsubishi Motor วางแผนที่จะหยุดพัฒนาแพลตฟอร์มรถยนต์รุ่นใหม่สำหรับตลาดญี่ปุ่น โดยจะเน้นที่การพัฒนาเครื่องยนต์ เทคโนโลยี และดีไซน์เฉพาะตัวของแบรนด์ และการใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ Nissan Motor ในการพัฒนารถรุ่นใหม่ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการภายในต้นปี 2026 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า

แพลตฟอร์มรถยนต์ (Platfrom) จะเป็นส่วนประกอบหลักที่เป็นต้นทางสู่ส่วนประกอบพื้นฐานของรถยนต์ ทำหน้าที่เป็นฐานสำหรับติดตั้งเครื่องยนต์ ชุดช่วงล่าง โครงสร้างตัวถัง การติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ ๆ การออกแบบภายใน และภายนอก เป็นต้น

Nissan-imk-concept

การพัฒนาส่วนนี้จะส่งผลต่อการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่หรือ All-New ซึ่งหนึ่งแพลตฟอร์มต้องใช้ประมาณครึ่งหนึ่งของต้นทุนการพัฒนารถยนต์ใหม่ ดังนั้นผู้ผลิตรถยนต์จึงต้องพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ให้มีความยืดหยุ่นในการพัฒนารถเซ็กเมนต์อื่น ๆ เพิ่มเติมในเจนเนอเรชั่นนั้น ๆ

ข้อมูลในเดือนมีนาคม Mitsubishi Motors มีแปดแพลตฟอร์มสำหรับการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ในแต่ละเซ็กเมนต์ ซึ่งทางผู้ผลิตรถยนต์มีแผนจะลดจำนวนแพลตฟอร์มดังกล่าวเหลือสี่ภายในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2026 แบ่งเป็นสองแพลตฟอร์มที่พัฒนาร่วมกับทาง Nissan และ Renault จากฝรั่งเศส และลดการผลิตรถยนต์ที่ไม่สามารถทำกำไร

ขณะเดียวกัน ทางบริษัทฯ จะสงวนการพัฒนาแพลตฟอร์มเฉพาะ คาดว่าจะพัฒนาสองแพลตฟอร์มของตัวเองสำหรับรถยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นตลาดหลักของแบรนด์

บริษัทมีงบประมาณ R&D ที่ 99 พันล้านเยน (900 ล้านดอลลาร์) สำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2022 ซึ่งน้อยกว่าปี 2019 ถึง 30%

Mitsubishi Outlander PHEV

โดยทาง Mitsubishi Motor ยังคงมุ่งการปรับโครงสร้างองค์กรและผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการทุ่มเม็ดเงินในการพัฒนาเทคโนโลยีขุมพลังไฟฟ้า และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์

ซึ่งทำให้ Misubishi Motor จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของญี่ปุ่นที่ยุติการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเฉพาะแบรนด์ที่จำหน่ายในญี่ปุ่น แต่จะยังคงพัฒนาอุปกรณ์ตกแต่งภายใน ภายนอก และอุปกรณ์ขับเคลื่อนต่อไป

ส่วนรถใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดว่าอาจจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก

เครดิตข้อมูลจาก asia.nikkei.com