ทำบุญไหว้พระ นัตโบโบยี พระธาตุอินทร์แขวน พระนอนตาหวาน พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี พระมหาธาตุเจดีย์ชเวซีโกน พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ พระมหามัยมุนี พระมหาเจดีย์ชเวดากอง ย่างกุ้ง อะมาดอว์เมี๊ยะ เจดีย์โบดาทาวน์ เจดีย์ไจ๊ปุ่น เทพกระซิบ เทพทันใจ เมืองพุกาม เมืองมัณฑะเลย์ ไจก์ทิโย ไหว้พระ 9 วัด ไหว้พระที่พม่า

จัดเต็ม!! ไหว้พระที่พม่า 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต!

จัดเต็ม!! ไหว้พระที่พม่า 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต! 1. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง

Home / TRAVEL / จัดเต็ม!! ไหว้พระที่พม่า 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต!

ประเทศพม่า ตอนนี้ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศในเอเชียที่นักท่องเที่ยวปักหมุดต้องไปให้ได้ นอกจากจะได้ท่องเที่ยวชมธรรมชาติแล้ว พม่ายังเป็นประเทศที่ยึดมั่นในพระพุทธศาสนา จึงมีวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย นักท่องเที่ยวจึงนิยมไปกราบไหว้ ขอพร เสริมดวง กันเป็นจำนวนมาก Travel.MThai ก็จะมาแนะนำ ไหว้พระที่พม่า 9 ไหวสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มาถึงพม่าจะต้องมากราบไหว้ ขอพร เสริมดวง กันค่ะ

ไหว้พระที่พม่า 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต!

1. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง

เป็นสถานที่ไหว้พระที่พม่า ขึ้นชื่อมากที่สุดตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า โดยชื่อ “ชเว” หมายถึง ทอง “ดากอง” นั้นเป็นชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง เป็นมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศพม่า บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น บนยอดสุดของพระเจดีย์ และมีเพชรอยู่ 5,448 เม็ด เจดีย์มีความสูงถึง 326 ฟุต สร้างโดยพระเจ้าโอกะลาปะ เมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน มหาเจดีย์ชเวดากองมีทองคำโอบหุ้มอยู่เป็นน้ำหนักถึง 1100 กิโลกรัม

ชาวมอญและชาวพม่า ถือการกราบไหว้บูชาเจดีย์ชเวดากอง จะนำมาซึ่งบุญกุศลอันเป็นหนทางสู่การหลุดพ้นทุกข์โศกโรคภัยทั้งมวล บริเวณโดยรอบจะมีการนั่งทำสมาธิ เดินประทักษัณรอบองค์เจดีย์ เป็นต้น ผู้ที่เข้ามานมัสการ หรือเยี่ยมชมจะต้องถอดรองเท้าทุกครั้งเมื่อมาถึงทางเข้า ให้เดินตามเข็มนาฬิกา ขึ้นอยู่กับดวงวันเกิดของผู้เข้าที่จะดูตาม 12 นักษัตรรอบๆ

สถานที่สำคัญของพระมหาเจดีย์ชเวดากอง คือ ลานอธิฐาน จุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบ ซึ่งเราสามารถนำดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิริมงคล นอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศรวม 8 องค์ หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดของตัวเอง จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

2. พระธาตุอินทร์แขวน (Golden Rock) หรือ ไจก์ทิโย

เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นิยมมาไหว้พระขอพรที่พม่า ในภาษามอญ หมายความว่า หินรูปหัวฤๅษี พระธาตุอินทร์แขวนตั้งอยู่ที่เมืองไจก์โถ่ (Kyaikto) อำเภอสะเทิม เขตรัฐมอญของประเทศพม่า เชื่อกันว่าใครที่มามนัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้กุศลเทียบเท่ากับการนมัสการเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์

บนยอดเขาพวงลวง เหนือระดับน้ำทะเล 3,615 ฟุต ลักษณะเด่นของพระธาตุอินทร์แขวนคือ มีลักษณะเป็นก้อนหินสีทองขนาดใหญ่สูง 5.5 เมตร ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันอย่างหมิ่นเหม่ เหมือนจะหล่นและท้าทายแรงดึงดูดของโลกโดยไม่ตกลงมาอย่างเหลือเชื่อ พระธาตุอินทร์แขวนนับเป็น 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องไปสักการะ และยังเป็นพระธาตุประจำปีจอ ที่คนเกิดปีนี้ต้องไปนมัสการสักครั้งหนึ่งในชีวิต

โดยเชื่อว่าถ้าผู้ใดได้มา นมัสการพระธาตุอินทร์แขวน นี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ความสุขความเจริญ พร้อมทั้งขอสิ่งใดก็จะได้สมดั่งปรารถนาทุกประการ ท่านสามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ได้ตลอดคืน แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ก็สามารถทำได้โดย ครั้งที่ 1 ไปถึงก่อนพระอาทิตย์ตก, ครั้งที่ 2 ตอนค่ำ และครั้งที่ 3 ช่วงเช้าประมาณตี 5 เพื่อถวายข้าวพระพุทธ ซึ่งมีจำหน่ายบริเวณวัด

3. พระมหาธาตุเจดีย์ชเวซีโกน (Shwezigon Pagoda) เมืองพุกาม

พระมหาธาตุเจดีย์ชเวซีโกน (Shwezigon Pagoda) เมืองพุกาม

หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า เจดีย์ชเวซีโกน, เจดีย์ชเวสิกอง เป็นเจดีย์ใหญ่ สวยงาม ศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศพม่า เป็นที่เคารพนับถือของทั้งชาวพม่าและชาวไทย ตั้งอยู่ที่เมืองพุกาม โดยชื่อ “ชเวซีโกน” มีหมายความว่า “เจดีย์ทองแห่งชัยชนะ” สร้างโดย พระเจ้าอโนรธามังช่อ แต่แล้วเสร็จในรัชกาลพระเจ้าจานสิตาแห่งอาณาจักรพุกาม ราว 960 ปีก่อน

ภายในเจดีย์เชื่อว่าบรรจุพระเขี้ยวแก้วและพระสารีริกธาตุ โดยอัญเชิญมาจากลังกา บนหลังช้างเผือก พระเจ้าอโนรธามังช่อได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าช้างเผือกคุกเข่าลงที่ใด จะสร้างเจดีย์ไว้ที่นั่น

ความอัศจรรย์ ๙ ประการของพระมหาธาตุชเวซีโกน

  1. ยอดพระเจดีย์ไม่มีการใช้เหล็กเสริม
  2. กระดาษห่อแผ่นทองคำเปลวที่นำไปปิดส่วนยอดพระเจดีย์ จะไม่ปลิวพ้นฐานสี่เหลี่ยมของพระเจดีย์
  3. เงาพระเจดีย์จะไม่ล้ำออกนอกฐานสี่เหลี่ยมของพระเจดีย์ (ถ้าเงาล้ำออกไป ถือว่าเป็นลางร้าย)
  4. ภายในเขตองค์พระเจดีย์ สามารถรองรับผู้แสวงบุญได้ไม่จำกัดจำนวน (ไม่เคยเต็ม)
  5. มีการให้ทานด้วยข้าวสุกร้อน ๆ ทุกเช้า (ไม่ว่าเราจะตื่นเช้าสักเพียงใด จะพบข้าวสุกในบาตรอยู่ก่อนหน้าเราเสมอ)
  6. เมื่อตีกลองใบใหญ่จากด้านหนึ่งของพระเจดีย์ จะไม่สามารถได้ยินเสียงกลองจากด้านตรงข้าม
  7. แม้พระเจดีย์จะตั้งอยู่บนพื่นราบ แต่เมื่อมองจากภายนอก จะเกิดภาพลวงตาคล้ายพระเจดีย์ตั้งอยู่บนที่สูง
  8. ไม่ว่าฝนจะตกหนักเพียงใด จะไม่มีน้ำฝนขังอยู่ในอาณาเขตขององค์พระเจดีย์
  9. มีต้นพิกุล ซึ่งจะออกดอกตลอดทั้งปี (ปรกติจะออกปีละครั้ง)

4. พระมหามัยมุนี (Mahamuni Buddha) เมืองมัณฑะเลย์

ไหว้พระ ขอพร เสริมดวงที่พม่า 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต!

พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของพม่า เปรียบได้กับพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย และเป็นหนึ่งในห้าศาสนวัตถุที่ศักดิ์สิทธิ์ของพม่า คำว่า มหามัยมุนี แปลว่า “ผู้รู้อันประเสริฐ” (The Great Sage) ชาวพม่าจะเรียกว่า มหาเมียะมุนี เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์  ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ อดีตราชธานีของพม่าในยุคราชวงศ์คองบอง เดิมทีเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของยะไข่

ความเชื่อ ว่า พระพุทธมหามัยมุนี นี้เป็นพระพุทธรูปที่มีชีวิต เพราะด้วยเหตุที่ได้รับประทานพร (บางตำนานก็เล่าว่าได้รับประทานลมหายใจจากพระพุทธเจ้า) จึงมี ประเพณีล้างพระพักตร์ถวาย โดยทุกเช้า เวลาประมาณ 04.00 น. พระมหาเถระและสาธุชนทั่วไปที่ศรัทธาจะมาทำพิธีล้างพระพักตร์ด้วยน้ำอบน้ำหอมผสมทานาคาอย่างดีพร้อมกับใช้แปรงทองแปรงที่พระโอษฐ์เสมือนหนึ่งแปรงพระทนต์ถวายพระพุทธเจ้า ก่อนใช้ผ้าจากศรัทธาสาธุชนถวายมาเช็ดจนแห้งสนิท พร้อมใช้พัดทองโบกถวายเป็นอันดีเสมือนหนึ่งได้อุปัฏฐากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ยังทรงพระชนมชีพอยู่จริงๆ เชื่อกันว่าใครที่ได้เข้าร่วมพิธีก็จะได้มาซึ่งบุญกุศลอย่างยิ่ง

อนึ่ง องค์พระมหามัยมุนีมีการปิดทองซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเป็นรอยย่นตะปุ่มตะป่ำไปทั้งพระองค์ ซึ่งหากเอานิ้วกดลงไป ก็จะรู้สึกได้ถึงความอ่อนนิ่มของทองคำเปลวที่ปิดทับซ้อนกันนับเป็นพัน ๆ หมื่น ๆ ชั้น ตลอดระยะเวลาเนิ่นนานกว่าศตวรรษ ทำให้พระมหามัยมุนีมีอีกพระนามหนึ่งว่า “พระเนื้อนิ่ม” แต่น่าแปลกที่ว่า แม้จะมีการปิดทองซ้ำแล้วซ้ำอีกจนองค์พระใหญ่ขึ้นเพียงใดก็ตาม แต่พระพักตร์ขององค์พระมหามัยมุนีก็ยังแลดูใหญ่ตามองค์พระอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งที่ไม่ได้มีการปิดทองที่องค์พระพักตร์เลยแม้แต่น้อย

ในประเทศไทย มีองค์พระจำลองของพระมหามัยมุนี ตั้งอยู่ที่วัดหัวเวียง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และวัดพระธาตุดอยแต ตำบลเหมืองจี้ อำเภอเมืองลำพูน ซึ่งมีขนาดเท่าองค์จริง

5. พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ (Shwemawdaw Paya) เมืองหงสาวดี

พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ (Shwemawdaw Paya) เมืองหงสาวดี

คนไทยก็คุ้นเคยกับชื่อนี้คือ พระธาตุมุเตา แปลว่า “จมูกร้อน” ทั้งนี้เพราะกล่าวกันว่าพระมหาธาตุองค์นี้สูงมาก จนต้องแหงนหน้ามองต้องกับแสงแดด ทั้งนี้เนื่องจากพระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอนั้นเป็นเจดีย์ที่มีความสูงที่สุดในพม่า (พระเจดีย์สูง 114 เมตร สูงกว่า พระเจดีย์ชเวดากอง 14 เมตร) และเป็นหนึ่งในเจดีย์โบราณที่เก่าแก่มีอายุกว่า 2,600 ปี มีจุดอธิษฐานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงบริเวณยอดฉัตร

เป็นพระมหาธาตุเจดีย์สำคัญที่อยู่ในเมืองพะโค (หงสาวดี) เป็นเจดีย์โบราณที่ก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยมอญเรืองอำนาจ มีการบูรณะและต่อเติมอีกหลายครั้ง ภายในเจดีย์บรรจุพระเขี้ยวแก้วไว้ตั้งแต่สมัยพระเจ้าราชาธิราช และต่อมาในสมัยพระเจ้าธรรมเจดีย์ได้โปรดให้มีการหล่อระฆังจารึกไว้ที่ฐาน

เมื่อเรามีโอกาสได้ไปสักการะ เวลาขอพรให้เอามือและหน้าผากไปแตะที่พระธาตุองค์เดิมที่หัก แล้วอธิษฐาน หลายคนมักจะประสบผลสำเร็จ หรือ นมัสการ ยอดเจดีย์หัก ซึ่งชาวมอญและชาวพม่าเชื่อกันว่าเป็นจุดที่ศักดิ์สิทธิ์มาก สามารถนำธูปไปค้ำกับยอดของเจดีย์องค์ที่หักลงมาเพื่อเป็นสิริมงคลซึ่งเปรียบเหมือนดั่งค้ำจุนชีวิตให้เจริญรุ่งเรือง

ในประเทศไทย มีเจดีย์จำลองของพระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ ที่วัดชมภูเวก และที่วัดปรมัยยิกาวาส บนเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นชุมชนของชาวไทยเชื้อสายมอญ

6. เทพทันใจ (นัตโบโบยี) – เทพกระซิบ (อะมาดอว์เมี๊ยะ) เจดีย์โบดาทาวน์

เจดีย์โบตาทาวน์ ได้บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าที่พระสงฆ์อินเดีย 8 รูป อายุกว่า 2,000 ปี โดยในปี 2486 เจดีย์แห่งนี้ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ากลางองค์จึงพบโกศทองคำบรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุอีก 2 องค์ และพบพระพุทธรูปทอง เงิน สำริด 700 องค์ นอกจากนี้ได้จารึกดินเผาภาษาบาลี และตัวหนังสือพราหมณ์อินเดียทางใต้ ต้นแบบภาษาพม่า ภายในเจดีย์ที่ประดับด้วยกระเบื้องสีสันงดงาม และมีมุมสำหรับฝึกสมาธิหลายจุดในองค์พระเจดีย์

วิธีการสักการะ นัตโบโบยี หรือ พระเทพทันใจ เพื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปราถนา ให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย จากนั้นก็ให้เอาเงินจะเป็นดอลล่า บาท หรือจ๊าด ก็ได้ แล้วเอาไปใส่มือของนัตโบโบจี 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึกกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บรักษาไว้ จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยี แค่นี้ท่านก็จะสมตามความปราถนาที่ตั้งใจไว้ (*โบโบยี เป็นคำกลางเรียก นัตผู้ชายที่เป็นที่เคารพนับถือ คล้ายกับคำว่า เจ้าพ่อ หรือเจ้าปู่ ที่คนไทยใช้เรียกอารักษ์แบบไทยๆ)

และข้ามมาอีกฝั่งของถนน เพื่อมา สักการะ เทพกระซิบ ซึ่งมีนามว่า “อะมาดอว์เมี๊ยะ” ตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัต ซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว การขอพรเทพกระซิบต้องเข้าไปกระซิบเบาๆ ห้ามคนอื่นได้ยิน การบูชาเทพกระซิบ บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้

7. พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี หรือ
พระนอนตาหวาน (Kyauk Htat Gyi Buddha) 

เป็นพระนอนปางพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ มีความยาวกว่า 70 เมตร เป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดและมีความงดงามที่สุดของประเทศพม่า ทั้งพระพักตร์และขนตาที่งดงาม ดวงตาของท่านเป็นแก้ว โดยเฉพาะรวมไปถึงพระจีวรที่มีความพริ้วไหวสมจริงและเมื่อเดินมายังปลายสุดพระบาทของพระนอนองค์นี้ ตรงที่พระบาทมีภาพวาดเป็นมิ่งมงคลสูงสุด เพราะประกอบด้วยลายลักษณธรรมจักร ในบริเวณใจกลางฝ่าพระบาทและล้อมด้วย รูปมงคล 108 ประการ

8. เจดีย์ไจ๊ปุ่น (Kyaikpun Pagoda)
หรือ พระสี่ทิศ เมืองหงสาวดี

เจดีย์ไจ๊ปุ่น (Kyaikpun Pagoda) หรือ พระสี่ทิศ เมืองหงสาวดี

มีอายุกว่า 500 ปี เป็นวัดที่สร้างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระพักตร์ไปยัง 4 ทิศ แทนความหมายถึงพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ มีตำนานเล่าว่า พระราชธิดาทั้งสี่องค์ของกษัตริย์มอญที่อุทิศตนแด่พุทธศาสนา จึงสร้างพระพุทธรูปแทนตนเองและได้สาบานไว้ว่าจะไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ ต่อมาน้องสาวคนสุดท้อง กลับพบรักกับชายหนุ่มและแต่งงานกัน จึงเกิดอาเพศฟ้าผ่าพระพุทธรูปที่แทนตัวของน้องสาวคนสุดท้องพังทลายลงมา จนต้องมีการสร้างขึ้นมาใหม่ตามที่เห็นในปัจจุบัน โดยพระพุทธรูปองค์นี้จะมีลักษณะแตกต่างจากองค์อื่น ๆ

จากนั้นมีบูรณะ วัดนี้เมื่อ พ.ศ.2019 พระเจดีย็นี้มีพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทั้ง 4 ทิศ อันได้แก่

  • สมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ทางทิศเหนือ
  • พระ พุทธเจ้าโกนาคมโน ทางทิศใต้
  • พระพุทธเจ้ากกุสันโธ ทางทิศตะวันออก
  • พระ พุทธเจ้ามหากัสสปะ ในทิศตะวันตก

9. เจดีย์เยเลพญา (Yele Paya) เมืองสิเรียม 

หรือคนพม่าเรียก เจ๊าตันเยเลพญา (Kyauktan Yele Paya) เป็นวัดเจดีย์บนเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งกลางแม่น้ำย่างกุ้ง สำหรับที่มาของคำว่า เจ้าตันเยเลพญา คือ เจ๊าตันเป็นชื่อเมือง เชื่อกันว่าสร้างโดยคหบดีชาวมอญ เมื่อพันหว่าปีที่แล้ว ตั้งแต่ยุคสมัยมอญยังรุ่งเรือง ในตอนสร้างได้อธิษฐานไว้ว่าถ้าน้ำท่วมก็อย่าให้ท่วมองค์เจดีย์ ถ้ามีคนมากราบไหว้มากเท่าไหร่ก็อย่าให้ล้นพื้นที่นั้นๆ

ตามความเชื่อแล้ว เจดีย์เยเลพญา เป็นเจดีย์ยอดฮิตของพ่อค้าแม่ค้า และนักธุรกิจทั้งหลาย เพราะเชื่อกันนว่าหากใครได้มีโอกาสมาขอพรที่เจดีย์เยเลพญาแล้วจะทำให้การค้ารุ่งเรื่อง อีกทั้งภายในเจดีย์ยังมีพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ใจกลางเจดีย์ ทำจากหินอ่อนปิดทองอร่ามองค์ งดงามเป็นอย่างมาก

แต่หนึ่่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ที่ต้องสักการะให้ได้บนเกาะเจดีย์เยเลพญาเล็กๆ แห่งนี้คือ พระอุปคุต โดยวิหารของพระอุปคุตถูกสร้างยื่นออกมาจากเกาะเล็กน้อย เพื่อให้อยู่ใจกลางน้ำจริงๆ อีกทั้งเป็นพื้นที่สำหรับให้อาหารปลาอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูล https://th.wikipedia.org, http://www.meetawee.com/, http://www.oceansmile.com/

เรียบเรียง Travel.MThai.com