14 ที่เที่ยวภูมิภาคคันไซ (Kansai) มาแล้วต้องจัดเต็ม!

การท่องเที่ยวในแถบ ภูมิภาคคันไซ (Kansai) นั้นก็ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าภูมิภาคอื่นๆ เลย มีจังหวัดและสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหลายที่ ซึ่งมีครบทั้งของกินอร่อย ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ เช่น จังหวัดโอซาก้า, เกียวโต, นารา, โกเบ เป็นต้น…

Home / TRAVEL / 14 ที่เที่ยวภูมิภาคคันไซ (Kansai) มาแล้วต้องจัดเต็ม!

การท่องเที่ยวในแถบ ภูมิภาคคันไซ (Kansai) นั้นก็ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าภูมิภาคอื่นๆ เลย มีจังหวัดและสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหลายที่ ซึ่งมีครบทั้งของกินอร่อย ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ เช่น จังหวัดโอซาก้า, เกียวโต, นารา, โกเบ เป็นต้น นอกจากนี้เรายังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยังภูมิภาคใกล้เคียงได้อีกหลายที่ด้วย .. หากใครพอมีวันหยุดยาว เราแนะนำว่าแถบคันไซนี้แหละที่ไม่ควรพลาด และไม่เป็นสองรองใคร เที่ยวได้ทุกฤดู สวยทุกฤดู ^^

14 ที่เที่ยวภูมิภาคคันไซ (Kansai)
มาแล้วต้องจัดเต็ม!

โอซาก้า (Osaka) จังหวัดที่มีความสำคัญเป็นอันดับสองและขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของญี่ปุ่น เป็นเมืองเศษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคคันไซ (Kansai) ทำให้โอซาก้ามีความเจริญตั้งแต่ยุคที่เฟื่องฟู สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว ที่ทำให้เมืองโอซาก้ามีชื่อเสียง มี 4 สถานที่หลัก ก็คือ

1. ชินไซบาชิ – Shinsaibashi 

ชินไซบาชิ - Shinsaibashi 

แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตในโอซาก้า เต็มไปด้วยร้านค้าชื่อดังของโอซาก้ากว่า 180 ร้าน ความยาวประมาณ 600 เมตร มีทั้งร้านขนมชื่อดัง ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นสุดฮิต ร้านเฟรนไชส์ มากมาย เหมาะสำหรับคนรักการกินและช้อปปิ้งเป็นที่สุด (ทัวร์มักไปเกือบทุกรายการ)

2. Universal Studios Japan

Universal Studios Japan
Universal Studios Japan

สถานที่ที่พลาดไม่ได้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบภาพยนตร์ และความสนุกสุดมันส์อย่างฉุดไม่อยู่ สวนสนุกแห่งนี้เต็มไปด้วยความฝันของเด็กทั่วโลก รวมไปถึงผู้ใหญ่อย่างเราๆ ที่ต้องไปเยือนสักครั้งให้ได้ (ทัวร์ที่พาไปจะมีทั้งแพ็กเกจแบบรวมตั๋ว และแพ็กเกจมีวันอิสระ ซื้อตั๋วเดินทางไปเอง ซึ่งราคาจะค่อนข้างถูกกว่าอีกแบบนึง)

3. ปราสาทโอซาก้า – Osaka Castle 

ปราสาทโอซาก้า - Osaka Castle 

สัญลักษณ์ประจำเมืองโอซาก้า ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญทางประวัติศาตร์ สำหรับผู้ที่มาเยือนโอซาก้า เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมักเดินทางมาถ่ายรูป เก็บความสวยงามทางประวัติศาตร์ญี่ปุ่น ทั้งนี้ความพิเศษของสถานที่นี้คือ ความสวยงามที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล (ทัวร์จะมีบริการพาไปทุกแพ็กเกจ แต่ส่วนใหญ่จะไม่รวมค่าตั๋วเข้าปราสาท เพื่อขึ้นไปชมวิวรอบๆ)

4. ริงกุ เอาท์เล็ต – Rinku Premium Outlets 

ริงกุ เอาท์เล็ต - Rinku Premium Outlets 

สถานที่สุดท้าย ร้าน Outlet ที่สามารถช๊อปปิ๊งสินค้าแบรนด์เนมได้ในราคาที่พอเหมาะไม่แพงจนเกินไป มีสินค้าแบรนด์เนมตั้งอยู่ประมาณ 200 ร้าน ให้ขาช็อปทั้งหลายได้หวั่นไหว บัตรเครดิตในมือถึงกับสั่นสะท้าน แถมบรรยากาศภายในก็สะอาดตา สไตล์ยุโรป (ทัวร์จะมีบริการพาไป เกือบทุกแพ็กเกจ)

นอกจากนี้ รอบๆ นอกเมืองโอซาก้าก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลักอื่นๆ อีก ที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายมักหมายปอง เต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรมมากมาย เส้นทางที่ทัวร์มักเดินทางคู่กับโอซาก้าคือ นาโกย่า เกียวโต ทาคายาม่า โกเบ ฮาโกเน่ นารา คานาซาว่า และทตโตะริ

โอซาก้า – เกียวโต

5. ฟูชิมิอินาริ – Fushimi Inari-taisha 

ฟูชิมิอินาริ - Fushimi Inari-taisha 

ศาลเจ้าเทพอินาริ มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักสิทธิ์ และยิ่งดังเข้าไปอีก เมื่อไปแจ้งเกิดในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ทำให้เป็นอีก1สถานที่ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

6. วัดคินคะคุจิ – Kinkaku-ji Temple 

วัดคินคะคุจิ - Kinkaku-ji Temple 

หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่าวัดทอง เนื่องจากที่วัดนี้จะมีอาคารหลักเป็นสีทองเกือบทั้งหลังตั้งโดดเด่นอยู่กลางน้ำ ทำให้เกิดเป็นเงาสะท้อนกับพื้นน้ำเบื้องหน้า จนเกิดเป็นภาพที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นวัดดังในเกียวโต ที่ถูกนำมาใช้ในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซัง ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากตามรอยมาดูสถานที่จริงกันถึงที่เลยทีเดียว ทั้งนี้ความสวยงามในแต่ละฤดูก็จะแตกต่างกันไปอีกด้วย

7. วัดคิโยะมิซุ – Kiyomizu-dera 

วัดคิโยะมิซุ - Kiyomizu-dera 

อีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น มีน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากน้ำตกโอโตวะไหลผ่านทำให้เป็นที่มาของชื่อ “วัดน้ำใส” จนยูเนสโกได้บันทึกให้วัดแห่งนี้ขึ้นเป็นมรดกโลก สิ่งที่ทำให้วัดแห่งนี้มีชื่อเสียง คืออาคารไม้ขนาดใหญ่

สร้างขึ้นโดยไม่มีการใช้ตะปูตอกแม้แต่ตัวเดียวในการก่อสร้าง ห้องโถงอาคารถูกสร้างให้ยื่นออกไปภายนอกทำให้เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถชมซากุระและชมใบไม้แดงที่ขึ้นชื่อของเกียวโต และในทิวทัศน์เดียวกัน เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลทั้ง 4 ฤดู แต่ก็ต้องน่าเสียดายที่ช่วงนี้ ได้มีการปรับปรุงตัวอาคารไม้หลัก เป็นระยะเวลา 4 ปี ทำให้ไม่สามารถขึ้นชมจุดไฮไลท์ของตัววัดได้ แต่เรายังสามารถเข้าไปเพื่อไหว้พระ ขอพร ชมความสวยงามรอบๆนอกได้เหมือนเดิม

8. ป่าไผ่ – Bamboo Groves,
อาราชิย่าม่า – Arashiyama 

ป่าไผ่ - Bamboo Groves, อาราชิย่าม่า - Arashiyama 

เป็นทางเดินเล็กๆผ่านสวนป่าไผ่ มีความยาวกว่า 500 เมตรตั้งอยู่ระหว่างวัดเทนริวจิและศาลเจ้าโนโนมิยะ สามารถเดินเล่นหรือขี่จักรยานผ่านก็ได้ ตลอดสองข้างรายรอบไปด้วยต้นไผ่ที่สูงไม่ต่ำกว่าสิบเมตร ปกคลุมทางเดินที่ลาดเอียงไปตามเนินเขาอย่างงดงาม

ยิ่งช่วงที่มีแสงอาทิตย์รอดผ่านตัวป่าไผ่ลงมาจะสวยมาก หรือถ้ามีลมพัดมาพร้อมกันก็จะเป็นเสียงกิ่งก้านของต้นไผ่กระทบกันไปมา ให้บรรยากาศที่เงียบสงบ ถือเป็นเสน่ห์ของเมืองเกียวโต สำหรับคนญี่ปุ่นหรือนักท่องเที่ยว จะนิยมแต่งกิโมโนในแบบชุดดั้งเดิมเพื่อมาเดินชมป่าไผ่ ถือเป็นธรรมเนียมที่จะทำให้เราสัมผัสถึงความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

โอซาก้า ทาคายาม่า

9. ชิราคาวาโกะ – Shirakawa-go 

ชิราคาวาโกะ - Shirakawa-go 

อีก 1 สถานที่ ที่สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูจริงๆ และยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยยูเนสโก ความน่ารักของสถานที่แห่งนี้ก็คือ ตรงหลังคาบ้านที่เป็นฟางจะเป็นรูปสามเหลี่ยม ภายในบ้านตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้ตั้งแต่สมัยก่อน เป็นแบบญี่ปุ่นแท้ดั้งเดิม มีเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศเป็นจำนวนมาก เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง

โอซาก้า นารา

10. วัดโทไดจิ – Todaiji 

วัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนารา หรือ ไดบุตสึ เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ วัดนี้ได้รับการบันทึกว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก นอกจากนี้หากใครต้องการสัมผัสความน่ารักของเจ้ากวางตัวน้อย ทางวัดก็จะมีกิจกรรมเล็กๆให้ทำ คือเราสามารถให้อาหารกวางโดยซื้อขนมเซนเบ้ จากร้านที่จำหน่ายอยู่ใกล้ๆกัน ราคาเพียงห่อละ 150 เยน

โอซาก้า โกเบ

11. ปราสาทฮิเมจิ – Himeji Castle

ปราสาทฮิเมจิ – Himeji Castle
ปราสาทฮิเมจิ – Himeji Castle

เป็นปราสาทที่ยิ่งใหญ่ สวยงาม และคงสภาพเดิมที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก มีทิวทัศน์ที่งดงาม ด้วยความสง่างามของปูนขาวซึ่งได้รับการเปรียบเปรยให้เป็นนกกระยาง ซึ่งบางทีถูกเรียกว่า“ปราสาทนกกระยางขาว” และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่มักมีฤดูกาลเพื่อเข้าชมความสวยงามของรอบๆปราสาท

โอซาก้า ฮาโกเน่

12. โอวาคุดานิ – Owakudani 

โอวาคุดานิ - Owakudani 
โอวาคุดานิ - Owakudani 

ภูเขาไฟที่ปัจจุบันไม่มีปะทุอีกแล้ว แต่ใต้พื้นผิวยังคงมีความร้อนอยู่ จึงทำให้น้ำที่อยู่ข้างใต้ระเหยกลายเป็นไอน้ำออกมาข้างนอก ประกอบกับที่นี่มีแร่กำมะถันหรือซัลเฟอร์ในปริมาณมาก ทำให้ไอน้ำที่พุ่งออกมานั้นมีกลิ่นกำมะถันปนอยู่ และมีคุณค่าต่อสุขภาพอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งยังมีจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวหลักๆคือไข่ดำ เป็นไข่ต้มสุกในบ่อของหุบเขาแห่งนี้ นอกจากนี้เรายังสามารถชมวิว ทิวทัศน์ที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วย

โอซาก้า คานาซาว่า

13. สวนเคนโระคุเอ็น – Kenroku-en

สวนเคนโระคุเอ็น - Kenroku-en

เป็นสวนที่ได้รับการยกย่องเรื่องความสวยงามติด 1 ใน 3 ของสวนที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนจุดที่สูงของเมืองคานาซาวะ ตรงข้ามกับปราสาทคานาซาวะ ถือเป็นสวนลัญลักษณ์ของเมืองคานาซาวะ ภายในเต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์ของบ่อนํ้า หุบเขาอันสวยงาม ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศของสวนเค็นโรคุเอ็น ซึ่งในแต่ละฤดูกาลความสวยงามก็จะแตกต่างกันไป เราจะสามารถสัมผัสถึงวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นได้จริงๆจากสถานที่แห่งนี้

โอซาก้า ทตโตริ

14. เนินทรายทตโตะริ – Tottori Sand Dunes

เนินทรายทตโตะริ - Tottori Sand Dunes

สถานที่สุดท้าย ที่จะมีทัวร์บริการพาไปบางฤดูกาลเท่านั้น คือเนินทรายทตโตะริ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติ เพราะมีทัศนียภาพที่สวยงามมากๆ ทั้งต้นไม้และดอกไม้ท้องถิ่นที่ขึ้นอยู่ประปราย และยังสามารถมองลงไปยังทะเลได้

อีกทั้งมีกิจกรรมที่สนุกสนานอยู่มากมาย เช่นการขี่อูฐ เล่นแซนด์บอร์ด หรือไม่ก็พาราไกลด์ดิ่งเหนือเนินทราย จึงเป็นอีก1สถานที่ ที่น่าสนใจ และเป็นวิวที่ดูแตกต่างจากทั่วไปในญี่ปุ่นอย่างมาก นอกจากนี้อีก 1 ความพิเศษของสถานที่แห่งนี้คือ ในหน้าหนาว เราสามารถที่จะเห็นทะเลทรายที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน สลับกับเนินทรายอันกว้างใหญ่อีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : tourkrub.co

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ :