สำหรับใครที่เบื่อเข้าเมือง ไม่อยากเผชิญรถติด หรือใครมีบ้านอยู่ฝั่งธน แต่ไม่เค๊ยไม่เคยจะเที่ยวแถวนี้สักครั้ง วันนี้ตามเราไปชิลล์ กับ 12 ที่เที่ยวฝั่งธนบุรี เช็คอินโลเคชั่นเด็ด แบบครบรส ทั้งสายบุญ กิน ช็อป ถ่ายรูป มีหมดเลยจ้า
12 ที่เที่ยวฝั่งธนบุรี
เช็คอินโลเคชั่นเด็ด แบบครบรส
1. ช่างชุ่ย
ช่างชุ่ย ที่เที่ยวย่านฝั่งธนฯ แบบฮิปๆ ชิคๆ ใครชอบถ่ายรูปไม่ควรพลาด ซึ่งนอกจากเราจะได้เห็นความครีเอท ศิลปะ และไอเดียต่างๆ ที่โครตเท่แล้ว ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้ง กิน เที่ยว รวมไปถึงเป็น Creative Space ให้ผู้คนมาพบปะสังสรรค์อีกด้วย
ที่ตั้ง : ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 22.00 น.
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : แวะไปถ่ายรูปฮิปๆ ชิคๆ ที่ ‘ช่างชุ่ย’ ที่เที่ยวแห่งใหม่ย่านฝั่งธนฯ
…
2. ฟาร์มเมล่อน บางหว้า
ขอบคุณภาพจาก : Bang Wa Melon • บางหว้าเมล่อน
อยากทานเมล่อนญี่ปุ่น ไม่ต้องบินไกล หรือออกนอกเมืองไปไหน แค่นั่งรถไฟฟ้าลงสถานีบางหว้า เดินต่ออีกนิดหน่อย เราก็จะเจอกับฟาร์มออร์แกนิกเล็กๆ ที่ด้านในมีเมล่อนแท้สายพันธ์ุญี่ปุ่น ปลูกด้วยระบบไฮโดรโปรนิกส์ มากถึง 500 ต้นเลยทีเดียว
ชิมเมล่อนรสหวาน กรอบ อร่อย จากนั้นเดินชมแปลงผักปลอดสารพิษ มะเขือเทศ ฟาร์มไก่ไข่ ถ้าร้อนนักก็พักเหนื่อย ดื่มน้ำเมล่อนเย็นชื่นใจ หรือน้ำเมล่อนปั่น ก็ช่วยดับกระหายได้อย่างดี
ที่ตั้ง : ถนนราชพฤกษ์ขาออก แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ (ด้านหลังร้านอาหารครัวอัปสร)
เวลาเปิด-เปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00
…
3. ฟาร์มลุงรีย์
ขอบคุณภาพจาก : Uncleree farm
ลุงรีย์ คือชายหนุ่มรุ่นใหม่อายุเพียง 27 ปี ที่สนใจการเพาะเลี้ยงไส้เดือนและการทำเกษตรอินทรีย์ จึงจัดสรรค์พื้นที่ส่วนหนึ่งในโรงรถเก่า ปลูกผักสวนครัว อีกส่วนเลี้ยงไส้เดือน ไก่ ห่าน แพะ หมู และทำปุ๋ยหมัก เปิดเป็นฟาร์มชื่อ UncleRee’s Farm ให้คนที่สนใจเข้าเยี่ยมชม พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แล้วจัดเวิร์คช็อปการเลี้ยงไส้เดือน เพื่อให้เอาความรู้ที่ได้กลับไปใช้กันจริงๆ
ที่ตั้ง : ซอยเพชรเกษม 46 แยก 11 กรุงเทพฯ
เวลาเปิดปิด : ทุกเช้าวันอาทิตย์ 10.00 -12.00 น.
การเดินทาง : BTS สถานีบางหว้า ต่อรถประจำทางทุกสายที่ผ่าน ลงป้ายธนาคารกรุงไทย ตรงข้ามศาลเจ้าพ่อเสือ เดินข้ามสะพานลอย เข้าปากซอย ตรงเข้าซอยเพชรเกษม 46 ประมาณสองร้อยเมตร แยก 11 เลี้ยงซ้าย ถึงที่หมาย
…
4. ล้ง 1919
จากอดีตท่าเรือกลไฟ กลายเป็น สถานที่ศึกษาประวัติศาสตร์ไทยจีนชั้นเยี่ยม ในชื่อ “ล้ง 1919” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามกับตลาดน้อย-เยาวราช ที่เที่ยวแนว Heritage แห่งนี้ มีทั้งอาคารสถาปัตยกรรมจีนโบราณ ภาพวาดตามผนังของตึก ลวดลายสุดคลาสสิคบนกรอบประตูและหน้าต่าง ศาลเจ้าแม่หม่าโจว้ โคมไฟสีแดงที่ห้อยประดับอยู่โดยรอบ โกดังสังกะสีสุดเท่ รับรองว่าได้รูปสวยๆ กลับไปแน่นอน
ที่ตั้ง : ถนนเชียงใหม่ แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด :
- ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว เปิดวันจันทร์ เวลา 11:00 – 20:00 น. และวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 09.00–20.00 น.
- โซน Art&Craft Shop เปิดทุกวันเวลา 10.00 – 20.00 น.
- โซน Eatery Zone เปิดทุกวันเวลา 10.00 -22.00 น.
การเดินทาง : BTS สถานีสะพานตากสิน (ทางออก 1, 2) แล้วต่อเรือ Shuttle Boat ของล้ง 1919 ที่ท่าเรือสาทร
…
5. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
ชมสถาปัตยกรรมที่สวยงามภายในวัด ประกอบด้วย พระปรางค์องค์ใหญ่ที่สร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ประดับตกแต่งลวดลายด้วยกระเบื้องสีต่างๆ และพระอุโบสถสร้างใหม่ทรงจตุรมุขสูงใหญ่ ถ้ามาช่วงเย็น เมื่อมองจากฝั่งพระนคร จะเห็นดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า หายวับไปด้านหลังพระปรางค์วัดอรุณฯ สาดแสงสีส้มสุดท้ายของวันสะท้อนผืนน้ำเจ้าพระยา เป็นภาพที่ประทับใจไม่รู้ลืม
…
6. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร เดิมชื่อวัดบางหว้าใหญ่ เป็นวัดโบราณมีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ผู้คนนิยมมาสักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และพระประธานยิ้มฟ้า โดยเชื่อกันว่าใครได้มาไหว้วัดระฆัง จะมีชื่อเสียงโด่งดัง คนนิยมชมชอบ เหมือนเสียงก้องกังวานของระฆังนั่นเอง
…
7. ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
ตลาดน้ำคลองลัดมะยม บอกเลยของกินเพียบ มีทั้งร้านบนบก และแม่ค้าพายเรือมาขาย ไฮไลท์เด็ดสุดต้องยกให้อาหารทะเล กุ้งเผา ปลาเผา หอยเผา หมึกย่าง ปูนึ่ง อิ่มอร่อยแบบกระเป๋าตังค์ไม่ฉีก นอกจากนั้นยังมี อาหารคาว หวาน ขนมโบราณ เครื่องดื่มเย็นๆ ของฝาก ของใช้ เสื้อผ้า เลือกซื้อกันตาลาย และก่อนกลับอย่าลืมมาล่องเรือชมวิถีชีวิตริมสองฝั่งคลองด้วยนะ สโลไลฟ์ได้อีก โดยตลาดจะเปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 9.00-16.00 น.
…
8. ชุมชนกุฎีจีน
ชุมชนกุฎีจีน เป็นชุมชนเก่าแก่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี บรรพบุรุษเป็นคนหลากเชื้อชาติและต่างศาสนา ทั้งจีน อินเดีย และยุโรป อยู่ร่วมกันมาอย่างปรองดองมากกว่า 200 ปี มีขนมขึ้นชื่อ คือ ขนมฝรั่งกุฎีจีน ซึ่งได้ต้นตำรับมาจากชาวโปรตุเกส รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็น โบสถ์ซางตาครูซ ศาลเจ้าเกียนอันเกง มัสยิดบางหลวง หรือ กุฎีขาว และ บ้านไม้แบบโบราณ ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้
…
9. ตลาดวังหลัง
ตลาดวังหลัง แหล่งช็อปปิ้งยอดฮิตโดนใจเด็กแนว เพราะนอกจากสารพันอาหารหวานคาว ที่มีให้เลือกซื้อตลอดทางเดินยาว 300 เมตร ยังเป็นแหล่งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง ในราคาถูกแสนถูก แถมคุณภาพก็ไม่ไก่กาซะด้วย
…
10. ตลาดน้ำตลิ่งชัน
อีกหนึ่งตลาดน้ำในกรุงเทพฯ ย่านฝั่งธน ตลาดน้ำตลิ่งชัน เป็นตลาดกึ่งชนบทผสมผสานระหว่างชีวิตริมน้ำกับธรรมชาติ มีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลาประมาณ 07.00 – 17.00 น. พ่อค้าแม่ค้าซึ่งก็คือชาวสวนในพื้นที่จะเริ่มนำผลผลิตจากสวน โดยมีทั้งพันธุ์ไม้ ผักสด ผลไม้ ปลา และอาหารต่างๆ มาจำหน่ายเหมือนตลาดสดทั่วไป แต่ผลผลิตจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารบนแพริมน้ำ และมีเรือทัวร์ของเอกชนพาชมคลองชมสวน ซึ่งจะได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ริมน้ำของชาวตลิ่งชัน
ขอบคุณภาพจาก : wikimedia
…
11. The Jam Factory คลองสาน
ขอบคุณภาพจาก : The Jam Factory
The Jam Factory (เดอะแจมแฟคตอรี่) อยู่ใกล้กับท่าเรือคลองสาน เป็นโครงการสุดชิคที่มีการปรับปรุงจากโกดังของโรงงานเก่า ให้กลายเป็นแหล่งพักผ่อนของคนเมืองกรุงริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟ ร้านอาหาร บริษัทออกแบบ ร้านค้า ร้านหนังสือ และแกลเลอรี่ของสถาปนิกไทย คุณดวงฤทธิ์ ดวงนาค
สำหรับลานว่างกลางแจ้ง ซึ่งแวดล้อมด้วยต้นไม้ร่มรื่นย์ ไว้จัดงานแสดงดนตรี อีเวนท์ นิทรรศการภาพถ่ายและศิลปะ อีกทั้งทุกวันเสาร์-อาทิตย์สิ้นเดือน จะมีตลาดนัด The Knack Market ให้เดินช้อปปิ้งกันแบบฮิปๆ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า งานแฮนเมด ของสะสม ของวินเทจ ลากยาวตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น.
ขอบคุณภาพจาก : The Knack Market
…
12. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
กราบไหว้พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต ที่วัดกัลยาณมิตร ซึ่งชาวจีนมักเรียกกันว่า หลวงพ่อซำปอกง เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย องค์ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ โด่งดังเรื่องการขอพรให้เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัยและมีมิตรไมตรีที่ดี
