วันนี้ Travel MThai จะพาทุกคนล่องใต้ แต่ทริปนี้ไม่มีน้ำทะเลสีครามใส ไม่มีหาดทรายขาว เพราะเราจะพาไปเที่ยว ทะเลหมอก ภาคใต้ ใช่แล้ว ฟังไม่ผิด ที่ภาคใต้บ้านเรานี่แหละค่ะ สวยไม่แพ้ภาคเหนือเลย ทะเลหมอกหนาลอยฟุ้ง อากาศดี๊ดี มีให้เห็นตลอดปี อย่างนี้ต้องรีบไป กับ 7 จุดชมวิวสุดอลังการ จะงามงด ชวนฟิน ดีต่อใจขนาดไหน มาดูกัน!!
7 จุดชมวิว ทะเลหมอก ภาคใต้
เที่ยวได้ตลอดปี
1. เขาไข่นุ้ย จ.พังงา
เขาไข่นุ้ย หรือ ภูเขาไข่นุ้ย มีสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่แพ้ดอยหรือภูทางตอนบนของประเทศ นั่นคือวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตก ทะเลอันดามันในมุมสูง วิวทิวเขาเรียงราย ทะเลหมอกที่มีให้ชมทั้งปี ไม่เว้นแม้แต่ฤดูร้อน แถมอากาศเย็นสบายคล้ายภาคเหนือ ถ้านอนกางเต๊นท์สักคืน จะฟินมาก
…
2. จุดชมวิวยอดเขาศูนย์ จ.นครศรีธรรมราช
ขอแนะนำ ทะเลหมอกแดนใต้ “ยอดเขาศูนย์” ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 510 เมตร วิวด้านบนมองเห็นทะเลหมอกได้รอบทิศ 360 องศา กับแสงสีทองของดวงอาทิตย์ยามเช้า ฟินวนไป! มันช่างดีต่อใจจริงๆ นอกจากนี้บนยอดเขายังเป็นที่ตั้งของสถานีถ่ายทอดสัญญาณโทรคมนาคม
…
3. ควนนกเต้น จ.พัทลุง
ขอบคุณรูปภาพจาก : จุดชมวิวควนนกเต้น พัทลุง
จุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ของพัทลุง ในอำเภอกงหรา เส้นทางเข้าอาจลำบากนิดหน่อย ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเข้าไป แต่รับรอง ทัศนยภาพเบื้องหน้าจะทำให้ทุกคนหายเหนื่อย แนะนำให้กางเต้นท์เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศ ตืนเช้ามานั่งจิบกาเเฟเบาๆ ดูสายหมอกตอนเช้า ดูเเสงเเรกของวันใหม่ หลังจากเสพวิวจนจุใจแล้ว ยังลงไปเล่นน้ำตกด้านล่างจุดชมวิวได้อีก ช่น น้ำตกมโนห์รา น้ำตกปากราง น้ำตกไพรวัลย์ ฯลฯ
…
4. ฮาลาบาลา จ.นราธิวาส
ขอบคุณรูปภาพจาก : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง
ใช่ว่า นาราธิวาส จะน่ากลัวไปเสียหมด เพราะหากได้มาสัมผัสธรรมชาติสวยๆ ของผืนป่าปลายด้ามขวานอย่าง ฮาลาบาลา แล้ว จะต้องตกหลุมรักจนอยากลับมาซ้ำอีกรอบแน่นอน
“ฮาลาบาลา” หรือ “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา” ผืนป่าใหญ่รวม 2 จังหวัดคือ ป่าฮาลา จังหวัดยะลา และ ป่าบาลา อยู่ในอำเภอแว้งและอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ได้รับการประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเดียวกัน อยู่ติดชายแดนไทย-มาเลเซีย
ไฮไลท์คือการเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ส่องสัตว์ โดยเฉพาะนกเงือกที่มีมากที่สุด แวะนั่งพักที่น้ำตกสิรินธร ชมพระอาทิตย์ขึ้นเคล้าทะเลหมอกบนจุดชมวิวภูศาลา ล่องแก่งในแม่น้ำสายบุรี ตื่นตาตื่นใจกับการร่อนแร่ทองคำแบบพื้นบ้าน ลอดอุโมงค์ที่ในอดีตเคยเป็นเส้นทางลำเลียงเหมืองแร่ทองคำ ปัจุจบันรอบๆ เต็มไปด้วยผืนป่าและลำธารไหลผ่าน
…
5. เขาจังโหลน กรุงชิง จ.นครศรีธรรมราช
ขอบคุณรูปภาพจาก : TAT Nakhon Si Thammarat
นอกจาก กรุงชิง จะมีน้ำตกที่สวยงามมากๆ แล้ว ยังมีทะเลหมอกที่รอเผยโฉมให้ทุกคนเห็นบนยอดเขาจังโหลน จัดว่าเป็นที่เที่ยวธรรมชาติ Unseen แห่งหนึ่งของเมืองคอน ดื่มด่ำบรรยากาศพร้อมชมตะวันยามเช้า สูดอากาศบริสุทธิ์ จิบกาแฟอุ่นๆ กลางสายหมอก ดีขนาดนี้ถ้าจะไม่มาก็ใจแข็งเกินไปแล้ว สำหรับการเดินทางขึ้นไปยังจุดชมวิว ต้องอาศัยรถนำเที่ยวของชาวบ้าน เพราะมีความชำนาญทางมากกว่า
…
6. อัยเยอร์เวง จ.ยะลา
เดิมทีเรียกว่า ยอดเขาไมโครเวฟ ที่ตั้งสถานีถ่ายทอดสัญญาณการสื่อสาร มีระดับความสูงประมาณ 612 เมตร จากระดับน้ำทะเล ปัจจุบันเรียกขานกันว่า ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ซึ่งสามารถชมทะเลหมอกได้แบบ 360 องศา ที่สำคัญคือไม่ว่าฤดูกาลไหนก็มีทะเลหมอกให้ชม (แต่จะเยอะหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) สามารถมองไปได้ไกลถึง ยอดเขากุนุงซิลิปัต บริเวณด้านล่าง มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม น้ำชา กาแฟ ส่วนใครอยากนอนค้างคืน ชาวบ้านเขาก็มีเต๊นท์บริการ ภายในพื้นที่สวนยางของชาวบ้านค่ะ
…
7. เขื่อนรัชชประภา อุทยานแห่งชาติเขาสก
จ.สุราษฎร์ธานี
ปิดท้ายที่ เขื่อนรัชชประภา ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาสก บอกเลยใครสายชิลล์ ชอบความสงบ อยู่กับธรรมชาติ ที่นี่จะทำให้คุณประทับใจแน่นอน ทั้งวิวทิวเขา ทะเลสาบกว้างใหญ่ ยามเช้ามีหมอกลอยคลอเคลียเหนือยอดเขาหินปูน นอกจากนี้ ยังมีแพพักให้นอนหลับไปพร้อมอากาศเย็นสบาย พ่วงด้วยกิจกรรมเล่นน้ำ พายเรือคายัค ตะลุยถ้ำ เดินป่า และชมบัวผุด ซึ่งจะบานในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : อนุสาร อ.ส.ท., TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง