วิกฤตการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้หลายอาชีพต้องหยุด หรืออาจจะต้องเลิกกิจการไปเลย สถานบันเทิงเป็นอีกหนึ่งกิจการที่โดนผลกระทบเช่นกัน คุณศศิวิมล ฝูงใหญ่ ผู้ที่เคยทำงานเป็นพนักงานบริการอยู่ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ก็ได้รับผลกระทบนี้ไม่ต่างจากคนอื่น
โดยในการระบาดสองระลอกแรก ร้านที่เคยทำงานต้องหยุดไป แต่ยังพอมีเงินเก็บประทังไปได้ จนกระทั่งการระบาดระลอกปัจจุบัน การที่จะรอให้ที่ทำงานที่ตนเคยทำมาหลายปีกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งน่าจะไม่ทันการณ์ คุณศศิวิมล จึงคิดอยากจะทำขนมขาย เพราะในช่วงสถานการณ์ปกติก็มีการทำขนมไปขายบ้าง เนื่องจากเป็นคนที่ชอบทำขนมอยู่แล้ว ประจวบเหมาะกับการเข้าไปดูคลิปๆหนึ่งใน Tik Tok เห็นมีการทำขนมครกใส้ทะลักขาย ตนเห็นว่าน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี จึงตัดสินใจนำเงินเก็บที่ยังเหลือไปซื้อเฟรนไชน์ และเริ่มลงมือหัดทำ ซึ่งจะมีใส้ทั้งหมด 5 ใส้ ประกอบด้วย มะพร้าว มันม่วง ฟักทอง เผือก และข้าวโพด
เปิดร้านมาร่วม 4 เดือน ถือว่ายอดขายค่อนข้างดี โดยในทุกๆวันคุณศศิวิมล จะเตรียมของอยู่ห้อง ทั้งการทำแป้ง และหน้าไว้สำหรับโรย และจะเริ่มออกมาตั้งร้านในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.ของแต่ละวันซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีผู้คนเดินพลุกพล่าน
เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีตลาด และของกินอยู่หลายร้าน และจะเริ่มเก็บร้านประมาณ 19.00 น. ที่มีลูกค้ามาซื้อบ่อย เพราะตนเองเลือกใช้กระทิสำเร็จรูปแทนที่จะใช้กระทิที่คั้นไว้แล้วตามตลาด ถึงแม้น้ำกระทิสำเร็จรูปจะมีราคาสูงกว่าถึงเกือบ 3 เท่า แต่จากการที่ตนได้เคยลองชิมขนมครกที่ทำขายดูแล้ว รู้สึกได้ว่ากระทิสำเร็จรูป ให้รสชาดที่นิ่งกว่า
“รายได้ตอนนี้อาจจะไม่เท่ากับตอนที่ทำอยู่ที่สถานบันเทิง แต่มันก็พอที่จะให้ตนเองเอาตัวรอดไปได้ และถ้าสถานบริการกลับมาเปิดได้อีกครั้ง ตนจะไม่กลับไปทำแล้ว เพราะร้านนี้ตนเองเริ่มทำด้วยความชอบในเรื่องทำขนม และก็ถือว่าเราเป็นเจ้านายตัวเองอีกด้วย”
คุณศศิวิมล กล่าวปิดท้าย
