ถ้าหากว่าคุณใช้สมาร์ทโฟน หรือ iPhone มาอย่างยาวนาน 1 ปัญหาที่คุณจะเจอเลยก็คือ แบตเตอรี่เสื่อมใช่ไหมครับซึ่งจะเกิดขึ้นเร็วหรือช้านั้นมันก็อยู่ที่พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ ด้วย วันนี้ Tech.MThai จึงมาดู 4 เหตุผลที่จะทำให้แบต iPhone เสื่อมเร็วกว่าเดิมจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยครับ
4. คุณใช้งานมันจนแบตเตอรี่เหลือน้อย
ผู้ใช้งานบางคนอาจจะรอจนกว่าแบตเตอรี่จะขึ้นแถบสีแดงจึงจะชาร์จ ซึ่งพฤติกรรมนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ และจะทำให้แบตเตอรี่ของคุณเสื่อมอย่างสมบูรณ์ ทางที่ดีควรชาร์จที่ละน้อยเมื่อคุณไม่ได้ใช้งานครับ
3. คุณใช้งาน iPhone ในขณะที่มันมีอุณหภูมิสูงเกินไป
แม้ว่าแบตเตอรี่ Lithium-ion รุ่นล่าสุดของ Apple จะสามารถรองรับการชาร์จเร็วและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพหากอยู่ในอุณหภูมิที่สูง ซึ่งทาง Apple ได้แนะนำอุณหภูมิที่เหมาะสมไว้อยู่ระหว่าง 0 – 35 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันแบตเตอรี่เสียหาย และควรหลีกเลี่ยงการเก็บ iPhone ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงๆ เช่นในรถยนต์ที่จอดตากแดด
2.ใช้อุปกรณ์ชาร์จแบตที่ไม่ได้มาตรฐาน
Apple มีมาตรฐาน MFi ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการซื้ออุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่นอกเหนือจากของ Apple เอง และไม่ควรซื้ออุปกรณ์ชาร์จราคาถูก ที่ไม่มีมาตรฐาน MFi เพราะอุปกรณ์เหล่านี้อาจจะจ่ายไฟไม่เหมาะสมต่อ iPhone ของคุณ และอาจจะไม่ป้องกันไฟกระชากด้วย
นอกจากนี้ยังมีบางกลุ่มที่เชื่อว่าการชาร์จแบบไร้สาย จะช่วยรักษาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ด้วยครับ
1.ไม่รักษาระดับพลังงานแบตเตอรี่ให้เพียงพอ
จากการศึกษาของ Battery University เผยว่าแบตเตอรี่ Lithium-ion จะสามารถทำงานได้ดีสุดเมื่อเก็บระดับพลังงานไว้ที่ 65-75% แต่สำหรับการใช้งานแบบทั่วไปนั้นจะให้เก็บพลังงานมากขนาดนั้นอาจจะลำบากเกินไป ฉะนั้นจึงควรเก็บแบตเตอรี่ไว้ที่ระหว่าง 25 -80 % เพื่อให้แบตเตอรี่ของคุณสามารถทำงานได้ดี
เป็นอย่างไรบ้างครับมีใครยังคงมีพฤติกรรมตาม 4 ข้อด้านบนบ้างครับ ซึ่งถ้ามีอาจจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานแบตเตอรี่ด้วยนะครับจึงจะสามารถยืดอายุการใช้งาน แบตเตอรี่ได้นานที่สุดครับ
ที่มา iDropnews
