Toyota Research Institute (TRI) ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีระบบดริฟท์รถโดยไม่ต้องจับพวงมาลัยเอง ซึ่งเป็นการต่อยอดจากเทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติมาประยุกต์ใช้งานในรถแข่ง เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของเทคโนโลยีดังกล่าว และยกระดับความปลอดภัยให้กับรถยนต์ไร้คนขับไปอีกขั้น
โดยทีม TRI ได้นำ Toyota GR Supra สเปครถแข่งทางเรียบ ที่ได้รับการอัปเกรดพวงมาลัยที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ด้วยคอมพิวเตอร์ คันเร่ง คลัตช์ เกียร์ซีเควนเชียล และเบรก นอกจากนี้ ระบบกันสะเทือน เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง แชสซี และระบบความปลอดภัย (เครื่องดับเพลิง ฯลฯ) ที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษจากนักดริฟท์ผู้เชี่ยวชาญ ให้คล้ายกับรถแข่ง Formula Drift
โดยทีมงานได้มุ่งหน้าทดสอบระบบนี้บนสนามแข่ง Thunder Hill Raceway โดยจำกัดความยาวไว้ที่สองไมล์ หรือ 3.21 กม.
ไฮไลท์สำคัญคือการใช้เทคโนโลยี NMPC (Nonlinear Model Predictive Control) ที่ได้รับการติดตั้งให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบขับขี่อัตโนมัติ เมื่อระบบนี้ทำงานทำให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ระบบขับเคลื่อนของตัวรถโดยอัตโนมัติได้เกินกว่าจุดจำกัดของยาง แสดงให้เห็นว่าสามารถเปลี่ยนจากการขับดริฟท์เป็นการขับแบบยึดเกาะถนนได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องบังคับพวงมาลัย
ทางบริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ว่า การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่นี้ จะสามารถสนับสนุนระบบความปลอดภัยในเทคโนโลยีไร้คนขับ เช่น การหลบหลีกสิ่งกีดขวางกระทันหัน หรือการขับรถบนพื้นน้ำแข็ง
Avinash Balachandran ผู้จัดการอาวุโสของ Human Centric Driving Research ที่ TRI กล่าวว่า “เป้าหมายของ TRI ไม่ใช่เพื่อแทนที่มนุษย์ แต่เพื่อใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการสนับสนุนขีดความสามารถของมนุษย์ ในโครงการนี้ เราได้ขยายขอบเขตการควบคุมรถที่ทำให้ผู้ขับขี่ทั่วไปมีการตอบสนองตามสัญชาตญาณของนักแข่งรถมืออาชีพ เพื่อรับมือกับเหตุฉุกเฉินที่ยากที่สุด และทำให้ผู้คนบนท้องถนนปลอดภัยยิ่งขึ้น”
เครดิตข้อมูลจาก pressroom.toyota.com
