จุดขายของ สมาร์ทโฟน ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปสดๆร้อนๆในเดือนนี้ ที่มีแบรนด์ใหญ่ๆอยู่ 2 ตัว อย่าง OPPO Reno5 Pro 5G และ Mi 11 ที่ทั้งสองตัวเน้นจุดขายอยู่ที่ กล้องเทพระดับสตูดิโอ เน้นเรื่องการถ่ายภาพวีดีโอสวยคมชัด เป็นจุดขายใหญ่ สำหรับใครที่กำลังเล็งทั้งสองตัวนี้อยู่เรามีรายละเอียดมาให้ได้ติดตามกัน
OPPO Reno5 Pro 5G สมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายวิดีโอ Portrait สวยที่สุด
ด้วยฟีเจอร์สำหรับถ่ายวิดีโอ Portrait อีกมากมาย เช่น
Dual-view Video ฟีเจอร์ที่สามารถบันทึกวิดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้า-หลัง ให้ทุกความทรงจำนั้นชัดเจนกว่าเดิม และอีกหนึ่งฟีเจอร์ คือ AI Highlight Video กับการใช้อัลกอริทึมปรับเปลี่ยนแสงอัตโนมัติ และเป็นการทำงานร่วมกับฟีเจอร์ Ultra Night Video และ Live HDR ทำให้ได้วิดีโอที่ตัวบุคคลโดดเด่น คมชัด แม้ถ่ายในที่แสงน้อยหรือย้อนแสงและรองรับการใช้งานทั้งกล้องหน้า-หลัง
ไม่เพียงแค่นวัตกรรมเพื่อการถ่ายวิดีโอ Portrait สวยที่สุดและล้ำสมัย OPPO Reno5 Pro 5G ยังได้รับการอัปเกรดดีไซน์ด้วยหน้าจอโค้งมนแบบ 3D Borderless Sense Screen ให้คุณได้เพลินเพลินและสนุกได้เต็มตา อีกทั้งตัวเครื่องยังมีขนาดบางเบา ดีไซน์สวยหรู พรีเมี่ยม และสามารถสะท้อนเฉดสีได้มากนับพันสีในเครื่องเดียว
OPPO Reno5 Pro 5G สมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายวิดีโอ Portrait สวยที่สุด มาในราคา 19,990 บาท มี 2 สี คือ สีเงิน Galactic Silver และสีดำ Starry Black พิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อ OPPO Reno5 Pro 5G ในระหว่างวันที่ 12-21 กุมภาพันธ์ รับฟรี E-VIP Card มูลค่า 9,000 บาท และหูฟัง OPPO Enco Free มูลค่า 3,999 บาท ในจำนวนจำกัด
Mi 11 สมาร์ทโฟน แฟลกชิป พร้อมกล้องระดับสตูดิโอ
มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ให้มือสมัครเล่นถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้ราวกับผู้กำกับภาพยนตร์มือฉมัง กล้องหลักเป็นเลนส์ไวด์ความละเอียดสูงที่สุดในโลกถึง
108 ล้านพิกเซล ช่วยให้ถ่ายภาพได้คมชัดและบันทึกรายละเอียดได้ครบถ้วน เทียบเท่ากับกับการบันทึกภาพโดยใช้กล้อง DSLR หรือมิเลอร์เลสระดับมืออาชีพ นอกจากนี้เลนส์อัลตราไวด์ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลและเลนส์เทเลมาโครความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ยังช่วยให้การบันทึกภาพทิวทัศน์มีความคมชัดขึ้น ทั้งยังช่วยให้ภาพที่ต้องการเน้นรายละเอียดมีเอฟเฟคโบเก้ที่สวยงาม กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล แบบ Punch Hole ช่วยลดขนาดขอบหน้าจอ ให้ผู้ใช้ดูดีทุกเวลาไม่ว่าจะเซลฟี่หรือระหว่างวิดีโอคอลกับเพื่อน
Mi 11 มีหน้าจอที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในท้องตลาด โดยได้รับคะแนน A+ และรางวัลหน้าจอยอดเยี่ยมจาก DisplayMate สถาบันทดสอบหน้าจอชั้นนำระดับโลก Mi 11 ใช้หน้าจอ AMOLED DotDisplay 6.81 นิ้วที่ทั้งสวยงามและใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม เสียวหมี่ส่งมอบนวัตกรรมหน้าจอที่ก้าวล้ำที่สุดด้วยความละเอียดสูงระดับ WQHD+และเทคโนโลยีการแสดงผลสีแบบ 10 บิต ให้รายละเอียดคมชัดและการเปลี่ยนการแสดงผลสีที่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Super Resolution ช่วยยกระดับวิดีโอความละเอียดต่ำขึ้นมาถึงความละเอียด WQHD+ ได้โดยไม่เพิ่มปริมาณการใช้ข้อมูล
Mi 11 มาพร้อมกับลำโพงคู่ที่ร่วมมือกับ ฮาร์แมน คาร์ดอน (Harman Kardon) ให้คุณภาพเสียงชั้นเลิศ อีกทั้งยังใช้กระจก Corning® Gorilla® Glass Victus™ ช่วยลดความความเสียหายจากการตกหรือร่วงหล่น ทั้งยังมีการเคลือบสารป้องกันคราบเหงื่อหรือไขมัน จึงสะท้อนแสงได้ดีแต่ไม่เกิดคราบลายนิ้วมือ สมาร์ทโฟน Mi 11 มี 2 สีให้เลือกคือสี Midnight Grey และ Horizon Blue
ราคาประมาณ 27,000 บาท และจะเริ่มวางขายช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้
