Digital Classroom ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ โรงเรียนกทม.

โรงเรียนกทม.เปลี่ยนไปแล้ว Digital Classroom ช่วยนักเรียนเรียนดีขึ้น เดินหน้าขยายครบ 437 โรงเรียน

วันที่ 4 ธันวาคม 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร Mr. Stuart Miller ผู้บริหาร Google…

Home / Other / โรงเรียนกทม.เปลี่ยนไปแล้ว Digital Classroom ช่วยนักเรียนเรียนดีขึ้น เดินหน้าขยายครบ 437 โรงเรียน

วันที่ 4 ธันวาคม 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร Mr. Stuart Miller ผู้บริหาร Google for Education ศ.ดร.จินตวีร์ คล้ายสังข์ และรศ.ดร.ประกอบ กรณีกิจ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกันเปิดโครงการ “Bangkok Digital Classroom – แกะกล่องความรู้สู่ห้องเรียน กทม. ยุคใหม่” เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนโครงการพัฒนาห้องเรียนดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 437 แห่ง ณ โรงเรียนราชบพิธ เขตพระนคร

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เราพูดกัน เสมอว่า “การศึกษาคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด” แต่การลงทุนนั้นจะไม่มีความหมายเลย หากเราไม่สามารถส่งมอบเครื่องมือที่ดีที่สุด ให้ถึงมือเด็ก ๆ ของเราได้อย่างเท่าเทียมกัน ทุกวันนี้ความรู้ไม่ได้อยู่แค่ในตำรา หรือจำกัดอยู่แค่ในห้องสี่เหลี่ยมอีกต่อไป แต่ความรู้มีอยู่ทุกที่บนโลกออนไลน์ หัวใจหลักอีกประการที่กรุงเทพมหานครได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลของ Google มาใช้ในโรงเรียนในสังกัดก็เพื่อพัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับนักเรียน เนื่องจากในปัจจุบันทักษะในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลนั้น สำคัญและจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันกันอย่างมาก ดังนั้นการเรียนการสอนก็มีความจำเป็นต้องปรับตามบริบทของชีวิตและยุคสมัยให้ทัน

ด้าน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า การที่เราใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการเรียนการสอนทำให้นักเรียนอยากเรียนรู้มากขึ้น ซึ่งนี่เป็นหัวใจสำคัญที่เราสามารถทำให้เด็กอยากเรียนรู้ถึงแม้ว่าจะอยู่นอกห้องเรียนก็ตาม โดยเฉพาะการเรียนรู้หรือการทำการบ้านก็จะถูกบันทึกไว้บน Cloud ซึ่งอยู่ในโลกดิจิทัล ทำให้การสูญหายเป็นไปได้ยาก แต่การหาไฟล์ต่าง ๆ เพื่อกลับมาดูอีกครั้งทำได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งประหยัดเวลาในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ด้วย

ห้องเรียนของกรุงเทพมหานคร กำลังจะเปลี่ยนจากห้องเรียนแบบเดิม เป็น “ห้องเรียนดิจิทัล” (Digital Classroom) อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ได้แค่นำเทคโนโลยีมาตั้งไว้เฉย ๆ แต่กำลังสร้าง Ecosystem หรือระบบนิเวศการเรียนรู้ใหม่ ผ่านเครื่องมือระดับโลกอย่าง Google for Education ด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย และที่สำคัญ คือ ลดความเหลื่อมล้ำ ให้เด็กทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยีและแหล่งความรู้ที่เหมือนกัน ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นสิ่งจุดประกายให้เด็กกทม. กว่า 2 แสนคน ได้สนุกกับการเรียนรู้แบบ Active Learning ได้ฝึกทักษะดิจิทัลที่จำเป็นต่ออาชีพในอนาคต โรงเรียน กทม. 437 แห่ง จะก้าวไปสู่ยุคใหม่ ยุคที่ “การเรียนรู้ไม่มีขีดจำกัด” รวมทั้งการใช้เทคโนโลยี Google Workspace for Education เพื่อเป็นเครื่องมือและโปรแกรมช่วยอำนวยความสะดวกในการศึกษา และพัฒนาสมรรถนะครูให้สามารถบูรณาการ เทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน และได้รับการพัฒนาทักษะทางดิจิทัลอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้การศึกษาพัฒนานักเรียนสู่พลเมืองโลก

สำหรับโรงเรียนสังกัด กทม. จำนวน 111 แห่ง ตามงานวิจัยของคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีผลงานวิจัยว่า การนำอุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่ทำงานด้วยระบบ AI มาใช้ในชั้นเรียนสามารถช่วยปรับปรุงผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียนได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งช่วยครูประหยัดเวลาในการทำงานธุรการ ทำให้มีเวลาสอนนักเรียนได้อย่างเต็มที่มากขึ้น โดยงานวิจัยนี้พบว่าชั้นเรียนที่ใช้ Chromebook ส่งผลให้นักเรียนมีส่วนร่วมมากขึ้นและส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก: ข้อมูลจากการศึกษานักเรียนกว่า 4,000 คน แสดงให้เห็นถึงการตอบรับในเชิงบวกอย่างล้นหลาม โดย 91% ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการเรียน ที่สำคัญกว่านั้น กว่า 87% มีทัศนคติเชิงบวกต่อเทคโนโลยีและรู้สึกอยากมีส่วนร่วมในการเรียนอย่างกระตือรือร้น นอกจากนี้ 68% ของนักเรียนรู้สึกว่าครูให้คำติชม ที่มีความหมายและมีความสำคัญต่องานมากขึ้น

ส่งเสริมการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21: คะแนนทักษะในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียน (เช่น การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การทำงานร่วมกัน) เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (จาก 7.9 เป็น 10 คะแนน) จากการประเมิน 3 ครั้งโดยใช้ Google Classroom ซึ่งช่วยให้การให้คะแนนจากชิ้นงานจริงของนักเรียนเป็นเรื่องง่ายและมีหลักฐานอ้างอิงที่ชัดเจน ครูมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีและทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น: การบูรณาการ Chromebook และ Google Workspace ในการเรียนการสอน ไปพร้อมๆ กับการสนับสนุนการพัฒนาทางวิชาชีพ ส่งผลให้คะแนนความสามารถในการบูรณาการเทคโนโลยีของครูเพิ่มขึ้นถึง 21% ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น โดย 81% ของครูเห็นพ้องต้องกันว่าโซลูชันด้านการศึกษาของ Google ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน ในขณะที่ 95% ของครูเห็นด้วยว่าควรขยายโครงการนี้ไปยังโรงเรียนในสังกัด กทม. ทั้งหมด

#ห้องเรียนดิจิทัล #โรงเรียนกทมเปลี่ยนไปแล้ว #เรียนดีมีคุณภาพ #เรียนดี