Back to School กรมกิจการเด็กและเยาวชน บริจาค โครงการเปิดเทอมใหม่ปันน้ำใจส่งน้องไปเรียน

พม. โดย กรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดตัวโครงการเปิดเทอมใหม่ ปันน้ำใจ ส่งน้องไปเรียน (Back – to – School)

เชิญชวนประชาชนที่สนใจร่วมบริจาคสิ่งของสนับสนุนการเรียนแก่นักเรียนที่ต้องการการสนับสนุนทั่วประเทศ วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม 2565 ณ ลานจอดรถข้างตึกดรุณวิถี สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี กทม. เวลา 10.00 น. อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (นางจตุพร โรจนพานิช)…

Home / Other / พม. โดย กรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดตัวโครงการเปิดเทอมใหม่ ปันน้ำใจ ส่งน้องไปเรียน (Back – to – School)

เชิญชวนประชาชนที่สนใจร่วมบริจาคสิ่งของสนับสนุนการเรียนแก่นักเรียนที่ต้องการการสนับสนุนทั่วประเทศ

วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม 2565 ณ ลานจอดรถข้างตึกดรุณวิถี สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี กทม. เวลา 10.00 น. อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (นางจตุพร โรจนพานิช) เป็นประธานเปิดตัวโครงการเปิดเทอมใหม่ ปันน้ำใจ ส่งน้องไปเรียน (Back – to – School) พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคสิ่งของสนับสนุนการศึกษาของนักเรียนที่ต้องการการสนับสนุนทั่วประเทศ เพื่อให้เด็กมีสิ่งของทางการศึกษาพร้อมสำหรับการเปิดภาคการศึกษาในเดือนพฤษภาคม 2565 นี้

นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีเด็กเสี่ยงที่จะหลุดจากระบบการศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากต้นทุนการศึกษาสูงเกินแบกรับและครัวเรือนจนเฉียบพลัน จากข้อมูลของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พบว่า ในช่วงสองปีเศษของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีนักเรียนยากจนพิเศษเพิ่มขึ้นสูง เป็นสถิติใหม่ถึง 1,244,591 คน หรือคิดเป็น 19.98 % ของนักเรียนทั้งหมด สร้างสถิติสูงสุดจากที่ผ่านมาในอดีตสาเหตุเนื่องจาก 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) ความยากจนฉับพลันจากผลกระทบของโควิด-19 และ 2) หลุดจากการเรียนออนไลน์ ความเหลื่อมล้ำในประเด็นการเข้าถึงอุปกรณ์ไอที

จากรายงานสถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำของประเทศไทย ปี 2563 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผลการสำรวจผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อเด็กและเยาวชนในประเทศไทย จากองค์การยูนิเซฟ พบว่า ความเหลื่อมล้ำค่อนข้างสูงระหว่างเด็กและเยาวชน กลุ่มครัวเรือน ที่รวยที่สุดกับกลุ่มครัวเรือนที่ยากจนที่สุดในการมีคอมพิวเตอร์ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้เด็กและเยาวชนมากกว่าร้อยละ 50 มีความกังวลด้านการเรียน การสอบ และโอกาสในการศึกษาต่อ ดังนั้น เพื่อเป็นแบ่งเบาภาระของครอบครัวทางด้านการศึกษา การซื้ออุปกรณ์การเรียน และการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงส่งเสริมการรวมกลุ่มของเครือข่ายจิตอาสาในระดับพื้นที่ทั่วประเทศ ที่จะร่วมสร้าง

“สังคมแห่งการแบ่งปัน” ซึ่งเป็นไปตามบทบาทของกระทรวงฯ ในการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่หลุดออกจากระบบการศึกษาและออกกลางคันกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) โครงการส่งเสริมโอกาสความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางการศึกษา“พาน้องกลับมาเรียน” ที่ขับเคลื่อนร่วมกันกับภาคีหน่วยงาน 11 หน่วยงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงได้บูรณาการ​ทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานในจังหวัด​ในสังกัดกระทรวง​ พม. ในลักษณะ One Home รวมไปถึงภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ และภาคประชาชนในพื้นที่เพื่อดำเนิน “โครงการเปิดเทอมใหม่ ปันน้ำใจ ส่งน้องไปเรียน (Back – to – School)” เป็นการรับบริจาคสิ่งของจากประชาชนเพื่อสนับสนุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่ต้องการการสนับสนุนทั่วประเทศจากฐานข้อมูลของกระทรวงฯ รวมถึงเด็กและเยาวชนที่มีสัญชาติไทยและไม่มีสัญชาติไทยที่ต้องการรับการสนับสนุนฯ ทั่วประเทศ

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจบริจาคสิ่งของ สามารถร่วมบริจาคอุปกรณ์หรือสิ่งของเพื่อสนับสนุนการศึกษา ทั้งลักษณะ on-site และ online หรือ ถุง กล่อง บรรจุภัณฑ์ทุกประเภทเพื่อนำมาบรรจุสิ่งของ และส่งมอบให้แก่กลุ่มเป้าหมายต่อไป โดยสามารถบริจาคได้ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ถึง 31 พฤษภาคม 2565 ในกรุงเทพมหานคร ณ สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี และในต่างจังหวัด ณ บ้านพักเด็กและครอบครัวทั่วประเทศ เพื่อให้เด็กมีสิ่งของที่สนับสนุนการศึกษาพร้อมสำหรับการเปิดภาคการศึกษา ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage “กรมกิจการเด็กและเยาวชน” จะมีเจ้าหน้าที่ที่สามารถให้รายละเอียดได้ตลอดโครงการ