แม้ปีนี้ด้วยสถานการณ์โควิด-19 จะทำให้กิจกรรมการขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT (ไทย ซีเล็คท์) ถูกเลื่อนออกไปเป็นปีหน้า แต่ผู้ประกอบการสินค้าอาหารไทยสำเร็จรูปหลายแบรนด์ยังรอที่จะสมัครเพื่อให้ได้รับตราสัญลักษณ์ เพราะข้อดีหลายๆ ด้านที่จะได้รับคุ้มค่ากับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับเกณฑ์ที่กำหนด ดังเช่นที่ผู้ส่งออกแบรนด์ดังเหล่านี้ที่ยังคงยื่นขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ต่อเนื่องในทุกปี
ข้อดีของ ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ทำไมต้องมี?
นายอุฬาร อภิรูปากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพ็นต้า อิมเพ็กซ์ จำกัด กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ของธุรกิจแบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก คือ เครื่องปรุงรสและซอส ผักและผลไม้ในน้ำเกลือ สินค้าอาหารแช่แข็ง สินค้าสเตอรีไรด์ และกลุ่มสุดท้ายคือผงปรุงรสและเครื่องเทศ รวมประมาณ 800 รายการ โดยเน้นการส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศมากกว่า 95% ภายใต้แบรนด์ต่างๆ อาทิ เพ็นต้า, ไทยบอย, White Elephant และแม่พิม มีตลาดหลักอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ลูกค้าคือผู้นำเข้าเพื่อไปจัดหน่ายภายในประเทศผ่านช่องทางต่างๆ
เงื่อนไขที่คณะกรรมการจะพิจารณาให้คะแนน Thai SELECT
“เริ่มขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ตั้งแต่ปี 2555 เพราะในเวลานั้นเห็นว่าเงื่อนไขที่คณะกรรมการจะพิจารณาให้คะแนน คือ
- รสชาติอาหารที่ต้องเป็นไทยแท้
- คุณภาพของผลิตภัณฑ์
- และมาตรฐานการผลิต
ซึ่งเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี อย่างน้อยถ้าผลิตภัณฑ์ของเรามีตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ผู้บริโภคก็จะรู้ว่าเราผ่านหลักเกณฑ์เบื้องต้นทั้ง 3 ด้าน ปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์อยู่ 26 รายการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ โดยเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์แกงสำเร็จรูป เครื่องปรุงรส และขนมไทยแช่แข็ง อาทิ แกงเขียวหวาน แกงส้มพร้อมปรุง น้ำพริกกะปิ ข้าวเหนียวทุเรียนแช่แข็ง และข้าวต้มมัดกล้วยแช่แข็ง เป็นต้น
ประโยชน์ของการมีตราสัญลักษณ์ Thai SELECT
ที่เห็นได้ชัดเจนคือ เรื่องความน่าเชื่อถือ เพราะเมื่อกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ทำการประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นในร้านค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ต (Instore Promotion) หรือการร่วมกับผู้นำเข้าที่นำเข้าสินค้าที่มีตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ไปจำหน่าย จะทำให้ผู้บริโภครู้จักผลิตภัณฑ์ที่มีตราสัญลักษณ์นี้ ส่งเสริมการบริโภคที่มากขึ้น ต่อยอดไปถึงการการันตีเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เกิดการรับรู้มากขึ้น เมื่อใดที่ผู้บริโภคเห็นตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ก็จะนึกถึงรสชาติความเป็นไทยแท้ ความมีคุณภาพและมาตรฐานที่ใช้การผลิต อีกทั้งเมื่อ DITP ทำการประชาสัมพันธ์ก็ไม่ได้เจาะจงทำประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่จะทำในหลายประเทศ เป็นระดับ Global ทำให้สร้างการรับรู้ได้หมด ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคชาวเอเชีย ชาวยุโรป ทุกคนก็รู้จักหมด ลำพัง ภาคเอกชนไปทำเองคนเดียวก็คงไม่ได้ สำหรับผู้ประกอบการที่มีการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป หรืออาหารแช่แข็ง ที่คิดว่ามีคุณสมบัติตรงกับเงื่อนไขโครงการ ก็น่าเข้ามาขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT หากผ่านเกณฑ์ก็เชื่อว่าจะได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้น”
นางสาวพราว วัชราภัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริษัท มอนตี้แอนด์ ท็อทโก้ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ อาหารไทยสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ “ไทยช้อยส์” (THAI CHOICE) ซึ่งปัจจุบันส่งออกไปกว่า 64 ประเทศทั่วโลก กล่าวว่า บริษัททำการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปมาแล้วกว่า 30 ปี โดยมีตลาดหลักอยู่ในโซนยุโรป อาทิ ฟินแลนด์ เยอรมนี และยูเครน เป็นต้น ส่วนตลาดรองลงมาจะเป็นโซนตลาดตะวันออกกลางอย่างดูไบ การ์ตา และเยเมน
“ไทยช้อยส์จะส่งผลิตภัณฑ์เข้าร่วมขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ทุกปี ปีละ 5-8 รายการ ขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ที่รับ ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT แล้ว 20 รายการ อาทิ น้ำยำส้มตำสำเร็จรูป น้ำพริกเผา ซอสผัดพร้อมปรุง น้ำแกงพะแนงพร้อมปรุง และน้ำแกงมัสมั่นพร้อมปรุง เป็นต้น โดยเริ่มขอรับมาตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งตราสัญลักษณ์นี้ช่วยแบรนด์ได้มากในด้านของภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ เพราะเป็นแบรนด์ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ มีการการันตีเรื่องรสชาติ ซึ่งโดยสไตล์บรรจุภัณฑ์ของแบรนด์นั้นก็จะมีความโดดเด่นอยู่แล้ว เพราะเน้นการสื่อสารถึงความเป็นไทย อย่างลายไทย คนหาบอาหารไทย แม้แต่เวลาที่ไปออกบูทประชาสัมพันธ์ในกิจกรรมใดก็จะแต่งตัวด้วยชุดไทย ทั้งหมดนี้จึงช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน
สำหรับตลาดของเมืองใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาหรือฝรั่งเศส ค่อนข้างจะมีการแข่งขันสูง เพราะมีแบรนด์ไทยเป็นจำนวนมาก จึงเริ่มมองหาตลาดใหม่ที่บางประเทศอาจจะยังไม่ใช่ลูกค้าในตอนนี้ แต่ก็เป็นประเทศที่มีศักยภาพที่อาจจะเป็นลูกค้าในอนาคต อย่างเอธิโอเปีย หรืออิหร่าน โดยเดินทางไปกับ DITP เมื่อมีการจัดกิจกรรม เพราะประเทศเหล่านี้หากแบรนด์จะเข้าไปเปิดตลาดเองก็คงจะเป็นเรื่องยาก”
ด้าน นายณัฐพรรษ อรัญเชาวน์ชัย เจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำจิ้มซีฟู้ดฟรีซดราย แบรนด์ “แซ่บจี๊ด” (Zabjeed) ผู้เริ่มต้นจากธุรกิจจำหน่ายกุ้งแช่น้ำปลาและปูไข่ดอง กล่าวว่า น้ำจิ้มซีฟู้ดฟรีซดรายเกิดขึ้นในช่วงที่จำหน่ายอาหาร เพราะมีกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจ บ้างก็ขอสั่งน้ำจิ้มซีฟู้ดเพิ่มต่างหาก จึงเริ่มใช้เวลาในการพัฒนาสูตรและน้ำจิ้มเพื่อให้ได้รสชาติถูกปาก โดยไม่ใส่สารกันบูดและผงชูรส ผลิตออกมาเป็นรูปแบบซองใช้ได้ครั้งเดียว เหมาะกับปริมาณการทาน 1 มื้อ หรือสองท่าน โดยกลุ่มเป้าหมายแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปต่างประเทศประมาณ 5-10 วัน และกลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเป็นระยะเวลานาน ซึ่งการหาวัตถุดิบต่างๆ เพื่อมาทำน้ำจิ้มซีฟู้ดค่อนข้างยากลำบาก บางที่พักอาศัยก็ไม่อนุญาตให้ประกอบอาหาร ผลิตภัณฑ์แซ่บจี๊ดจึงตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายนี้
“ตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ยังคงเป็นคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย อังกฤษ ยุโรป หรือ สหรัฐอเมริกา รวมถึงชาวต่างชาติที่เข้าใจในรสชาติอาหารไทยจริงๆ โดยเริ่มสมัครขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ตั้งแต่ปี 2561 จากการที่ไปร่วมงาน THAIFEX แล้วพบ Showcase จัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จึงรู้สึกว่าน้ำจิ้มซีฟู้ดของไทยเป็นของซึ่งขึ้นชื่อมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ต่างจากต้มยำกุ้ง ทำไมไม่ลองนำเอกลักษณ์ของน้ำจิ้มที่ขึ้นชื่อนี้ให้คนทั่วโลกได้รับรู้ว่าไทยไม่ได้มีดีแค่อาหารอย่างเดียว แต่น้ำจิ้มก็ยังเด็ดมาก แสดงได้ถึงความเป็นไทย ทานกับอะไรก็อร่อย จึงตัดสินใจขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT แต่เมื่อมาพบกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ยังไม่ได้ไปเปิดตลาดในต่างประเทศ แต่หลังจากนี้คาดว่าโปรแกรมต่างๆ ก็น่าจะดำเนินไปตามแผนงานได้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการรุกตลาดอีคอมเมิร์ซของต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น amazon.com หรือ ebay.com
ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT นั้นช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น ได้รับการรับรองเรื่องความเป็นไทย ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับตัวผลิตภัณฑ์ว่าได้รับการันตีจากหน่วยงานภาครัฐ เมื่อผู้บริโภคได้ค้นหาข้อมูลก็จะพบว่ามีผลิตภัณฑ์มากมายที่ได้รับการรับรองคุณภาพ มีความเป็นไทย รสชาติโดดเด่น ก็เพิ่มความน่าลองซื้อ สำหรับผู้ประกอบการที่เข้ามาขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT นั้น ที่สำคัญคือจะได้รับประสบการณ์ เพราะจะมีการเสนอ แนะนำ ติชมจากคณะกรรมการหรือหน่วยงาน ซึ่งให้ความรู้และคำแนะนำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ช่วยต่อยอดได้ในอนาคต สุดท้ายคืออยากเชิญชวนให้ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปไทยได้ร่วมกันสร้างชื่อให้กับประเทศไทยเพื่อให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ว่าประเทศไทยไม่ได้มีดีแค่อาหารบางชนิด แต่ยังมีของดีอีกหลายอย่างที่ควรจะได้ลิ้มลอง
สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามการประกาศรับสมัครขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ผ่านทางเว็บไซต์กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ www.ditp.go.th, www.thaiselect.com และ www.facebook.com/thaiselectditp