การจัดสภาพแวดล้อมที่ดีในออฟฟิศมีผลมากกว่าที่คิด เพราะพื้นที่ที่ต้องใช้ตลอดทั้งวันส่งผลต่อสมาธิ สุขภาพ และบรรยากาศการทำงานโดยตรง การเลือกเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศจึงกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้คนทำงานยุคใหม่รู้สึกคล่องตัวขึ้น ทำงานได้นานขึ้น และมีพื้นที่ที่รองรับสไตล์การทำงานที่หลากหลาย และเพื่อให้การจัดออฟฟิศเป็นเรื่องง่ายขึ้น บทความนี้ได้รวบรวมเคล็ดลับการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านดีไซน์ การใช้งาน และความสบาย เพื่อช่วยให้พื้นที่ทำงานกลายเป็นโซนที่เสริมพลังและทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นในทุกวัน
ทำไมการเลือกเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศถึงสำคัญกว่าที่คิด
หลายคนอาจมองว่าเฟอร์นิเจอร์เป็นเพียง “ของใช้” แต่ในความเป็นจริง เฟอร์นิเจอร์ส่งผลต่อการทำงานโดยตรง ลองนึกภาพพนักงานที่ต้องนั่งเก้าอี้แข็ง ๆ ปวดหลังตลอดทั้งวัน ย่อมส่งผลต่อสมาธิและความคิดสร้างสรรค์แน่นอน
การลงทุนเลือกเฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่ดีจึงสำคัญมาก เพราะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ช่วยให้พนักงานรู้สึกสบายตัว ลดอาการออฟฟิศซินโดรม และเมื่อพนักงานรู้สึกดี สุขภาพดี ก็ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน (Productivity) ที่ดีขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์ยังช่วยสะท้อนภาพลักษณ์และความเป็นมืออาชีพของแบรนด์ได้อีกด้วย
6 เคล็ดลับเลือกเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน ให้คุ้มค่าและสร้างสรรค์

เพื่อให้การลงทุนซื้อเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศครั้งนี้คุ้มค่าที่สุด ลองมาดู 6 เคล็ดลับที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ
1. วัดขนาดพื้นที่และวางฟังก์ชันให้ชัดเจน
ก่อนจะเริ่มมองหาดีไซน์ที่สวยงาม ต้องรู้ก่อนว่าพื้นที่ที่จะวางมีขนาดเท่าไหร่ และจะใช้ทำอะไร ไม่ควรเลือกโต๊ะประชุมที่ใหญ่เกินไปจนทำให้ห้องดูอึดอัด หรือเลือกตู้เก็บเอกสารที่เล็กไปจนเก็บของไม่พอ ควรวางแผนผังการเดิน (Flow) ให้พนักงานสามารถเดินสวนกันได้สะดวก และจัดโซนการทำงานให้ชัดเจน เช่น โซนทำงานเงียบ โซนประชุมทีม
2. ลงทุนกับเก้าอี้และโต๊ะที่รองรับสรีระ (Ergonomics)
พนักงานใช้เวลาอยู่บนเก้าอี้ทำงานเฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อวัน เฟอร์นิเจอร์ Ergonomics เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและไม่ควรประหยัดงบเด็ดขาด ควรมองหาเก้าอี้ Ergonomic ที่สามารถปรับระดับความสูง พนักพิง ที่วางแขน และมีส่วนรองรับหลังส่วนล่าง (Lumbar Support) ได้ ส่วนโต๊ะทำงานก็ควรมีความสูงที่เหมาะสม หรือถ้าเป็นไปได้ การเลือกใช้โต๊ะที่ปรับระดับความสูง-ต่ำ (Standing Desk) ก็เป็นทางเลือกที่ดีมาก เพื่อให้พนักงานได้เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง
3. เลือกวัสดุที่ทนทานและดูแลรักษาง่าย
ออฟฟิศเป็นพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกจึงต้องทนทาน ลองเปรียบเทียบวัสดุ เช่น โต๊ะทำงานที่ปิดผิวด้วยเมลามีนจะทนรอยขีดข่วนได้ดีกว่า หรือขาโต๊ะที่เป็นเหล็กก็จะแข็งแรงกว่าไม้ปาร์ติเกิล ส่วนเก้าอี้หรือโซฟา หากเลือกใช้เป็นหนังเทียม (PU) ก็จะทำความสะอาดง่าย แต่ถ้าเลือกเป็นผ้า ก็ควรเป็นผ้าที่ทนทานและถอดซักได้ การเลือกของดีมีคุณภาพในครั้งแรก อาจดูแพงกว่า แต่คุ้มค่าในระยะยาวแน่นอน

4. มองหาความยืดหยุ่น (Flexibility) ปรับเปลี่ยนได้
ออฟฟิศยุคใหม่ต้องการความคล่องตัวสูง การทำงานอาจไม่ได้จำกัดอยู่แค่โต๊ะประจำ การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับเปลี่ยนได้จึงสำคัญมาก เช่น โต๊ะทำงานที่มีล้อเลื่อนสำหรับจัดกลุ่มเวิร์กช็อปได้ง่าย โซฟาแบบโมดูลาร์ที่สลับปรับเปลี่ยนการจัดวางได้ หรือพาร์ติชันแบบเคลื่อนที่ได้ เพื่อให้สามารถปรับพื้นที่การทำงานได้ตามสถานการณ์
5. คุมโทนดีไซน์ สะท้อนภาพลักษณ์องค์กร
เฟอร์นิเจอร์เป็นสิ่งที่กำหนดบรรยากาศโดยรวมของออฟฟิศ ควรกำหนดสไตล์ที่ชัดเจนและเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เช่น หากบริษัทคุณเน้นความสนุกสนาน สร้างสรรค์ อาจเลือกใช้สีสันที่สดใส แต่หากเน้นความน่าเชื่อถือ เป็นมืออาชีพ การเลือกใช้โทนสีเรียบ ๆ อย่าง ขาว เทา ดำ หรือสีไม้ ก็จะช่วยคุมโทนได้ดีกว่า
6. อย่าลืมพื้นที่ส่วนกลางและมุมพักผ่อน
ประสิทธิภาพการทำงานไม่ได้เกิดจากโต๊ะทำงานเพียงอย่างเดียว มุมพักผ่อน (Pantry) หรือพื้นที่ส่วนกลาง (Common Area) ก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรมีเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เช่น โซฟานุ่ม ๆ หรือโต๊ะบาร์สูงสำหรับนั่งดื่มกาแฟ การมีพื้นที่ให้พนักงานได้เปลี่ยนบรรยากาศและพูดคุยกัน จะช่วยลดความเครียดและอาจก่อให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ ได้
เลือกแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศที่ไหนดี ที่ตอบโจทย์
หลายคนไม่รู้ว่าจะเลือกแบรนด์เฟอร์นิเจอร์สำนักงานแบรนด์ไหนดี เพราะมีตัวเลือกในตลาดเยอะมาก สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาคือชื่อเสียงของแบรนด์ ความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะด้านการออกแบบที่เข้าใจสรีระ (Ergonomics) และที่ขาดไม่ได้คือบริการหลังการขายและการรับประกันสินค้า
ถ้าหากกำลังมองหาแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจในระดับสากล และตอบโจทย์ออฟฟิศยุคใหม่ทั้งเรื่องดีไซน์และสุขภาพ หลายองค์กรชั้นนำมักจะแนะนำ Siam Okamura (สยาม โอคามูระ) เพราะเป็นที่ยอมรับอย่างมากในเรื่องคุณภาพ โดยเฉพาะเก้าอี้ทำงานที่ออกแบบมาโดยเข้าใจสรีระของคนนั่งทำงานจริง ๆ ดีไซน์ของเก้าอี้มีความเรียบหรู ทันสมัย และฟังก์ชันการปรับเก้าอี้ถือว่าทำได้ดีมาก ตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์ที่ทั้งสวยงามและใช้งานได้จริงในระยะยาว
และไม่ใช่แค่เก้าอี้ทำงานเท่านั้น โต๊ะทำงานของ Okamura ก็มีให้เลือกหลายรุ่นเช่นกัน ทั้งโต๊ะทำงานทั่วไป และโต๊ะทำงานแบบปรับระดับได้ ที่ช่วยให้พนักงานได้เปลี่ยนอิริยาบถ ลดอาการปวดหลัง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเฟอร์นิเจอร์สำหรับพื้นที่ส่วนกลางและห้องประชุมที่ยังคงคุมดีไซน์และคุณภาพไว้ในมาตรฐานเดียวกัน ทำให้การจัดออฟฟิศเป็นไปในทิศทางเดียวกันได้ง่าย หากสนใจอยากได้คำปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2661-5474-9
สรุปบทความ
การเลือกเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศ คือการลงทุนในสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของบริษัท นั่นคือ “คน” การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี สวยงาม และส่งเสริมสุขภาพ จะช่วยดึงดูดคนเก่ง ๆ ให้อยากมาร่วมงาน และรักษาพนักงานเดิมไว้ ทำให้พวกเขารู้สึกว่าองค์กรใส่ใจ และพร้อมที่จะสร้างผลงานที่ดีต่อไป