สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) โดย กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดงานสำคัญแห่งปี “Venture Rise Thailand 2025” (VR Thailand 2025) ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรม Park Hyatt Bangkok ประกาศความพร้อมพาไทยก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง ด้วยการ “ปลดล็อก” งานวิจัยจากหิ้งสู่ห้าง ผ่าน พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม (TRIUP Act) โดยภายในงานอัดแน่นด้วยไฮไลต์ 3 ด้านหลักที่ตอบโจทย์ทั้ง “โอกาสทางธุรกิจ-เทคโนโลยีล้ำสมัย-และเศรษฐกิจสร้างสรรค์”

1. ด้านธุรกิจ: เปิดประตู Investment Gateway เชื่อมทุนไทย-เทศ สู่ Deep Tech
สกสว. ปูพรมแดงต้อนรับนักลงทุนด้วยกลยุทธ์ “Investment Gateway” คัดสรรงานวิจัยระดับ “พร้อมใช้จริง” (Commercial Ready) กว่า 300 ผลงานในรูปแบบ Innovation Catalog มาให้นักลงทุนช้อปปิ้ง โดยมีไฮไลต์สำคัญทางธุรกิจ ได้แก่:
โอกาสการลงทุนใหม่ (New S-Curve): มุ่งเน้นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง เช่น การแพทย์ (Medical Hub), อาหารแห่งอนาคต และ Deep Tech ซึ่งจะช่วยขยาย GDP ของประเทศ
กลไก Co-investment & Matching Fund: ลดความเสี่ยงให้นักลงทุนด้วยกองทุนร่วมลงทุนระหว่างรัฐ-เอกชน เพื่อดึงดูด FDI (Foreign Direct Investment) ให้บริษัทข้ามชาติเข้ามาตั้งฐาน R&D ในไทย
เวที Audition สู่ Shark Tank Thailand: เปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพและนักวิจัยนำเสนอผลงานเพื่อเข้าสู่รายการเรียลลิตี้ธุรกิจชื่อดัง เพิ่มโอกาสการระดมทุนจริงในระดับมหาชน

2. ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี (Deep Tech & MedTech): นวัตกรรมเปลี่ยนโลกฝีมือคนไทย
พบกับสุดยอดเทคโนโลยีทางการแพทย์และวัสดุศาสตร์ ที่ผสาน AI และวิศวกรรมขั้นสูง ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดโลก:
ระบบ AI คัดกรองเบาหวานเข้าจอตา (ARDA): ความร่วมมือระดับโลกกับ Google Health และ รพ.ราชวิถี นำ AI มาช่วยคัดกรองผู้ป่วยด้วยความแม่นยำสูงถึง 95% เชื่อมต่อ Digital Platform เพื่อป้องกันการตาบอดในผู้ป่วยเบาหวานได้อย่างทันท่วงที
เครื่องคัดกรองมวลกระดูกพกพา (เครื่องแรกของโลก): นวัตกรรมร่วมกับ รพ.จุฬาลงกรณ์ ใช้แสงอินฟราเรดและ AI วิเคราะห์ความหนาแน่นกระดูก รู้ผลใน 1 นาที แม่นยำเทียบเท่าเครื่องมือแพทย์มาตรฐาน ปลอดภัยไร้รังสี เหมาะสำหรับการแพทย์ทางไกล
หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดกระดูก (OrthoAssist): แขนกลกึ่งอัตโนมัติ 6 แกน สำหรับศัลยกรรมกระดูก เพิ่มความแม่นยำ ลดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อ และบันทึกข้อมูลเพื่อการสอนแพทย์
PiLeatha หนังเทียมจากใยสับปะรด: นวัตกรรมวัสดุศาสตร์ที่ผลิตในไทย 100% เปลี่ยนใยสับปะรดและยางธรรมชาติให้เป็นหนังเทียมโครงสร้าง Monolayer ที่ทนทานกว่า PU/PVC ตอบโจทย์เทรนด์ Sustainability โลก

3. ด้านการวิจัยและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Research & Creative Economy): กินดี อยู่ดี มีสไตล์
การนำงานวิจัยมายกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Local Wisdom) สู่ระดับสากล:
นวัตกรรมอาหาร (Functional Food): “Enzyme Arto” เทคโนโลยีเอนไซม์เปลี่ยนน้ำตาลในน้ำผลไม้ให้กลายเป็น “พรีไบโอติก” ช่วยให้คนไทยดื่มน้ำผลไม้ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำตาล ดีต่อลำไส้และสุขภาพ
แฟชั่นรักษ์โลกและภูมิปัญญา (Creative Textiles):
นวัตกรรมผ้าพิมพ์สีธรรมชาติจากบัว (มทร.ธัญบุรี): การนำบัวหลวงสัญลักษณ์ปทุมธานี มาสกัดสีพิมพ์ลายบนผ้าสะท้อนน้ำ ผสมผสานแฟชั่นกับฟังก์ชัน
ชุดย้อมสีธรรมชาติ DIY (ราชภัฏสกลนคร): ชุด Kit ย้อมครามที่ทำเองได้ที่บ้าน สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภค
ผ้ามัดย้อมชิโบริ แม่อิง (ม.พะเยา): การยกระดับวิสาหกิจชุมชนริมน้ำอิง จ.พะเยา ผสานเทคนิคญี่ปุ่นกับสีธรรมชาติท้องถิ่น สร้างรายได้ให้กลุ่มสตรี โดดเด่นด้วยพวงกุญแจ “ปลา 8 ตัว” (ปลากินบ่เสี้ยง) สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ไม่รู้จบ

ศ. ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวทิ้งท้ายว่า “งาน VR Thailand 2025 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เห็นว่า งานวิจัยไทยไม่ได้อยู่แค่ในกระดาษ แต่คือเครื่องจักรเศรษฐกิจตัวใหม่ที่พร้อมขับเคลื่อนประเทศ สร้างรายได้ให้นักลงทุน และยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยอย่างยั่งยืน”

ผู้สนใจ ทั้งนักลงทุน ภาคธุรกิจ และประชาชนทั่วไป สามารถเข้าร่วมชมงานและเจรจาธุรกิจได้ในวันที่ 25-26 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรม Park Hyatt Bangkok
