บุหรี่ไฟฟ้า สูบพอด โดปามีน

บุหรี่ไฟฟ้า ซ่อนร้าย ทำประสิทธิภาพสมองลดลง 3-4 เท่า

บุหรี่ไฟฟ้าขโมยอนาคตสมองของวัยรุ่นไปทีละนิด บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน แต่ถูกออกแบบให้ดู “ห่างไกลบุหรี่” เพื่อปกปิดความจริงว่า ข้างในเต็มไปด้วย สารพิษที่ซ่อนร้าย

Home / PR NEWS / บุหรี่ไฟฟ้า ซ่อนร้าย ทำประสิทธิภาพสมองลดลง 3-4 เท่า
บุหรี่ไฟฟ้า

บุหรี่ไฟฟ้า ซ่อนร้าย ทำประสิทธิภาพสมองลดลง 3-4 เท่า

ในปัจจุบันข้อความข้างต้นไม่ได้กล่าวเกินจริงอีกต่อไป ในไทยพบผู้ป่วยเฉียบพลันจากผลกระทบระยะสั้น และหลายรายเลิกสูบแล้วกลับไปไม่เหมือนเดิม จากที่หลายคนคิดว่าแค่สูบพอดจะเป็นอะไร

บุหรี่ไฟฟ้าที่ถูกทำให้ดูไม่อันตราย หรือ ดูอันตรายน้อย ผ่านการตลาดที่แทรกลูกเล่นผ่านตัวผลิตภัณฑ์ ผ่านการโปรโมท เพื่อกลบความอันตรายที่ซ่อนไว้ โดยล่าสุดหยิบเอาตัวการ์ตูนต่างๆ ที่เด็กวัยรุ่นนิยมมาใช้ออกแบบเรียกว่า ToyPod ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายทำให้เยาวชน คนรุ่นใหม่หลายคนเข้าใจผิดไปหยิบมาลองสูบ แต่ความจริงแล้ว อันตรายที่ซ่อนอยู่ในสารเคมีเหล่านั้นไม่ได้น้อยลงตามรูปร่างของบุหรี่ไฟฟ้าเลย แต่กำลังสะสมรอการระเบิดในร่างกายของผู้สูบ

ในวันนี้จะมาเล่าถึง “กับดัก” ที่ “ซ่อนและจ้องทำร้าย” สมองโดยเฉพาะสมองวัยรุ่นที่กำลังพัฒนา อวัยวะในส่วนสมองยังเติบโตไม่เต็มที่

สารเคมีทำสมองติด จนถึงทำลายประสิทธิภาพสมองให้ลดลง 3-4 เท่า

สมอง

1.ควบคุมสมองให้เสพติด : สมองถูกตั้งโปรแกรมใหม่โดยไม่รู้ตัว

นิโคติน สารเสพติดยังเป็นตัวการสำคัญในเรื่องนี้ สารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ได้มีน้อยกว่าบุหรี่มวนอย่างที่หลายคนเข้าใจ บางชนิดกลับเข้มข้นกว่าเนื่องจากเลือกปริมาณความเข้มข้นได้ ทั้งใส่กลิ่นเย้ายวนถ้าลองสังเกตลายคนหยิบมาสูบบ่อยทำให้รับสารนี้ไปเต็มๆ

• เมื่อนิโคตินเข้าสู่ร่างกาย จะไปกระตุ้นสารเคมีในสมองชื่อ โดปามีน ทำให้รู้สึกดีแบบฉาบฉวย หลอกอารมณ์
• แต่ทุกครั้งที่โดปามีนพุ่ง สมองจะเริ่ม “เรียนรู้ผิดทาง” ว่าต้องการนิโคตินเพื่อให้รู้สึกดีอีก และยิ่งต้องการมากขึ้นๆ
• ผลคือเกิด วงจรการเสพติด: ยิ่งสูบ → ยิ่งอยาก → ยิ่งขาดไม่ได้

2. ทำลายสมองที่กำลังเติบโตสูงถึง 3-4 เท่า : สารเคมีที่เข้าไปมันไม่ได้หายไปไหน

สารเคมีอันตรายมากมายไม่ได้กระจายหายไป แต่ไปตามอวัยวะต่างๆ สมองของคนโดยเฉพาะวัยรุ่นยังอยู่ในช่วงพัฒนา โดยเฉพาะส่วนที่ควบคุมการเรียนรู้ การตัดสินใจ และการควบคุมอารมณ์ การสูบบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เกิดผลเสียระยะยาว

ทำลายสมอง

รศ.นพ.ชัยยศ คงคติธรรม หัวหน้าสาขาวิชาประสาทวิทยา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวไว้ในงานแถลงข่าว เรื่องปัญหาสุขภาพจิตในวัยรุ่นที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าว่า “ผลงานวิจัยพบความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่ไฟฟ้ากับประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับการเรียนและงาน การตัดสินใจแย่ลง โดยเด็กที่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้าประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงได้ถึง 3-4 เท่า”
https://www.hfocus.org/content/2024/06/30806

สูบพอด

กลไกและผลกระทบต่อสมองจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่พบได้

ความจำสั้น สมาธิลดลง : อ่านหนังสือไม่เข้าหัว หลงๆ ลืมๆ บ่อยขึ้น
• อารมณ์เหวี่ยงง่าย : รู้สึกหงุดหงิด เครียด หรือซึมเศร้าได้ง่ายกว่าเดิม
ทักษะตัดสินใจแย่ลง : สมองส่วนเหตุผลทำงานลดลง ตัดสินใจผิดพลาดได้บ่อยขึ้น
เสี่ยงต่อโรคสมองในอนาคต เช่น สมองเสื่อมก่อนวัย

พูดง่ายๆ คือ บุหรี่ไฟฟ้าขโมยอนาคตสมองของวัยรุ่นไปทีละนิด บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน แต่ถูกออกแบบให้ดู “ห่างไกลบุหรี่” เพื่อปกปิดความจริงว่า ข้างในเต็มไปด้วย สารพิษที่ซ่อนร้าย และสิ่งที่ถูกทำลายอย่างหนักที่สุดคือตัวผู้สูบ และสมองของผู้สูบ

ถามตัวเองอีกครั้ง…คุ้มไหม ที่จะแลกสมองสดใหม่กับควันลวงตาเพียงไม่กี่พ่น?
หากใครเริ่มตั้งคำถามอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า แล้วอยากอ่านข้อมูลเพิ่มเติม
สสส. ได้มีคู่มือ “บุหรี่ไฟฟ้า รู้ไว้ ร้ายจัด” ที่รวบรวมผลกระทบ อันตรายหากสูบบุหรี่ไฟฟ้า
อย่าเพิ่งเชื่อ ลองอ่านด้วยตนเอง พิจารณาด้วยตนเอง
https://creativehealthcampaign.thaihealth.or.th/microsite/icanchange/Tobacco/บุหรี่ไฟฟ้า/content/4632


Source
https://www.hfocus.org/content/2024/06/30806