การจ้างงานและจัดการแม่บ้านในบ้านให้ราบรื่นและมีประสิทธิภาพต้องอาศัยการวางแผนที่ชัดเจน การสื่อสารที่ตรงไปตรงมา และคุณจะต้องกำหนดขอบเขตหน้าที่ที่ชัดเจน เพื่อให้บ้านของคุณเป็นระเบียบ หน้าที่หลักที่ควรรู้ก่อนการ จ้างแม่บ้าน และการจัดการในบ้าน นั้นมีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ..
บทบาทของแม่บ้านรายวันในชีวิตประจำวัน
รับทำความสะอาดแม่บ้านรายวัน (Daily Maid) คือ บุคลากรที่เข้ามาทำหน้าที่ดูแลบ้านเป็นครั้งคราวตามกำหนดในระยะเวลาที่ตกลงกัน (ส่วนมากจะเป็นการทำงานเต็มวัน หรือครึ่งวันต่อครั้ง) บทบาบทบาทของพวกเขามีหน้าที่ รักษาสุขอนามัยและความเป็นระเบียบของบ้านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ว่าจ้างมีเวลาทำกิจกรรมอื่นๆ ในชีวิตประจำวันมากขึ้น
ความแตกต่างระหว่างแม่บ้านรายวันและแม่บ้านประจำ

แม่บ้านรายวัน เหมาะสำหรับบ้าน/คอนโดขนาดเล็ก หรือผู้ที่ไม่ได้ต้องการทำความสะอาดทุกวัน
ข้อดี คือ
• ควบคุมค่าใช้จ่ายได้: จ่ายเท่าที่ใช้จริง ทำให้ประหยัดกว่าหากไม่ได้ใช้บริการบ่อยๆ
• ลดภาระ: ไม่ต้องวุ่นวายกับการบริหารจัดการเรื่องค่าจ้างรายเดือน วันหยุด หรือสวัสดิการ
• ความหลากหลาย: หากจ้างผ่านบริษัท สามารถเปลี่ยนคนได้ง่ายหากไม่พอใจในผลงาน
แม่บ้านประจำ เหมาะสำหรับบ้านขนาดใหญ่, มีสมาชิกในครอบครัวมาก, ต้องการความสะอาดอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา, หรือต้องการความช่วยเหลือในงานบ้านอื่นๆ นอกเหนือจากการทำความสะอาด
ข้อดี คือ
• ความต่อเนื่อง: แม่บ้านคุ้นเคยกับพื้นที่และความต้องการของบ้าน ทำให้ทำงานออกมางมีประสิทธิภาพ
• ความไว้วางใจ: เมื่อทำงานร่วมกันนานๆ จะสร้างความไว้วางใจได้ดีกว่า
• ความสะดวกสบาย: บ้านจะได้รับการดูแลความสะอาดอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
• ขอบเขตงานกว้าง: มักจะสามารถดูแลงานอื่นๆ ได้นอกเหนือจากการทำความสะอาด เช่น การซักรีด การจัดระเบียบ หรือการดูแลสัตว์เลี้ยงเป็นต้น
ความยืดหยุ่นของการใช้บริการแม่บ้านรายวัน
คุณสามารถเลือกวันและเวลาที่แม่บ้านจะเข้ามาทำงานได้อย่างอิสระ รับทําความสะอาดบ้านช่วงเช้า บ่าย หรือเย็น รวมถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับบริการของบริษัท/บุคคลที่จ้าง) อีกทั้งยังสามารถเลือกแพ็คเกจได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่และปริมาณงาน เช่น 2 ชั่วโมง, 4 ชั่วโมง, 8 ชั่วโมง ทำให้จ่ายเฉพาะเวลาที่ใช้จริง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ประโยชน์ที่ครอบครัวได้รับจากการมีแม่บ้านรายวัน

ได้ “เวลาคุณภาพ” ของครอบครัวคืนมา เรียกได้ว่า เป็นประโยชน์ที่สำคัญที่สุดเลยล่ะค่ะ การทำความสะอาดบ้านอย่างละเอียดมักจะใช้เวลาหลายชั่วโมงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ การ จ้างแม่บ้าน รายวันช่วยปลดปล่อย คุณและคู่ชีวิตจากภาระงานบ้านที่เหน็ดเหนื่อย ทำให้คุณสามารถนำเวลาไปใช้ทำกิจกรรมที่ร่วมกันกับครอบครัว เช่น ใช้เวลากับลูก พาไปเที่ยว, อ่านหนังสือ, หรือเล่นกิจกรรมเสริมพัฒนาการ และยังช่วยให้เราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะนอนหลับ, ดูหนัง, หรือทำงานอดิเรกเพื่อคลายเครียดจากการทำงาน เป็นต้น
หน้าที่หลักของแม่บ้านรายวัน
หน้าที่หลักของแม่บ้านรายวัน (หรือแม่บ้านรายชั่วโมง) คือการ ดูแลเรื่องความสะอาดและความเรียบร้อยภายในพื้นที่ที่ตกลงกันไว้ โดยจะเน้นไปที่งานทำความสะอาดเบื้องต้นถึงเชิงลึกภายในระยะเวลาที่กำหนด เนื่องจากเป็นการจ้างแบบยืดหยุ่น หน้าที่จึงขึ้นอยู่กับการ ตกลง ระหว่างผู้ว่าจ้าง (คุณ) กับแม่บ้าน/บริษัทผู้ให้บริการ
การทำความสะอาดทั่วไปในบ้าน
การทำความสะอาดทั่วไปในบ้าน คือการดูแลรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบของบ้านให้ถูกสุขลักษณะและน่าอยู่ โดยมักจะเน้นไปที่งานประจำวันและประจำสัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกสะสมจนกลายเป็นปัญหาใหญ่
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการทำความสะอาดบ้าน ควรทำตามลำดับขั้นตอนจาก บนลงล่าง และ จากในออกนอก
ขั้นตอนและรายการงานทำความสะอาดทั่วไป
1. การจัดระเบียบเบื้องต้น (ก่อนทำความสะอาด)
การเคลียร์พื้นที่เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุด เพราะช่วยให้คุณทำความสะอาดพื้นผิวได้ง่ายขึ้น
2. การกำจัดฝุ่น (จากบนลงล่าง)
เริ่มกำจัดฝุ่นจากด้านบนสุดก่อน เพื่อให้ฝุ่นตกลงสู่พื้น ซึ่งจะถูกเก็บกวาดในขั้นตอนสุดท้าย
3. การทำความสะอาดเฉพาะจุด/ห้อง
เน้นห้องที่ต้องการสุขอนามัยเป็นพิเศษ เช่น ห้องน้ำและห้องครัว
4. การทำความสะอาดพื้น (ขั้นตอนสุดท้าย)
เมื่อฝุ่นและสิ่งสกปรกทั้งหมดตกลงสู่พื้นแล้ว จึงเริ่มทำความสะอาดพื้นเป็นลำดับสุดท้าย
การดูแลห้องครัว ห้องน้ำ และพื้นที่ส่วนรวม

การดูแลห้องครัว
• ล้างจานและอุปกรณ์ครัวทันที ไม่ควรแช่ทิ้งไว้ข้ามคืนเพื่อป้องกันกลิ่นและแมลง
• เช็ดเคาน์เตอร์และอ่างล้างจาน เช็ดให้แห้งเสมอเพื่อป้องกันคราบน้ำและเชื้อโรคสะสม
• ทำความสะอาดเตา เช็ดคราบอาหารหรือน้ำมันที่หกทันทีหลังทำอาหาร
• เทขยะครัว โดยเฉพาะขยะเปียก ควรนำไปทิ้งทุกวัน
การดูแลห้องน้ำ
• ใช้ไม้รีดน้ำ รีดน้ำออกจากพื้นห้องน้ำและผนังส่วนเปียกหลังอาบน้ำทุกครั้ง
• แขวนผ้าเช็ดตัวให้แห้ง ไม่ควรทิ้งผ้าเปียกไว้ในห้องน้ำ
• เปิดระบายอากาศ เปิดพัดลมดูดอากาศ หรือเปิดหน้าต่างทิ้งไว้เพื่อลดความชื้น
การดูแลพื้นที่ส่วนรวม เช่น ห้องนั่งเล่น, โถงทางเข้า
• เก็บของให้เรียบร้อย จัดโซฟา หมอนอิง และรีโมทให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
• เช็ดโต๊ะกลาง/โต๊ะข้าง เช็ดทำความสะอาดฝุ่นและรอยคราบ
• จัดวางรองเท้าบริเวณทางเข้าให้เป็นระเบียบ
งานซักรีดและจัดเก็บเสื้อผ้า
การเตรียมเสื้อผ้าก่อนซัก
1. อ่านฉลากสัญลักษณ์การดูแล เสื้อผ้าแต่ละชนิดมีข้อกำหนดในการซัก อุณหภูมิ และวิธีการรีดที่แตกต่างกัน ควรทำความเข้าใจสัญลักษณ์บนฉลากก่อน
2. แยกประเภทเสื้อผ้า
•แยกตามสี: ผ้าขาว, ผ้าสีอ่อน, และผ้าสีเข้ม (ควรกลับด้านในออกก่อนซักเพื่อลดการซีดจาง)
•แยกตามประเภทผ้า: แยกผ้าเนื้อหนา (เช่น ยีนส์ ผ้าขนหนู) ออกจากผ้าเนื้อบาง (เช่น ผ้าไหม ผ้าชีฟอง) และเสื้อผ้าที่ต้องซักมือ
•แยกตามความสกปรก: ผ้าที่สกปรกมากเป็นพิเศษ หรือมีคราบเปื้อนหนัก ควรกำจัดคราบเฉพาะจุดก่อนซักรวม
3. ตรวจเช็คและเตรียมพร้อม
•ตรวจสอบกระเป๋า: นำสิ่งของทั้งหมดออกจากกระเป๋าเสื้อและกางเกง
•รูดซิปและติดกระดุม: รูดซิปให้สุดและติดกระดุมเสื้อ/กางเกง เพื่อป้องกันไม่ให้ซิปเสียหายและเกี่ยวเสื้อผ้าอื่น
•ซ่อมแซม: หากมีส่วนที่ชำรุด เช่น ตะเข็บหลุด หรือกระดุมหลุด ควรซ่อมแซมก่อนนำไปซัก
การซักและการตากผ้า
1. ขจัดคราบเฉพาะจุด (Pre-treating) ใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบป้ายบนรอยเปื้อนทันที (คราบใหม่มักจะกำจัดง่ายกว่า) แล้วปล่อยทิ้งไว้ตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์
2. การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์
•ใช้ผงซักฟอก/น้ำยาซักผ้าในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป
•เลือกใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนสำหรับผ้าบอบบาง
•ควรใส่น้ำยาซักผ้าลงในเครื่องก่อน แล้วจึงใส่เสื้อผ้าตามลงไปเพื่อป้องกันสารตกค้างบนผ้า
3. การซัก เลือกโหมดและอุณหภูมิที่เหมาะสมกับประเภทผ้า หากเป็นผ้าบอบบางหรือชุดชั้นใน ควรใส่ในถุงตาข่ายก่อนนำเข้าเครื่องซักผ้า
4. การตากผ้า
•สลัดผ้า: หลังซักเสร็จ ให้นำผ้าขึ้นมาสลัดเบา ๆ เพื่อคลี่ผ้าและลดรอยยับก่อนตาก
•แสงแดด: หลีกเลี่ยงการตากผ้าสีเข้มหรือผ้าที่บอบบางไว้กลางแดดจัดโดยตรง เพราะจะทำให้ผ้าซีด ควรตากในที่ร่มมีลมโกรก
•การแขวน: สำหรับเสื้อเชิ้ตหรือเสื้อยืด ควรใช้ไม้แขวนเสื้อที่เหมาะสมเพื่อคงรูปทรง ไม่ควรหนีบผ้าบริเวณบ่า เพราะจะทำให้เกิดรอยยัง
การรีดผ้า
1. ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม ควรอ่านฉลากผ้าและตั้งอุณหภูมิเตารีดให้เหมาะกับชนิดของผ้า (เช่น ผ้าใยสังเคราะห์ใช้อุณหภูมิต่ำ, ผ้าฝ้ายใช้อุณหภูมิปานกลาง, ผ้าลินินใช้อุณหภูมิสูง)
2. พรมน้ำหรือรีดตอนหมาด ควรรีดผ้าในขณะที่ผ้ายังมีความชื้นเล็กน้อย หรือพรมน้ำก่อนรีด จะช่วยให้ผ้ารีดเรียบง่ายขึ้น
3. หลีกเลี่ยงการรีดทับ ไม่ควรรีดทับลวดลายปัก ลายสกรีน หรือซิปโดยตรง ควรกลับด้านในออกก่อนรีด
การจัดเก็บเสื้อผ้า
1. ตรวจสอบความแห้งสนิท ต้องแน่ใจว่าเสื้อผ้าแห้งสนิทก่อนเก็บเข้าตู้ เพื่อป้องกันกลิ่นอับและเชื้อรา
2. การแยกประเภทและจัดระเบียบ
• แขวน: เสื้อเชิ้ต, ชุดสูท, ชุดเดรส, กระโปรง ควรแขวนด้วยไม้แขวนเสื้อที่เหมาะสม และมีพื้นที่ให้เสื้อผ้าไม่เบียดกันแน่นเกินไป
• พับเสื้อยืด, กางเกงยีนส์, เสื้อผ้าใส่ในบ้าน สามารถพับเก็บในลิ้นชักหรือบนชั้นวางได้
• เสื้อถัก/เสื้อกันหนาว ไม่ควรแขวน เพราะน้ำหนักของผ้าอาจทำให้เสียรูปทรงได้ ควรพับเก็บ
สภาพแวดล้อมในตู้:
• ตู้เสื้อผ้าควรเป็นที่แห้งและมีอากาศถ่ายเทสะดวก
• ใช้ผลิตภัณฑ์ดูดความชื้น หากตู้เสื้อผ้าอยู่ในบริเวณที่อับชื้น
• ใส่น้ำหอมอ่อน ๆ หรือถุงหอมไว้ในตู้ เพื่อให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมละมุน
สิ่งที่ควรรู้ก่อนการจ้างงานแม่บ้านรายวัน
• กำหนดขอบเขตงานหลัก: การจ้างแม่บ้านรายวันมักจะเน้นที่งานทำความสะอาดหลักๆ เช่น กวาด, ถู, ปัดฝุ่น, ล้างห้องน้ำ, ล้างจาน (ปริมาณเล็กน้อย) คุณต้องระบุให้ชัดเจนว่าต้องการเน้นส่วนใดเป็นพิเศษ เช่น “เน้นล้างห้องครัวให้สะอาดหมดจด” หรือ “เน้นเช็ดกระจกและปัดฝุ่นของตกแต่ง”
• งานที่ควรแยกหรือแจ้งล่วงหน้า: งานเฉพาะทาง/งานหนัก เช่น การทำความสะอาดตู้เย็น/ตู้ครัวภายใน, การซักผ้าม่าน, การจัดเก็บของที่รกมาก, หรือการทำความสะอาดหลังการก่อสร้าง มักจะไม่รวมอยู่ในขอบเขตงานมาตรฐาน และอาจต้องแจ้งเพิ่มหรือเพิ่มเวลา/ค่าใช้จ่าย
• งานซักรีด: หากต้องการให้มีการซักผ้าหรือรีดผ้าด้วย ต้องตกลงกันให้ชัดเจนว่ารวมอยู่ในชั่วโมงที่จ้างหรือไม่
• ความสมจริงของเวลา: ชั่วโมงทำงานมีจำกัด (เช่น 3-4 ชั่วโมง) อย่ากำหนดงานที่มากเกินกว่าจะทำเสร็จได้ในเวลานั้น ควรกำหนด ลำดับความสำคัญ ของพื้นที่หรือห้องที่ต้องการให้ทำก่อน เนื่องจากการจ้างงานมีระยะเวลาจำกัด คุณต้องกำหนดสิ่งที่ต้องการให้ชัดเจนที่สุด
การจ้างแม่บ้านรายวัน ช่วยจัดการบ้านให้ง่ายและมีประสิทธิภาพ

การจ้างแม่บ้านรายวันเป็นการ เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการจัดการบ้าน ของคุณอย่างชัดเจน โดยเฉพาะสำหรับคนวัยทำงานหรือครอบครัวที่มีกิจกรรมเยอะ ทำให้บ้านสะอาดอยู่เสมอโดยที่คุณไม่ต้องเสียสละเวลาส่วนตัวไปกับการทำงานบ้านเลย อีกทั้งยังทำให้คุณสามารถ คุมงบประมาณ ได้ง่ายกว่าการจ่ายเงินเดือนและสวัสดิการอื่นๆ ให้แม่บ้านประจำ