ประกันสังคม คืออะไร เช็กสิทธิ์ประกันสังคมด้วยตนเองทำได้อย่างไร
จะส่งประกันสังคมไปทำไม ในเมื่อจ่ายไปก็ไม่เคยได้ใช้? เชื่อว่าผู้จ่ายเงินประกันสังคมต่างตั้งคำถามนี้กันเป็นประจำ แถมผลตอบแทนที่ได้รับจากประกันสังคมเรียกได้ว่าน้อยพอ ๆ กับการฝากเงินในบัญชีเงินฝากประจำเสียอีก แล้วแบบนี้จะจ่ายเงินให้กองทุนประกันสังคมไปทำไม ซื้อกองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทนสูงไม่ดีกว่าหรอกหรือ?
แต่ในยุคที่งานประจำมีความมั่นคงน้อยลง การทำประกันสังคมไว้ย่อมช่วยให้คุณมีเบาะรองรับยามฉุกเฉิน เพราะถึงแม้ว่าว่างงาน ประกันสังคมก็พร้อมช่วยเหลือคุณในด้านค่าใช้จ่าย ในบทความนี้จะพาทุกคนมาหาคำตอบกันว่าประกันสังคมสำคัญอย่างไร และประเภทของผู้ประกันตนมีอะไรบ้าง
ชวนหาคำตอบ ประกันสังคม คืออะไร
ประกันสังคม คือกองทุนที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 เพื่อเป็นเงินออมและสวัสดิการให้แก่ลูกจ้าง โดยตามกฎหมายกำหนดให้หักเงินสมทบฝั่งลูกจ้างและนายจ้างฝ่ายละ 5% ของค่าจ้างสูงสุด 750 บาทต่อเดือน จากนั้นฝั่งรัฐบาลจะจ่ายเงินสมทบให้ 2.75% ของค่าจ้าง อย่างไรก็ตามหากเป็นผู้สมัครประกันสังคม กลุ่มประกันตนเองที่ไม่มีนายจ้างจ่ายสมทบ บุคคลดังกล่าวจะต้องจ่ายเงินสมทบด้วยตนเองตามอัตราที่กฎหมายกำหนด และรัฐบาลจะจ่ายเงินสมทบให้สูงสุด 50% ของเงินสมทบ
ทั้งนี้ บางคนอาจสงสัยว่าผู้ประกันตนนั้นหมายถึงอะไร? ผู้ประกันตน คือ บุคคลที่จ่ายเงินสมทบเพื่อทำประกันสังคม ซึ่งต้องมีอายุตั้งแต่ 15 – 65 ปีบริบูรณ์ (นับรวมผู้ประกันตน ม.33 และ ม.39) โดยหลังจากจ่ายเงินสมทบตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่กองทุนกำหนด เช่น ชดเชยกรณีว่างงาน โดยต้องยื่นเรื่องภายใน 30 วันนับแต่วันที่สิ้นสุดการจ้าง ณ สำนักงานประกันสังคม หรือกรณีผู้ประกันตนเสียชีวิต ประกันสังคมจะจ่ายเงินค่าทำศพ เงินสงเคราะห์ และเงินบำเหน็จชราภาพให้ เป็นต้น
ผู้ประกันตนประกันสังคม มีทั้งหมดกี่ประเภท
พระราชบัญญัติกองทุนประกันสังคม พ.ศ. 2533 แบ่งลักษณะของผู้ประกันตนออกเป็น 3 ประเภทดังต่อไปนี้
- ผู้ประกันตนตามพ.ร.บ. กองทุนประกันสังคมมาตรา 33 คือผู้ทำงานที่อยู่ในสถานประกอบการตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป หรือเรียกกันว่ามนุษย์เงินเดือน เป็นกลุ่มที่ได้รับสิทธิประโยชน์สูงที่สุด โดยได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งหมด 7 กรณี ได้แก่ ชดเชยกรณีชราภาพ, ว่างงาน, สงเคราะห์บุตร, เจ็บป่วย, คลอดบุตร ทุพพลภาพ และเสียชีวิต
- ผู้ประกันตนตามพ.ร.บ. กองทุนประกันสังคมมาตรา 39 คือผู้ประกันตนที่เคยอยู่กลุ่มประกันสังคม ม. 33 มาก่อน แต่พ้นสภาพการจ้างงาน และเลือกที่จะจ่ายเงินสมทบประกันสังคมเพื่อรักษาสิทธิ์ต่อไป ซึ่งตามกฎหมายแล้วผู้ประกันตนมาตรา 39 จะต้องจ่ายเงินสมทบ เป็นเงินเดือนละ 432 บาท โดยความคุ้มครองที่ได้รับจากประกันสังคมมาตรา 39 มีทั้งหมด 6 กรณี ได้แก่ ชดเชยกรณีชราภาพ, สงเคราะห์บุตร,เจ็บป่วย, คลอดบุตร, ทุพพลภาพ และเสียชีวิต
- ผู้ประกันตนตามพ.ร.บ. กองทุนประกันสังคมมาตรา 40 คือกลุ่มอาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ไม่แน่นอน โดยการสมัครประกันสังคมมาตรา 40 ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ และความคุ้มครองที่ได้รับขึ้นอยู่กับแผนที่จ่ายเงินสมทบ
เช็กสิทธิประกันสังคมได้ช่องทางไหนบ้าง

หลังจากจ่ายเงินสมทบให้กับกองทุนประกันสังคมแล้ว ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจไป เพราะเราต้องตรวจสอบว่าได้รับสิทธิประกันสังคมแล้วจริงหรือไม่ ซึ่งมีช่องทางสำหรับตรวจดูสิทธิประกันสังคม ดังต่อไปนี้
เช็กสิทธิประกันสังคมผ่านทางเว็บไซต์
• เข้าเว็บไซต์ www.sso.go.th
• หลังจาก login แล้ว เลือกเมนู “บริการออนไลน์” และเข้ารายการ “ตรวจสอบสิทธิ”
• กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก พร้อมรหัสผ่าน
• กดเข้าสู่ระบบ
• เมื่อเสร็จแล้วระบบจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประกันสังคมในด้านต่าง ๆ เช่น สิทธิประโยชน์ทดแทน, การส่งเงินสมทบ, การคำนวณเงินสงเคราะห์ชราภาพ และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่ผู้ประกันสังคมตามมาตรานั้น ๆ ได้รับ
เช็กสิทธิประกันสังคมผ่านแอปทางรัฐ
• ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ทางรัฐ
• ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ
• เลือกเมนูประกันสังคม จากนั้นกดตรวจสอบสิทธิ
• กรอกเลขบัตรประชาชน และกดค้นหา
• เมื่อเสร็จแล้วระบบจะขึ้นข้อมูลสิทธิประกันสังคมของคุณ
เช็กสิทธิประกันสังคมผ่านแอป SSO Connect
นอกจากตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ และแอปทางรัฐแล้ว ก็สามารถตรวจสอบสิทธิประกันสังคมทางออนไลน์ ได้จากแอปประกันสังคมได้โดยตรง ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
• ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SSO Connect
• ติดตั้งแอปพลิเคชันและลงทะเบียน
• กรอกข้อมูลส่วนตัวและตั้งรหัสผ่าน
• เข้าสู่ระบบด้วยเลขบัตรประชาชนของคุณและรหัสผ่านที่ตั้งขึ้น
• เลือกเมนูตรวจสอบสิทธิ
• เมื่อเสร็จแล้วระบบจะแสดงข้อมูลสิทธิประกันสังคมต่าง ๆ เช่น สถานพยาบาลที่ใช้สิทธิ สถานะการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของผู้ประกันตน เป็นต้น
ฟรีแลนซ์ทำประกันสังคมได้ไหม
ในกรณีที่ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์ก็สามารถสมัครประกันสังคมได้เช่นเดียวกัน โดยต้องสมัครประกันสังคมมาตรา 40 ซึ่งมีรายละเอียดการสมัครดังต่อไปนี้
- ดำเนินการสมัครด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมใกล้บ้าน หรือสมัครผ่านช่องทางอื่น ๆ เช่น ธนาคาร ธ.ก.ส , เคาน์เตอร์เซอร์วิส และเว็บไซต์ประกันสังคม เป็นต้น โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว
- เลือกแผนความคุ้มครอง โดยประกันสังคม ม 40 สามารถเลือกได้ 3 แผน ได้แก่
• แผนสมทบเดือนละ 70 บาท คุ้มครอง 3 กรณี ประกอบด้วยชดเชยกรณีเจ็บป่วย เสียชีวิต และทุพพลภาพ
• แผนสมทบเดือนละ 100 บาท คุ้มครอง 4 กรณี ประกอบด้วยชดเชยกรณีเจ็บป่วย เสียชีวิต ทุพพลภาพ และชราภาพ (รับแบบบำเหน็จ)
• แผนสมทบเดือนละ 300 บาท คุ้มครอง 5 กรณี ประกอบด้วยชดเชยกรณีเจ็บป่วย เสียชีวิต ทุพพลภาพ ชราภาพ (รับแบบบำเหน็จ) และสงเคราะห์บุตร
ประกันสังคม จ่ายแล้วคุ้มค่า สิทธิประโยชน์เพียบ!
การที่นายจ้างหักค่าประกันสังคมทุกเดือน ไม่ได้เป็นเรื่องสูญเปล่าอย่างที่ทุกคนเข้าใจ เพราะลูกจ้างจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายจากประกันสังคม เช่น เงินชดเชยจากกรณีว่างงาน ค่ารักษาพยาบาล และได้รับเงินบำนาญ ดังนั้นการหมั่นจ่ายเงินประกันสังคมอย่างสม่ำเสมอ ย่อมทำให้คุณได้รับสวัสดิการอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะเกษียณไปแล้วก็ตาม
หากองค์กรของคุณต้องนำส่งเอกสารของพนักงานให้กับประกันสังคมจำนวนมาก และเสียเวลาจัดการเอกสารเป็นประจำ ขอแนะนำ empeo ตัวช่วยในการจัดการด้าน HR สำหรับองค์กร มีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การจัดการมากมาย เช่น ฟีเจอร์ Payroll ที่ให้ HR จัดทำเอกสารเพื่อยื่นประกันสังคมในเวลาอันรวดเร็ว และหักค่าประกันสังคมของพนักงานได้อย่างถูกต้องด้วยระบบอัตโนมัติ พร้อมบันทึกเวลาการทำงานขาดลามาสายไปในคราวเดียวกัน ซึ่ง empeo พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาไม่มีหยุด เพื่อประสิทธิภาพการจัดสรรองค์กรที่ดียิ่งขึ้น