application เลิกบุหรี่ เลิกบุหรี่ไฟฟ้า เลิกพอด

ฝีมือเยาวชนไทยคิดค้นนวัตกรรมเลิกพอด “LIBERIS” แผ่นฟิล์มละลายในปาก- แอปพลิเคชันเลิกบุหรี่ไฟฟ้า

ปัจจุบันมียาที่ใช้ในการรักษาเพื่อเลิกบุหรี่จำนวนหลายรายการ แต่ละรายการมีข้อดี ข้อเสีย และราคา ความคุ้มค่าแตกต่างกันไป   ไซทิซิน(Cytisin) ซึ่งมีการใช้มาเป็นระยะเวลานานในบางประเทศ  ถือเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่  สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันองค์การเภสัชกรรม ได้วิจัยและพัฒนายาเลิกสูบบุหรี่ชนิดใหม่ คือ ยาเม็ด ไซทิซิน…

Home / PR NEWS / ฝีมือเยาวชนไทยคิดค้นนวัตกรรมเลิกพอด “LIBERIS” แผ่นฟิล์มละลายในปาก- แอปพลิเคชันเลิกบุหรี่ไฟฟ้า

ปัจจุบันมียาที่ใช้ในการรักษาเพื่อเลิกบุหรี่จำนวนหลายรายการ แต่ละรายการมีข้อดี ข้อเสีย และราคา ความคุ้มค่าแตกต่างกันไป  

ไซทิซิน(Cytisin) ซึ่งมีการใช้มาเป็นระยะเวลานานในบางประเทศ  ถือเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่  สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันองค์การเภสัชกรรม ได้วิจัยและพัฒนายาเลิกสูบบุหรี่ชนิดใหม่ คือ ยาเม็ด ไซทิซิน จีพีโอ ขนาด 1.5 มิลลิกรัม ถือเป็นยาเม็ดที่ช่วยให้ผู้ติดบุหรี่ได้เข้าถึงยาเลิกสูบบุหรี่คุณภาพดี ราคาถูกได้ ที่สำคัญประสิทธิภาพยาตัวนี้สามารถลดอาการขาดยาจากการขาดนิโคตินได้ดี   

การเสพติดนิโคติน การจะเลิกไม่ง่ายๆ หลายรายจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์  แต่สำหรับผู้ที่ต้องการที่จะเลิกบุหรี่ แต่ไม่สะดวกอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์  เช่น เยาวชนบางกลุ่ม ที่ได้ทดลองสูบบุหรี่ หรือบุหรี่ไฟฟ้า เเละได้เสพติดนิโคตินเเล้ว เเต่ไม่กล้าที่จะบอกผู้ปกครองว่า ตนเองเสพติดนิโคตินเเล้ว  

นายวิน วรทรัพย์ไพศาล (นาฟต้า) และ นายกฤตบุญ ศิรินันท์ (แฮปปี้) นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่ เริ่มต้นเล่าถึงที่มาที่ไปที่ทำให้ พวกเขาคิดค้นนวัตกรรม LIBERIS หรือ แผ่นฟิล์มละลายในช่องปาก เพื่อการช่วยลดระดับการเสพติดนิโคตินจากบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า และได้นำมาโชว์ในงานประชุมวิชาการบุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 23  ในโอกาสครบรอบ 20 ปี ศจย. เมื่อเร็วๆ นี้

“ผมสองคนจึงร่วมกันคิดว่า จะทำอย่างไรให้เยาวชนลดการสูบบุหรี่ และเห็นว่า ปัจจุบันมีตัวยา Cytisine ที่อย.อนุมัติให้ใช้แล้ว จึงศึกษาเพิ่มและอยากต่อยอดยาตัวนี้ เพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้ง่ายขึ้น คล้ายๆ กับหมากฝรั่ง หรือ ลูกอม จนมาเจอแผ่นฟิลม์แปะในช่องปากใช้แทนสารนิโคตินช่วยลดและเลิกสูบบุหรี่

เราช่วยกันคิดค้นผลิตผลิตภัณฑ์ LIBERIS โดยการนำ Cytisine มาทำให้อยู่ในรูปแบบของเเผ่นฟิล์มละลายในช่องปาก (Oral Dissolving Film) เพื่อช่วยในการลดอาการเสพติดนิโคติน ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ เลิกบุหรี่แต่ไม่ชอบรับประทานยาในรูปแบบเม็ด หรือแคปซูล รวมถึงกลุ่มเยาวชนที่ไม่สามารถหรือไม่ต้องการการเข้ารับการบำบัดจากเเพทย์

น้องแฮปปี้ คำนวณการใช้แผ่นฟิล์มละลายในช่องปาก ต้องใช้จำนวนเท่าไหร่ถึงจะช่วยลด หรือสุดท้ายเลิกบุหรี่ได้นั้น เขาจะใช้วิธีคำนวณจากการสูบบุหรี่ปกติคนละไม่เกินวันละ 20 มวน จึงคำนวณปริมาณการใช้แผ่นแปะ 20 แผ่นต่อวัน โดยมีตัวยา Cytisine  9 มิลลิกรัม เชื่อว่า จะทำให้หยุดบุหรี่ได้ภายใน 25 วัน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวินัยของผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเองด้วย

“ตอนนี้โครงการแผ่นฟิล์มเลิกบุหรี่นี้ อยู่ระหว่างการทดลองและวิจัยขึ้นรูปแผ่นฟิล์มทางการแพทย์ เพื่อทำเป็นโครงการต้นแบบและอยู่ระหว่างยื่นขอทุนสนับสนุนจากศจย.เพื่อนำเงินมาใช้ในการวิจัย จนกระทั่งสามารถผลิตสินค้าออกมาวางตลาดได้จริง” น้องวิน ตั้งเป้ากับนวัตกรรมชิ้นนี้

สำหรับโครงการนวัตกรรม LIBERIS เป็นแผ่นฟิล์มละลายในช่องปาก เพื่อการช่วยลดระดับการเสพติดนิโคตินจากบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า ไปจนถึงช่วยในการเลิกบุหรี่ ด้วยการเเปะภายในช่องปากบริเวณใต้ลิ้นก่อนการสูบบุหรี่ โดยในเเผ่นฟิล์มจะมีตัวยา Cytisine ที่ทำหน้าที่ยับยั้งการดูดซึมนิโคตินของร่างกาย และตัวยานี้จะถูกนำส่งผ่านการดูดซึมผ่านเยื่อบุช่องปากและเยื่อบุใต้ลิ้น  ซึ่งแผ่นฟิล์มจะมีการเติมสารแต่งกลิ่นเลียนธรรมชาติ เพื่อให้แผ่นแปะมีความน่าใช้งานมากขึ้นและกระตุ้นการใช้ซ้ำ

No Vape สร้าง ‘แอปพลิเคชันเลิกบุหรี่’

ใช้สมาร์ทวอทช์ เกาะติดสุขภาพเรียลไทม์

เมื่อการสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพก็เริ่มปรากฏอย่างชัดเจน งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า นิโคตินสามารถส่งผลกระทบระยะยาวต่อพัฒนาการของสมอง สุขภาพจิต และก่อให้เกิดภาวะเสพติดในกลุ่มวัยรุ่น  รวมถึง การสูดดมละอองไอจากบุหรี่ไฟฟ้า ยังทำให้เกิดความผิดปกติในเยื่อบุหลอดเลือด เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดโรคหัวใจ  อีกทั้งยังพบว่า ผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้ม ที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าในระดับที่สูงกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่

ด้วยเหตุนี้ ทีม 4 หน่อใส่ไข่จึงได้คิดนวัตกรรม “แอปพลิเคชันช่วยเลิกบุหรี่แบบรายบุคคล”  โดยใช้ AI และ อุปกรณ์สวมใส่ (Smart Watch) ในการติดตามสุขภาพแบบเรียลไทม์ วางแผนเลิกบุหรี่ไฟฟ้าเป็นขั้นตอน พร้อมแจ้งเตือนเมื่อพบความผิดปกติ

นายกฤตภาส พุฒิกิตติวุฒิ (น้องกัส) นักเรียนชั้น ม.5 วัดเขมาภิรตาราม จังหวัดนนทบุรี หนึ่งในทีม 4หน่อใส่ไข่ผู้สร้างแอปพลิเคชันช่วยเลิกบุหรี่รายบุคคล เล่าถึงนวัตกรรมนี้มีวัตถุประสงค์ต้องการช่วยให้ผู้สูบบุหรี่ใช้วางแผนและติดตามการเลิกบุหรี่ไฟฟ้าแบบเป็นขั้นเป็นตอน ด้วยการปรับเป้าหมายตามข้อมูลสุขภาพที่บันทึกในแอปพลิเคชันโดยการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สวมใส่เพื่อติดตามข้อมูลทางสุขภาพแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้เห็นความเปลี่ยนแปลงและผลลัพธ์จากการเลิกบุหรี่ไฟฟ้า

อีกทั้ง ใช้เทคโนโลยี (Machine Learning) ตรวจจับความผิดปกติของสุขภาพ และแจงเตือนผู้ใช้ทันทีเมื่อพบสัญญาณที่ผิดปกติ และให้คำแนะนำส่วนบุคคลและแจ้งเตือนเพื่อเสริมแรงจูงใจในการเลิกบุหรี่และป้องกันการกลับไปสูบซ้ำ

น้องกัส มองว่า เยาวชนอายุ 14-18 ปีเช่นรุ่นตนเองนั้น มีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 17.6% เป็นกลุ่มที่เริ่มใช้บุหรี่ไฟฟ้าเร็วที่สุด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่มักได้รับอิทธิพลจากเพื่อน สื่อออนไลน์ ถือเป็นวัยที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ทั้งสุขภาพ การเจริญเติบโต การศึกษา ซึ่งหากไม่ได้รับการป้องกันและช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มต้น กลุ่มวัยรุ่นนี้มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าระยะยาว  

“โครงการ NO Vape นี้เป็นแอปพลิเคชันที่คิดขึ้นมาให้เข้าถึงวัยรุ่นได้ง่าย โดยในแอปจะมีตารางวางแผนการเลิกบุหรี่ และเก็บข้อมูลส่วนตัวให้ว่ามีความถี่การสูบแค่ไหน พฤติกรรมการสูบที่ไหน อย่างไร รวมทั้งยังให้เขียนเป้าหมายแต่ละวันว่าตัวเองจะทำอะไร เพื่อเป็นคำมั่นสัญญากับตัวเองว่าจะเลิกบุหรี่ และที่น่าสนใจคือ เราจะมีสมาร์ทวอทช์ช่วยแจ้งเตือนความผิดปกติ และวิเคราะห์แนวโน้มสุขภาพให้ด้วย ซึ่งโครงการนี้ทีมผมได้รับรางวัลที่ 3 จาก 400 กว่าทีม ”  น้องกัส บอกเล่าถึงรางวัลที่คว้ามาคนรุ่นใหม่รู้เท่าทันกลยุทธ์บุหรี่ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นการคิดนวัตกรรม หรือการหาหนทางแก้ปัญหาพิษภัยจากการเสพติดนิโคติน จึงไม่ใช่เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่เท่านั้น  กลุ่มเด็กและเยาวชนไทย พวกเขาก็ตระหนักถึงอันตรายที่แฝงมากับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ พยายามรวมกลุ่มสื่อสาร เป็นกระบอกเสียงเพื่อร่วมกันปกป้องไม่ให้เพื่อนๆ เยาวชนคนอื่นๆ ตกเหยื่อการตลาด “บุหรี่ไฟฟ้า”