โรคไบโพล่า หรือโรคอารมณ์สองขั้ว เป็นความผิดปกติทางอารมณ์ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้ป่วยอย่างมาก ผู้ป่วยจะมีอารมณ์ที่แกว่งไปมาระหว่างภาวะซึมเศร้าและภาวะอารมณ์ดีผิดปกติ การเข้าใจอาการและวิธีการดูแลที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
เช็กอาการไบโพล่า เราเป็นหรือไม่ ?
อาการของโรคไบโพล่าแบ่งเป็นสองช่วงหลักๆ ช่วงแรกคือภาวะอารมณ์ดีผิดปกติ หรือที่เรียกว่าภาวะแมเนีย ในช่วงนี้ผู้ป่วยจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีพลังงานมากผิดปกติ นอนน้อยลงแต่ไม่รู้สึกเหนื่อย พูดเร็วและมาก ความคิดแล่นเร็ว มีความมั่นใจในตัวเองสูงเกินจริง อาจมีพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น เช่น ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ระมัดระวัง หรือตัดสินใจทำธุรกิจที่เสี่ยงเกินไป
อีกช่วงหนึ่งคือภาวะซึมเศร้า ผู้ป่วยจะมีอาการเบื่อหน่าย หมดความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ นอนไม่หลับหรือนอนมากเกินไป เบื่ออาหาร น้ำหนักเปลี่ยนแปลง รู้สึกไร้ค่า มีความคิดท้อแท้สิ้นหวัง และในบางรายอาจมีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง ภาวะนี้อาจกินเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน
การวินิจฉัย
การวินิจฉัยโรคไบโพล่าต้องทำโดยจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะอาการมีความซับซ้อนและอาจคล้ายคลึงกับภาวะทางจิตเวชอื่นๆ หากสงสัยว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการของโรค ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว เพราะการได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกจะช่วยควบคุมอาการได้ดีกว่า
การดูแลผู้ป่วยไบโพล่าต้องทำอย่างเป็นองค์รวม นอกจากการรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอแล้ว การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ผู้ป่วยควรรักษาเวลานอนให้เป็นปกติ หลีกเลี่ยงการอดนอน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารเสพติด
การจดบันทึกอารมณ์และพฤติกรรมประจำวันจะช่วยให้ผู้ป่วยและแพทย์เข้าใจรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของอาการได้ดีขึ้น ควรสังเกตสัญญาณเตือนของการกำเริบของโรค เช่น การนอนน้อยลง อารมณ์แปรปรวนง่าย หรือมีความคิดหมกมุ่น เพื่อจะได้รีบปรึกษาแพทย์ก่อนอาการจะรุนแรงขึ้น
ครอบครัวและคนใกล้ชิดมีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้ป่วยไบโพล่า ควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรค ให้กำลังใจ ไม่ตำหนิหรือตัดสิน และช่วยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของอาการ หากพบว่าผู้ป่วยมีความคิดทำร้ายตัวเอง ควรพาไปพบแพทย์หรือโทรขอความช่วยเหลือจากสายด่วนสุขภาพจิตทันที
โรคไบโพล่าเป็นโรคที่บรรเทาอาการได้ แม้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่ผู้ป่วยสามารถควบคุมอาการและใช้ชีวิตได้เป็นปกติหากได้รับการรักษาและการดูแลที่เหมาะสม การเข้าใจโรค การรักษาอย่างต่อเนื่อง และการมีระบบสนับสนุนที่ดีจากครอบครัวและสังคม จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถจัดการกับโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น หากว่าเราสงสัยว่ามีอาการไบโพล่าแนะนำให้พบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอาการอย่างเหมาะสม ก่อนที่จะมีอาการที่รุนแรง