จำนวนเด็กเกิด สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เด็กเกิดปี 2567

จับตา! ปีมังกร 2567 จำนวนเด็กเกิดจะพุ่งตามเป้า “มีลูกเพื่อชาติ” หรือไม่?

สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เผยข้อมูลที่น่าจับตามองเกี่ยวกับจำนวนเด็กเกิดในปี 2567 ซึ่งเป็นปีมังกรตามความเชื่อของชาวจีน และยังเป็นปีที่รัฐบาลไทยได้รณรงค์ให้ประชาชน “มีลูกเพื่อชาติ” เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรให้ได้ตามเป้าหมาย รองศาสตราจารย์ ดร.จงจิตต์ ฤทธิรงค์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า…

Home / PR NEWS / จับตา! ปีมังกร 2567 จำนวนเด็กเกิดจะพุ่งตามเป้า “มีลูกเพื่อชาติ” หรือไม่?

สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เผยข้อมูลที่น่าจับตามองเกี่ยวกับจำนวนเด็กเกิดในปี 2567 ซึ่งเป็นปีมังกรตามความเชื่อของชาวจีน และยังเป็นปีที่รัฐบาลไทยได้รณรงค์ให้ประชาชน “มีลูกเพื่อชาติ” เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรให้ได้ตามเป้าหมาย

รองศาสตราจารย์ ดร.จงจิตต์ ฤทธิรงค์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย แสดงให้เห็นว่า ในช่วงครึ่งปีแรก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน พ.ศ. 2567 มีจำนวนเด็กเกิดใหม่ 221,933 คน ซึ่งยังน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2566 ถึง 27,770 คน หรือเกือบ 3 หมื่นคน

เมื่อพิจารณาจำนวนการเกิดรายเดือนในช่วงครึ่งปีแรก พบว่า จำนวนเด็กเกิดในปี 2567 นี้ ต่ำกว่าสองปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลสถิติจากปีที่ผ่านๆ มาบ่งชี้ว่า ช่วงครึ่งปีหลังตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม มักจะมีจำนวนการเกิดมากกว่าครึ่งปีแรก

ในปี 2562 ได้มีการเปิดตัวแคมเปญการให้วิตามินฟรี รวมถึงธาตุเหล็กและโฟลิก เพื่อส่งเสริมผู้หญิงที่มีสุขภาพดีและเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ แคมเปญนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดความเสี่ยงสำหรับสตรีมีครรภ์และทารกแรกเกิดที่มีสุขภาพดี

ปัจจุบันรัฐบาลมีมาตรการเพื่อส่งเสริมการมีบุตร โดยให้เงินอุดหนุนสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็ก ซึ่งเป็นเงินสงเคราะห์บุตร 600 บาทต่อเดือน สำหรับครัวเรือนยากจน (รายได้น้อยกว่า 100,000 บาท) จนถึงอายุ 6 ปี หรือ 800 บาท สำหรับบุตรคนทำงานตามสิทธิประกันสังคม (จำกัด 3 คน) สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ครอบครัวที่มีบุตร เช่น การลดหย่อนภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายในการศึกษาของบุตร การสนับสนุนการศึกษาแก่เด็กโดยการให้การศึกษาฟรีตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษา การพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโดยองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อที่เป็นข้าราชการสามารถลาหยุดเพื่อช่วยดูแลบุตรได้ 15 วัน รวมทั้งหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า คุ้มครองการคลอดบุตรในโรงพยาบาลจดทะเบียน หรือเงินก้อนกรณีคลอดบุตร 13,000 บาท สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนประกันสังคม

มาตรการเหล่านี้จะเพียงพอต่อการส่งเสริมการมีบุตรของคนไทยหรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่น่าลุ้นกันว่า ในช่วงเวลา 6 เดือนที่เหลือของปี 2567 จำนวนเด็กเกิดจะเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ได้จริงหรือไม่ หรือว่าปี 2567 นี้จะเป็นปีแรกที่จำนวนเด็กเกิดต่ำกว่า 5 แสนคน

สามารถติดตามข้อมูลและความเคลื่อนไหวได้ที่ https://ipsr.mahidol.ac.th/