รวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของเยาวชนนักเต้นไทยกว่า 1,500 ชีวิต สู่เวทีระดับโลก“CSTD Thailand Dance Grand Prix 2024” ครั้งที่ 11 การแข่งขันศิลปะการเต้นเทคนิคเวทีแรกในประเทศไทย มาตรฐานสากลจากประเทศออสเตรเลีย
“CSTD Thailand Dance Grand Prix 2024” การแข่งขันศิลปะการเต้นเทคนิคเวทีแรกในประเทศไทย มาตรฐานสากลจากประเทศออสเตรเลีย การแข่งขันเดียวที่รวมศิลปินเยาวชนนักเต้นทั้งมือสมัครเล่นและระดับมืออาชีพไว้กว่า 1,500 ชีวิต จาก 42 สถาบันสอนศิลปะการเต้นทั่วประเทศไทย ภายใต้รูปแบบการเต้นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บัลเลต์, ระบำประจำชาติ, คอนเท็มโพรารี่ แดนซ์, แจ๊สแดนซ์, บัลเล่ต์ ลาลีเคิล, แท็ปแดนซ์, ฮิปฮอป, ร้องและเต้น, เต้นเล่าเรื่องราว เป็นต้น พร้อมรูปแบบการแข่งขัน ทั้งแบบ 1 คน (Solo), 2-3 คน (Duos/Trios), กลุ่มเล็ก 4-6 คน (Ensembles), กลุ่มใหญ่มากกว่า 30 คน (Troupes) การแข่งขันสุดเข้มข้นตลอด 6 วันเต็ม 33 รอบการแข่งขัน ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ เพียงปีละหนึ่งครั้งที่ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะได้แสดงความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ ความพร้อมเพรียงเป็นอันหนึ่งอันเดียว การฝึกซ้อม ระเบียบวินัย ความทุ่มเท เพื่อให้แต่ละโชว์ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันศิลปะการเต้นระดับนานาชาติ ณ เวที Asia Pacific Dance Competition ครั้งที่ 26 ซึ่งความพิเศษในปีนี้คือ การที่ประเทศไทยได้กลับมาเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมการแข่งขันระดับนานาชาติ พร้อมเตรียมต้อนรับเยาวชนจากกว่า 10 ประเทศ มาแสดงความสามารถประชันกันบนเวทีในเดือนสิงหาคม 2567 นี้
คุณวัลลภา ปัจฉิมสวัสดิ์ ผู้แทนสถาบัน CSTD ประเทศไทย กล่าวว่า “CSTD Thailand Dance Grand Prix 2024 จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 เวทีแห่งนี้นับเป็นการแข่งขันศิลปะการเต้นเทคนิคเวทีแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย เป็นความภูมิใจกับทั้งทางสถาบัน คุณครูผู้ฝึกสอน และเยาวชนที่เข้าแข่งขัน ภายใต้การแข่งขันที่ใช้มาตรฐาน และกฎเกณฑ์สากลโดยตรงจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งได้พัฒนาต่อเนื่องมากว่า 90 ปี สำหรับในปีนี้การแข่งขันเกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือระหว่าง สถาบัน Commonwealth Society of Teachers of Dancing (CSTD) ประเทศไทย สถาบันจากประเทศออสเตรเลีย เพื่อรับรองหลักสูตรการเรียนการสอน และการวัดผลสอบศิลปะการเต้นมาตรฐานสากลในประเทศไทย ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย และสถาบัน Commonwealth Society of Teachers of Dancing (CSTD) ประเทศออสเตรเลีย พร้อมได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีเพิ่มเติมจาก BSC แคทเธอรีน, บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน), น้ำแร่มองต์เฟลอ, Sonata Thailand, โรงพยาบาลอินทรารัตน์ รามอินทรา กม.9, BLOCH by Serene Earth, โรงแรมพลูแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ, เครื่องดื่มโค้ก, น้ำดื่มสิงห์, โรงพิมพ์โชคชัยครีเอชั่นพริ้นติ้งกรุ๊ป และ Red Clay Studio พร้อมปลูกฝังให้เยาวชนนักเต้นเรียนรู้ที่จะแพ้ และชนะอย่างถูกต้อง ในยุคที่ทุกอย่างเป็นการแข่งขัน พร้อมฝึกฝนและคว้าโอกาสในการแข่งขันให้เป็นด้านดีกับตัวเองมากกว่าด้านร้ายค่ะ”
คุณนวินดา ปัจฉิมสวัสดิ์ รองผู้แทนสถาบัน CSTD ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรามีความมุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งปรับมุมมองของผู้คนที่มีต่อศิลปะการแสดง ขับเคลื่อนให้สังคมไทยเปิดใจกับการดูงานศิลปะ และให้คนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างชุมชน พัฒนาคนเก่งและคนดีให้กับสังคม พร้อมเปิดประสบการณ์ในแวดวงศิลปะการเต้น ซึ่งนับว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนสำคัญในการช่วยช่วยพัฒนาศักยภาพมนุษย์ในทุกสายงานอาชีพ เชื่อมโยงทั้งทางร่างกายและจิตใจ อารมณ์ สมาธิ ทักษะทางปัญญา ความรู้ความเข้าใจ ของสมองในการจำ วางแผนจัดการ ความมั่นใจตนเอง ความอดทน ความเห็นอกเห็นใจ ความกล้าแสดงออก การตัดสินใจ แก้ปัญหา เพิ่มฮอร์โมนแห่งความสุขอีกด้วย”
ตลอด 6 วันเต็ม กับการแข่งขันเต้นเทคนิคที่เข้มข้นที่สุดในประเทศไทย จนได้ผู้ชนะ พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันศิลปะการเต้นระดับนานาชาติ ณ เวที Asia Pacific Dance Competition
น้องบุ๊บบิ๊บ – ชลกนก สถีระนาวิน จากสถาบันบางกอกแดนซ์ ผู้ชนะการแข่งขัน ประเภทคะแนนรวมบุคคลสูงสุด (Aggregate Solo Cup) สาวน้อยวัย 16 เล่าว่า “หนูเริ่มต้นแข่งเต้นมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ 6 ปีเต็มกับความตั้งใจ ฝึกฝนและพัฒนาตัวเองมาตลอด การเต้นให้อะไรมากกว่าที่คิด ได้ทั้งมิตรภาพ การฝึกทำงานเป็นทีม ทั้งกับเพื่อนและกับครู แถมการเต้นยังทำให้มีความสุข และสบายใจทุกครั้งที่ได้เต้น หนูตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเองต่อไป และเดินตามความฝันในเส้นทางการเต้นไปจนถึงระดับอินเตอร์เลยค่ะ”
ด้าน ครูปุ๊ก – คุณอัจฉรา หิรัญแพทย์ ครูใหญ่และผู้กำกับศิลป์ WEDANCE Dance Studio ผู้ชนะการแข่งขัน ประเภทสถาบันยอดเยี่ยม (Best School Aggregate Cup) เล่าว่า “อุตสาหกรรมการเต้นของไทยทุกวันนี้เทียบเท่าสากล เด็กไทยเก่งเยอะมาก สำหรับการแข่งขันนี้เป็นการแข่งขันที่ยาก เป็นการแข่งเต้นเชิงเทคนิค ที่ทุกโรงเรียนเตรียมความพร้อม และเตรียมเทคนิคกันมาเป็นอย่างดีมาก จะเห็นได้จากเด็กที่เคยแข่งปีก่อนหน้านี้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก เก่งแบบก้าวกระโดด ส่วนเด็กใหม่ๆ ก็สร้างผลงานการเต้นได้อย่างน่าสนใจ เป็นเพราะโครงสร้างหลักสูตรการเรียนการสอนของ CSTD ด้วยค่ะ ที่ทำให้เกิดการพัฒนาด้านเทคนิค ทำให้เด็กสตรอง มีแบบฝึกหัดต่างๆ นำมาฝึกใช้ และเตรียมตัวกับการแข่งขันได้ ดีใจและภูมิใจมากค่ะที่ได้รางวัลจากการแข่งขันนี้”
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และอัปเดททุกความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ “CSTD Thailand Dance Grand Prix 2024” การแข่งขันศิลปะการเต้นเทคนิคเวทีแรกในประเทศไทย มาตรฐานสากลจากประเทศออสเตรเลีย การแข่งขันที่เข้มข้น เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ ในโรงละคร แสง สี เสียง จัดเต็มรูปแบบ บนเวทีระดับมาตรฐานสากล ได้ที่ Facebook: CSTD Thailand