โมลด์ แม่พิมพ์

สำรวจ 3 โมลด์แม่พิมพ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอุตสาหกรรม

โมลด์แม่พิมพ์ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของพื้นฐานการผลิตเป็นหลัก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนของอุตสาหกรรมนั้นๆ ว่าจำเป็นต้องอาศัยโมลด์แม่พิมพ์ด้วยรูปแบบหรือวิธีการใด

Home / PR NEWS / สำรวจ 3 โมลด์แม่พิมพ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอุตสาหกรรม
โมลด์ แม่พิมพ์

หนึ่งในประเภทของอุตสาหกรรมที่ยังคงมีอิทธิพลและเป็นที่ต้องการของธุรกิจหลายๆ ประเภทนั่นก็คืออุตสาหกรรมแม่พิมพ์ เนื่องจากเป็นธุรกิจต้นแบบสำหรับการผลิตต้นแบบและเอื้อประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ ในเวลาเดียวกัน ซึ่งปัจจัยสำคัญของอุตสาหกรรมประเภทนี้ก็คือโมลด์แม่พิมพ์พลาสติก ตัวแปรสำคัญที่ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนหรือขึ้นผลิตภัณฑ์พลาสติก แต่แม่พิมพ์พลาสติกนั้นจะมีกี่ประเภท บทความนี้มีข้อมูลดีๆ มาฝาก สำหรับผู้ที่มีความสนใจอุตสาหกรรมแม่พิมพ์พลาสติกโดยเฉพาะ ตามมาดูกันเลย

โมลด์แม่พิมพ์แบบฉีด (Injection Molding)

แม่พิมพ์ที่ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ เนื่องจากคุณสมบัติของตัวแม่พิมพ์เอง ที่สามารถขึ้นชิ้นงานที่มีความซับซ้อนได้เป็นอย่างดี นำมาใช้ผลิตชิ้นส่วนได้ในหลายๆ อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมครัวเรือน บรรจุภัณฑ์ต่างๆ ของเล่นเด็ก ตลอดไปจนถึงเครื่องสำอาง ซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้วแม่พิมพ์แบบฉีดถ้าดูแลรักษาเป็นอย่างดี ก็มีอายุการใช้งานที่นานพอสมควร สามารถขึ้นชิ้นงานได้มากสุดถึง 500,000 ไปจนถึง 1,000,000 ช็อตเลยทีเดียว

โมลด์แม่พิมพ์แบบอัดฉีด (Compression and Transfer Molding)

โมลด์แม่พิมพ์พลาสติกแบบอัดฉีดใช้ความดันสูงรวมกันกับความร้อน แล้วดันให้พลาสติกหลอมละลายแทรกเข้าไปในโพรง รอให้เย็นจากนั้นจึงค่อยปลดชิ้นงานออกจากบล็อก เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ผลิตชิ้นส่วนไฟฟ้า หรือผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือนต่างๆ สำหรับหลายๆ คนที่อาจสงสัยว่าโมลด์แม่พิมพ์แบบฉีดกับแบบอัดฉีดมีความแตกต่างกันอย่างไร สำหรับแม่พิมพ์แบบอัดนั้นจะใช้ลูกสูบในการอัดพลาสติกเข้าแม่พิมพ์ แต่ถ้าหากเป็นโมลด์แม่พิมพ์แบบฉีดจะเน้นใช้การเติมพลาสติกเข้าไปในแม่พิมพ์ ซึ่งจะใช้เวลาในการผลิตนานกว่า เหมาะสำหรับงานขึ้นรูปที่จำนวนน้อยๆ เท่านั้น

โมลด์แม่พิมพ์แบบเป่า (Blow Molding)

คือการขึ้นรูปด้วยลมเป่า ทำให้เกิดเป็นรูปร่างต่างๆ ตามโมลด์แม่พิมพ์ที่ต้องการ จากนั้นจึงค่อยปลดออกจากบล็อกเพื่อนำมาใช้งานต่อในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่ง

แม่พิมพ์แบบเป่านี้ก็สามารถแบ่งแยกออกเป็นอีก 3 ประเภทย่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการเป่าแบบ Extrusion การเป่าฉีด และสุดท้ายคือการเป่าแบบยืด หรือ Stretch ซึ่งการเลือกโมลด์แบบเป่านั้นปัจจุบันกลับกลายเป็นว่าได้รับความนิยมสูงในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่นกัน เนื่องจากเป็นโมลด์ที่ราคาไม่ได้สูงมาก ช่วยประหยัดต้นทุนในการผลิตไปได้เยอะเลยทีเดียว

จะเห็นได้ว่าในหลายๆ อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะไลน์การผลิตใดๆ ก็แล้วแต่ โมลด์แม่พิมพ์ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของพื้นฐานการผลิตเป็นหลัก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนของอุตสาหกรรมนั้นๆ ว่าจำเป็นต้องอาศัยโมลด์แม่พิมพ์ด้วยรูปแบบหรือวิธีการใด จึงจะสามารถเลือกแม่พิมพ์ที่เหมาะสมที่สุดได้นั่นเอง