รถยก รถลาก รถสไลด์ แจ็ครถยกรถลาก

รวม 6 อาการรถเสียที่พบได้บ่อย พร้อมวิธีรับมือเบื้องต้น 

อาการรถเสียหรืออาการเครื่องยนต์ติดขัด เป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครที่ใช้รถใช้ถนนต่างก็ต้องพบเจอ แม้อาการบางอย่างอาจดูไม่ร้ายแรงมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรวางใจและปล่อยไว้นาน ควรเช็กให้แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และหาวิธีรับมือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอยู่เสมอ วันนี้เราได้นำข้อมูลสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ควรรู้มาฝาก กับ 6 อาการรถเสียที่พบได้บ่อย พร้อมกับวิธีรับมือและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเบื้องต้น 1. รถสตาร์ตติดยาก ปัญหารถสตาร์ตติดยาก หรือบางครั้งสตาร์ตไม่ติดเลย…

Home / PR NEWS / รวม 6 อาการรถเสียที่พบได้บ่อย พร้อมวิธีรับมือเบื้องต้น 

อาการรถเสียหรืออาการเครื่องยนต์ติดขัด เป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครที่ใช้รถใช้ถนนต่างก็ต้องพบเจอ แม้อาการบางอย่างอาจดูไม่ร้ายแรงมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรวางใจและปล่อยไว้นาน ควรเช็กให้แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และหาวิธีรับมือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอยู่เสมอ วันนี้เราได้นำข้อมูลสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ควรรู้มาฝาก กับ 6 อาการรถเสียที่พบได้บ่อย พร้อมกับวิธีรับมือและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเบื้องต้น

1. รถสตาร์ตติดยาก

ปัญหารถสตาร์ตติดยาก หรือบางครั้งสตาร์ตไม่ติดเลย เป็นปัญหาที่คนใช้รถส่วนใหญ่ต้องเคยพบ โดยส่วนมากแล้วจะพบได้ในรถที่มีอายุการใช้งาน 2-3 ปีขึ้นไป มักเกิดจากปัญหาแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพ หัวเทียนเสีย ไดสตาร์ตมีปัญหา หรือระบบจ่ายเชื้อเพลิงมีปัญหา การแก้ปัญหาขั้นแรกให้สันนิษฐานก่อนว่าเกิดจากปัญหาแบตเตอรี่ ให้ลองจัมป์หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน ซึ่งถ้าหากรถยังสตาร์ตไม่ติด ไม่ควรฝืนสตาร์ตต่อ เพราะอาจส่งผลให้เครื่องยนต์เสียหายมากกว่าเดิม ควรเลือกใช้บริการรถยกรถสไลด์ เพื่อไปส่งที่ศูนย์หรืออู่เพื่อตรวจเช็กความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง 

2. ช่วงล่างแข็งกระด้าง

อาการช่วงล่างของรถแข็งกระด้าง ขับแล้วรู้สึกไม่นุ่มนวล และมักจะมีเสียงแปลกๆ จากช่วงล่างของรถ เป็นอาการที่พบได้ในรถที่มีอายุการใช้งาน 5-10 ปีขึ้นไป มักเกิดจากปัญหาช่วงล่างเสื่อมสภาพจากการใช้งาน อย่างโช้คอัพและยางรถ วิธีเช็กขั้นแรก คือการตรวจสอบระยะการใช้งานของยางรถ สภาพยางรถ เช็กลมยาง หากยางรถยนต์ยังอยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ปกติ ให้ลองเช็กโช้คอัพเป็นขั้นต่อไป โดยสามารถก้มลงไปดูและสัมผัสที่โช้คอัพว่ามีน้ำมันล่อลื่นไหลออกมาหรือไม่ หรือยางห่อหุ้มโช้คอัพฉีกขาดหรือไม่ หากมีน้ำมันหล่อลื่นที่มีลักษณะเหนียวและเปียก ให้สันนิษฐานว่าโช้คอัพอาจรั่วได้ หากสามารถขับได้ให้รีบนำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็กทันที แต่ถ้าหากรถยนต์มีอาการหนักควรเรียกใช้บริการรถยกรถสไลด์ การฝืนใช้งานรถต่ออาจทำให้เกิดความเสียหายได้มากกว่าเดิม

3. มีเสียงดังแปลกๆ

หากได้ยินเสียงแปลกๆ ขณะที่สตาร์ตเครื่องยนต์หรือขณะที่รถกำลังวิ่ง ให้สังเกตว่าได้ยินเสียงมาจากช่วงไหนของตัวรถ เช่น เสียงมาจากส่วนหน้าเครื่องยนต์ อาจเกิดจากปัญหาสายพานรถเสื่อมสภาพ มีเสียงขณะเบรกรถ อาจเกิดจากปัญหาผ้าเบรกหมด เป็นต้น โดยปกติแล้วหากรถมีอาการเสียงดังแปลกๆ ไม่ว่าจะมาจากจุดใดก็ตาม จะเป็นอาการที่บ่งบอกว่าอะไหล่บางส่วนมีปัญหา รถจะยังสามารถใช้งานได้อยู่ แต่ไม่ควรฝืนใช้งานหรือออกเดินทาง เพราะอาจเสี่ยงเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นได้ ควรรีบนำรถยนต์เข้าศูนย์หรืออู่เพื่อให้ช่างตรวจเช็กให้ละเอียด ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม  

4. อาการเครื่องยนต์สั่น

โดยปกติแล้วอาการเครื่องยนต์สั่นนั้นสามารถเกิดได้หลายขณะ ลองสังเกตอาการสั่นของเครื่องยนต์ เช่น อาการเครื่องยนต์สั่นขณะหยุดรถ โดยส่วนมากแล้วจะเกิดจากปัญหาของเครื่องยนต์ เช่น หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงชำรุด หรือหัวเทียนเสื่อมสภาพ ส่วนอาการเครื่องยนต์สั่นขณะเร่งความเร็ว อาจเกิดจากตัวยึดเครื่องยนต์หลวมหรือชำรุด หรือเกี่ยวข้องกับระบบบังคับช่วงล่าง หากรถมีอาการสั่นเมื่อเหยียบเบรก อาจบ่งบอกถึงปัญหาจานเบรก ผ้าเบรก หรือน้ำมันเบรก ส่วนอาการรถสั่นขณะขับด้วยความเร็วสูง อาจเกิดจากการตั้งศูนย์ล้อผิดตำแหน่ง เป็นต้น ซึ่งปัญหาเครื่องยนต์สั่นนี้เป็นปัญหาเครื่องยนต์ที่ผู้ใช้รถไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด ควรรีบนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ใกล้เคียงเพื่อให้ช่างตรวจเช็กหาสาเหตุให้แน่ชัดโดยทันที

5. รถมีควันสีขาว

อาการที่รถมีควันขาว เป็นอาการที่พบได้ทั่วไป อาจเกิดจากการที่เครื่องยนต์เผาไหม้ไม่หมด ทำให้น้ำมันเล็ดลอดเข้าไปที่ห้องเผาไหม้ โดยส่วนใหญ่แล้วเกิดจากชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เสียหาย เช่น ซีลรั่ว ฝาสูบคด หรือแหวนลูกสูบเสื่อมสภาพ เป็นต้น ซึ่งอาการควันขาวนี้รถจะยังสามารถใช้งานได้ปกติอยู่ แต่ไม่ควรฝืนใช้งานหรือปล่อยไว้นานเกินไป เพราะอาจส่งผลให้เครื่องยนต์เสียหายมากกว่าเดิมได้ ควรนำรถเข้าตรวจเช็กหาสาเหตุและรีบแก้ไขต่อไป 

6. ได้กลิ่นเหม็นไหม้

หากใครใช้รถแล้วได้กลิ่นไหม้ นับเป็นอาการรถที่ค่อนข้างอันตราย ควรรีบหยุดรถทันที เพราะหากฝืนใช้งานต่ออาจเกิดความเสียหายร้ายแรงตามมาได้ ซึ่งต้นตอของกลิ่นไหม้นั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ผ้าเบรกไหม้ สายพานไหม้หรือขาด ซึ่งอาจทำให้รถดับกลางทางได้ ท่อไอเสียรั่วหรือขาด ระบบไฟฟ้าภายในขัดข้อง จนเกิดการช็อต หรือเครื่องยนต์มีปัญหาความร้อน จนลูกสูบไหม้ เป็นต้น ซึ่งสาเหตุและอาการเหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์ได้อย่างมาก หากเจอปัญหานี้ระหว่างใช้งานบนท้องถนน แนะนำให้ใช้บริการรถยกรถสไลด์นำรถเข้าตรวจเช็กทันที

แจ็ครถยกรถลาก ศูนย์บริการรถยก รถลากจูง รถสไลด์นนทบุรี 24 ชั่วโมง

เพราะอุบัติเหตุบนท้องถนน สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา เมื่อไหร่ก็ตามที่รถของคุณเริ่มมีอาการที่บ่งบอกถึงความผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นอาการรถสตาร์ตติดยาก ช่วงล่างแข็งกระด้าง เครื่องยนต์มีเสียงดัง หรืออาการที่ผิดแปลกต่างๆ เหมือนที่เราบอกไป ไม่ควรวางใจและควรรีบนำรถเข้าตรวจเช็กที่ศูนย์หรืออู่ใกล้เคียง เพื่อความแม่นยำและจะได้แก้ไขก่อนเกิดปัญหาหนักตามมา แจ็ครถยกรถลาก เราให้บริการรถยก รถลากจูง รถสไลด์นนทบุรี 24 ชั่วโมง ขอบเขตบริการทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมให้บริการแบบมืออาชีพ สำหรับใครที่ต้องการช่องทางติดต่อ Slide car Nonthaburi สามารถติดต่อได้ที่ แจ็ครถยกรถลาก โทร. 098-2956197 พร้อมให้บริการทั่วประเทศตลอด 24 ชม.