Rolex เป็นนาฬิกาแบรนด์หรูที่มีมาอย่างยาวนาน มีดีไซน์โดดเด่นเฉพาะตัว เต็มไปด้วยหลักฐานทางประวัติศาตร์ที่ทรงคุณค่า Rolex จึงมักจะถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง เพื่อบ่งบอกถึงเวลา หรือสร้างสถานการณ์ให้มีความสมจริง เสริมลุคให้ตัวละครมีความสมบูรณ์ ดูดีมีสไตล์ ตลอดจนครีเอตให้ซีนมีความงดงามมากขึ้น อย่างเช่นในซีนที่ตัวละครต้องเหลือบมองเวลาบนข้อมือตัวเอง หรือฉากสวีทที่ตัวละครจับมือถือแขนกัน ทำให้บางทีคนดูอย่างเราๆ ก็แอบหลุดโฟกัสไปมองนาฬิกาเรือนสวยที่อยู่บนข้อมือนักแสดงซะได้ โดยเฉพาะภาพยนตร์ Hollywood ชื่อดังในยุค 60-90’s ที่นักแสดงนำในเรื่องใส่ Rolex กันแทบหมด
แล้วก็ต้องยอมรับเลยว่า Rolex นั้นยังคง Concept หรูหราเหนือกาลเวลาไว้ได้ดีสมคำร่ำลือ เพราะแม้ว่านี่จะเป็นปี 2023 ย่างเข้า 2024 แล้ว แต่กลับไปดูภาพยนตร์ Hollywood 60-90’s ที่นักแสดงสวมใส่ Rolex ทีไรก็ยังคงให้ความรู้สึก Classic ดูน่าสวมใส่และน่าครอบครองเป็นเจ้าของ หรือคนที่ชื่นชอบตัวละครนั้นๆ ก็คงอยากได้มาเก็บไว้สะสม Remind ถึงตัวละครโปรดกัน เอาล่ะ เกริ่นมาขนาดนี้ก็คงต้องพาทุกคนไปย้อนรอย ไขรหัสลับ Rolex แต่ละรุ่นที่ปรากฏในภาพยนตร์ Hollywood แล้ว ตัวละครไหนใส่รุ่นอะไรบ้าง แต่ละรุ่นมีดีไซน์และความเก๋ยังไง ตามมาดูเลย!
1. Apocalypse Now (1979) – Rolex GMT-Master
มาเริ่มกันแรกกับภาพยนตร์มหากาพย์แห่งสงครามเวียดนามน้ำดีเรื่อง Apocalypse Now (1979) ที่แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงครามและการเข่นฆ่า ความวิปลาส และ EGO ของคน โดยคว้ารางวัลออสการ์ไปได้ถึง 2 รางวัล นำแสดงโดย Marlon Brando นักแสดงชายชื่อดังแห่งยุค ในเรื่องนี้ Marlon Brando ได้สวมใส่นาฬิกา Rolex GMT-Master เอาไว้ ซึ่งเข้ากับคาแรกเตอร์พันเอกวอลเทอร์นายทหารที่ต้องออกรบห้ำหั่นได้เป็นอย่างดี เพราะรุ่นนี้ถูกดีไซน์มาเพื่อแสดงสองเขตเวลาได้พร้อมกัน มีความคงทนสูง ภาพลักษณ์เท่ คลาสสิค เหมาะสำหรับนักเดินทางหรือสายผจญภัย Adventure สุดๆ เลย
2. Rain Man (1988) – Rolex Day Date
ถัดมาในยุค 80 ภาพยนตร์ชื่อดังอีกเรื่องที่ Rolex ไปปรากฏอยู่ก็คือ Rain Man (1988) ที่นำแสดงโดย Dustin Hoffman และ Tom Cruise ที่คิดว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอน ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนว Road Drama เล่าเรื่องถึง Charlie Babbitt เซลล์แมนขายซุบเปอร์คาร์ที่เห็นแก่ตัว (Tom Cruise) และต้องมาอยู่กับชายออทิสติก (Dustin Hoffman) ที่พ่อของเขามอบมรดกให้ ในเรื่องนี้ Tom Cruise ได้สวมใส่ Rolex President Day Date ทองคำ 18K หน้าปัดแชมเปญ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นจำนวนมาก เพราะปรากฏในฉากเด่นฉากหนึ่งของเรื่อง คือตอนที่เขาพยายามจะจำนำนาฬิกา Rolex เรือนนี้ แสดงให้เห็นถึงความงดงามและมูลค่าที่สูงตลอดกาล ที่ไม่ว่าใครก็อยากจะจับจองเป็นเจ้าของ
3. Titanic (1997) – Rolex Submariner Date
ภาพยนตร์โรแมนติกที่เป็นหนึ่งในเรื่องโปรดของใครหลายๆ คน และทำคนร้องไห้หนักมากมาแล้วนักต่อนัก ก็คือ Titanic (1997) ที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง เล่าถึงโศกนากรรมเรือไททานิกเกิดอุบัติเหตุชนกับภูเขาน้ำแข็ง โดยมีผู้โดยสารจำนวนมากเสียชีวิตบนเรือ ในเรื่องไททานิกนี้ ตัวละคร Brock Lovett ที่รับบทโดย Bill Paxon นักล่าสมบัติที่ขึ้นเรือวิจัย Akademik Mstislav Keldysh เพื่อค้นหาซากเรือไททานิก เพื่อหาสร้อยคอ Heart of the Ocean ก่อนที่จะเจอกับ Rose นางเอกของเรื่องที่จะพาเราเล่าย้อนไปถึงเหตการณ์ที่เกิดขึ้นตอนไททานิกล่ม Brock Lovett ได้สวมใส่ Rolex Submariner Date รุ่น Gold Rolex Oyster Perpetual Submariner Date นาฬิกาที่ออกแบบมาเพื่อการดำน้ำลึกโดยเฉพาะ เหมาะกับคาแรกเตอร์ของตัวละครที่เป็นนักสำรวจใต้ท้องทะเล แถมยังแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จว่าเขาคงเป็นนักสำรวจที่รวยมากๆ เพราะได้ครอบครอง Rolex รุ่นหายากนั่นเอง
และนอกจากตัวละครในเรื่องแล้ว James Cameron ผู้กำกับไททานิกและภาพยนตร์ชื่อดังเรื่องอื่นๆ ยังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ Rolex Deepsea Challenge นาฬิกาดำน้ำลึกอีกหลายๆ รุ่นได้ โดยทาง Rolex ได้มีการดีไซน์หน้าปัดเพื่อระลึกถึงภารกิจสำคัญของ James Cameron ขึ้นมาเฉพาะเลย
4. James Bond 007 (1962-1989) – Rolex Submariner
และมาถึงเรื่องสุดท้ายกับ James Bond 007 หรือในไทยน่าจะคุ้นเคยกันในชื่อพยัคฆ์ร้าย 007 ภาพยนตร์สายลับอเมริกันที่มาพร้อมซาวด์คุ้นหู ที่ฟังแล้วภาพผู้ชายใส่สูท สวมแว่นดำ ถือกระเป๋าสีดำต้องลอยเข้ามาในหัว ภาพยนตร์เรื่อง James Bond 007 ทำมากจากนวนิยาย และมีหลากหลายภาค และหลากหลายเวอร์ชัน แต่เวอร์ชันที่ได้รับความนิยมเวอร์ชันหนึ่งก็คือ เวอร์ชันของ Sean Connery และเขาได้สวมใส่นาฬิกา Rolex Submariner ถึงสี่ภาคด้วยกันได้แก่ Dr. No (1962), From Russia with Love (1963), Goldfinger (1964) และ Thunderball (1965) ซึ่งเข้ากับคาแรกเตอร์ของ James Bond สายลับหนุ่มที่ต้องบุกน้ำ ลุยไฟ ต่อสู้ ไขคดีต่างๆ นาๆ เพราะ Rolex Submariner เป็นนาฬิกาที่ดีไซน์มาเพื่อใช้ดำน้ำลึก และมีความทนทานสูง แถมหน้าปัดและตัวเรือนยังมีความคลาสสิคเข้ากับลุคชายหนุ่มสุขุม แต่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ Adventure สุดโหด
และนอกจากเวอร์ชันของ Sean Connery แล้วในเวอร์ชันอื่นๆ อย่าง George Robert Lazenby ก็ได้สวม Rolex Submariner Ref. 5513 ในภาค On Her Majesty’s Secret Service (1969) และ Roger George Moore สวมในภาค Live and Let Die (1973) และ Timothy Leonard Dalton กับรุ่น Rolex Submariner Date Ref. 16610 ในภาคด้วย License to Kill (1989) เรียกได้ว่า Rolex Submariner ได้กลายเป็นไอคอนของสายลับเจมส์ บอนด์ในยุคนั้นเลย สำหรับใครที่อยากจะรู้ว่า Rolex Submariner ที่เป็นไอคอนของสายลับเจมส์ บอนด์ในยุค 60-80 นี้มีอะไรที่โดดเด่นอีกบ้าง เรามีกลไกและดีไซน์เล็กๆ น้อยๆ ของ Rolex Submariner มาฝากทุกคนด้วย
ขอบหน้าปัดแบบหมุนได้ทิศทางเดียว
ฟังก์ชันที่ทำให้ Rolex Submariner มีความปลอดภัยและความแม่นยำ คือ ขอบหน้าปัดแบบหมุนได้ทิศทางเดียว โดยจะวางขอบหน้าปัดให้ตรงกับเข็มนาทีเมื่อเราเริ่มลงไปในน้ำ ทำให้ดูเวลาดำน้ำที่เหลืออยู่หรือเช็กจุดพักลดความกดได้ ทำให้ผู้สวมใส่นาฬิการุ่นนี้ไปดำน้ำมีความปลอดภัย และกำหนดเวลาได้ชัดเจน
เทคโนโลยี Helium Escape Valve (HEV)
Rolex Submariner มีการติดตั้ง HEV ซึ่งจะช่วยระบายก๊าซฮีเลียมออกจากตัวเรือนนาฬิกาในตอนที่ขึ้นสู่ผิวน้ำและลดความกดในการดำน้ำแบบอิ่มตัว ทำให้สามารถทนทานต่อแรงดันในน้ำได้ดีขึ้น โดยในอดีตตอนสามารถกันน้ำได้ลึกที่ระดับ 100 เมตร (330 ฟุต) ซึ่งก็ถือว่ามากแล้ว แต่ในปัจจุบันพัฒนาให้กันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร (1,000 ฟุต) เลย
มาร์กเกอร์เรืองแสงได้ดี
Rolex Submariner มีมาร์กเกอร์บอกชั่วโมงและแคปซูลเรืองแสงที่มีคุณสมบัติช่วยให้การมองเห็นสภาพแวดล้อมใต้น้ำค่อนข้างมืดหรือมีแสงน้อยได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น จึงช่วยเสริมทัศนียภาพในการมองเห็นใต้น้ำได้เป็นอย่างดี
ดีไซน์หรูหรา เอกลักษณ์ชัดเจน
Rolex Submariner มีดีไซน์ที่สง่างามและคงความหรูหราตามสไตล์ Rolex เอาไว้ ขอบหน้าปัดแบบหมุนได้มีให้เลือกหลายสีสัน หลายมิติ เช่น หน้าปัดสีดำให้ความสปอร์ต หรือหน้าปัดรอยัลบลู สีน้ำเงินที่ดูมีชีวิตชีวา แต่ให้ความสุขุม น่าค้นหา นอกจากนี้นาฬิการุ่นนี้ได้ส่งต่ออิทธิพลการดีไซน์ไปยังนาฬิกาดำน้ำรุ่นอื่นๆ อีกด้วย
และนี่คือนาฬิกา Rolex ส่วนหนึ่งที่ปรากฏในภาพยนตร์ Hollywood ในยุค 60-90 ที่เรานำมาฝากทุกคนกันในวันนี้ จะเห็นได้ว่า Rolex มีส่วนเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับโลกแห่งภาพยนตร์มาอย่างยาวนาน ช่วย Represent บทบาทของตัวละคร เสริมภาพลักษณ์ให้โดดเด่น สมบทบาท อย่างเรื่อง James Bond 007 ที่ตัวละครสายลับ James Bond สวมใส่นาฬิกา Rolex Submariner แทบตลอด แถมยังใส่หลากหลายภาครวมกว่า 7 ภาค ตั้งแต่ยุค 60 จนมาถึง 80 เลย และสำหรับใครที่อยากจะครอบครองและเป็นเจ้าของ Rolex Submariner รวมถึง Rolex รุ่นอื่นๆ ที่ตัวละครที่คุณชื่นชอบสวมใส่ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เอ็นจีจี ไทม์ พีซ NGG Timepieces ตัวแทนจำหน่าย Rolex Thailand อย่างเป็นทางการที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายและซ่อมนาฬิกา Rolex ที่มีทักษะและความรู้ความเข้าใจ พร้อมทีมช่างผู้ชำนาญที่มากประสบการณ์ พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำทุกด้านและทุกขั้นตอนเกี่ยวกับการซื้อ Rolex