เพราะเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าเราจะเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางและมีสติมากขนาดไหนก็ตาม เวลาขับอยู่ดีๆ รถของเราอาจจะเสียและดับกลางคัน หรือขับอยู่ดีๆ รถของเราอาจจะถูกชนจากรถคันอื่น หรือไม่ก็ไปชนเข้ากับสิ่งขีดขวางทางจราจรก็ได้เช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น แต่หากเกิดขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญคือการรับมือและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเบื้องต้น วันนี้เราจึงนำวิธีแก้ไขปัญหาเมื่อรถของเราเกิดอุบัติเหตุมาฝากทุกคนกัน เพื่อเป็นแนวทางการรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินทันที
สิ่งแรกที่อยากจะให้ทุกคนทำทันทีเมื่อรถเสียหรือเกิดอุบัติกลางถนนก็คือ การเปิดไฟสัญญาณฉุกเฉินทันที เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้ผู้ขับขี่ร่วมถนนของเราทราบว่ารถของเรากำลังเกิดปัญหา ป้องกันความเข้าใจผิดว่าทำไมจู่ๆ รถของเราถึงขีดขวางการจราจร และยังเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นซ้ำซ้อนตามมา อย่างเช่นรถเฉี่ยวหรือรถชนกันได้อีกด้วย และเป็นการป้องกันเหตุฉุกเฉินที่ยากจะคาดเดา ควรพกป้ายไฟฉุกเฉินติดรถไว้เสมอ เพราะหากเกิดเหตุกรณีที่รถไม่สามารถใช้ไฟฉุกเฉินได้ ป้ายไฟฉุกเฉินจะกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญอย่างแรก ซึ่งการตั้งป้ายไฟฉุกเฉินควรเว้นให้มีระยะห่างก่อนจุดเกิดเหตุไม่ต่ำกว่า 50 เมตร เพื่อเป็นการเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนที่ตามมานั่นเอง
สำรวจสภาพรถเบื้องต้น
หลังจากเปิดไฟฉุกเฉินแล้วหรือตั้งไฟฉุกเฉินแล้ว ลำดับถัดมาควรรีบสำรวจสภาพรถเบื้องต้น ในกรณีที่เรามีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับรถและมีเครื่องมือติดรถอยู่บ้าง ให้ลองสำรวจดูว่าสามารถซ่อมแซมได้ด้วยตนเองหรือไม่ เช่น กรณียางรถแบน เราอาจเปลี่ยนได้ด้วยตนเองหรือไม่ หรือปัญหาแบตเตอรี่หมด สามารถใช้สายพ่วงจัมพ์แบตเตอรี่ต่อกับรถคันอื่นได้ไหม เมื่อสำรวจปัญหารถเบื้องต้นแล้ว หลังจากนั้นค่อยนำรถไปเข้าศูนย์บริการ ฉะนั้นเราควรเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือติดประจำรถไว้ให้พร้อมอยู่เสมอ
โทรแจ้งประกันภัยรถยนต์
หากเรามีประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมการเกิดอุบัติเหตุ มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ควรรีบโทรแจ้งประกันภัยรถยนต์และขอความช่วยเหลือทันที โดยจำเป็นเตรียมข้อมูลไว้ให้พร้อม ได้แก่ สถานที่ที่เกิดอุบัติเหตุ ชื่อ นามสกุลของเรา เลขทะเบียนรถ เลขกรมธรรม์ รวมไปถึงบอกเล่าสภาพอาการของรถที่เราได้สำรวจไว้เบื้องต้นแล้ว เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินงานของประกันนั่นเอง
โทรแจ้งตำรวจหรือเจ้าหน้าที่
หากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีความเสียหายค่อนข้างมาก หรือมีคู่กรณีที่ไม่สามารถเคลียร์ปัญหาได้ แนะนำให้โทรแจ้งประสานงานกับตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ท้องถนนเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลและประเมินความเสียหายเบื้องต้นให้ โดยบอกสถานที่และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้แนะนำให้ถ่ายรูปความเสียหาย ป้ายทะเบียนคู่กรณี และหาพยานรอบข้างเอาไว้ด้วยเพื่อความปลอดภัยมากที่สุด
เราได้รวมหน่วยงานสำคัญที่ทุกคนควรรบันทึกไว้สำหรับโทรติดต่อ ดังนี้
– แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย โทร 191 หรือ 1190
– ตำรวจทางหลวงหรืออุบัติเหตุบนทางหลวง โทร 1193
– สายด่วนมอเตอร์เวย์ โทร 1586
– จส. 100 โทร 1137
– กรมทางหลวงชนบท โทร 1146
– การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โทร 1543
– สายด่วนอุบัติเหตุ โทร 02-711-9161 หรือ 02-711-9162
ติดต่อศูนย์บริการรถยก รถสไลด์เพื่อเคลื่อนย้ายรถ
หากประกันภัยรถยนต์ของเราไม่ครอบคลุมอุบัติเหตุ หรือไม่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน โดยเฉพาะขณะเกิดอุบัติเหตุในสถานที่ที่เข้าถึงยาก ต้องการเคลื่อนย้ายรถไปยังสถานที่ที่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ทางเลือกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาได้ คือ ติดต่อศูนย์บริการรถยก รถลาก รถสไลด์ในเขตใกล้เคียง ให้มาช่วยกู้รถอุบัติเหตุ หรือลากเคลื่อนย้ายรถของเราไปที่ศูนย์ซ่อมหรืออู่รถ โดยอาจเสิร์ชหาในอินเตอร์เน็ต หรือบันทึกเบอร์ศูนย์ต่างๆ เก็บไว้ในมือถือ สำหรับใครที่สงสัยว่าจะเลือกใช้บริการประเภทไหนให้เหมาะกับสภาพรถดี ระหว่างรถยกหรือรถสไลด์ เราได้นำข้อแตกต่างของบริการทั้งสองประเภทมาให้แล้ว
รถยก
รถยกเป็นบริการเคลื่อนย้ายรถโดยการยกส่วนใดส่วนหนึ่งขึ้น เช่น ล้อหน้า หรือล้อหลัง โดยจะยังมีส่วนที่อยู่ติดกับถนนอยู่ เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยระดับหนึ่ง ระบบช่วงล่างหรือเครื่องยนต์ของเราบางส่วนจะยังคงสัมผัสกับพื้นถนนอยู่ ซึ่งรถยกประเภทนี้เหมาะสำหรับรถยนต์ 4 ล้อ และมีความเสียหายค่อนข้างหนัก หรือรถที่ประสบอุบัติรุนแรง ส่วนด้านข้อจำกัดนั้น การเคลื่อนย้ายด้วยรถลากระบบขับเคลื่อนช่วงล่างของรถต้องสัมผัสกับพื้นผิวถนน ถ้าต้องเคลื่อนย้ายในระยะทางไกลอาจทำให้ช่วงล่างของรถเสียหายเพิ่มได้
รถสไลด์
รถสไลด์เป็นบริการเคลื่อนย้ายรถที่จะยกรถของเราทั้งคันไปวางไว้บนรถบรรทุกขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์ถาดสไลด์ติดกับตัวรถ เพื่อสไลด์รถของเราขึ้นมาอย่างง่ายดาย มีความปลอดภัยค่อนข้้างมาก เพราะมีระบบล็อกล้อ ป้องกันรถเคลื่อนไหว และตกลงมาขณะที่เคลื่อนย้าย โดยรถสไลด์จะแตกต่างกับรถยกตรงที่ช่วงล่างของรถขณะเคลื่อนย้ายจะไม่สัมผัสโดยพื้นถนนเลย เหมือนกับการเคลื่อนย้ายรถในโชว์รูม เหมาะกับรถยนต์ที่เกิดความเสียหายอย่างหนัก ต้องการเคลื่อนย้ายระยะทางที่ไกล รวมถึงรถที่มีช่วงล่างโหลดต่ำต้องถนอมช่วงล่าง และรถที่มีราคาสูง เช่น รถ BENZ รถ BMW รถสปอตคาร์ และรถ SUV ซึ่งคนรักรถแต่ละคนคงไม่อยากให้รถเหล่านี้กระทบกระเทือน หรือเสียหายอย่างเพิ่มเติมแน่นอน
สำหรับบริการรถสไลด์นั้นอาจจะมีราคาที่สูงกว่าบริการรถยก แต่ก็มาพร้อมกับความปลอดภัยที่สูงกว่าเช่นเดียวกัน จึงมีความคุ้มค่า คุ้มราคา ด้วยอุปกรณ์ที่ใช้มีความแข็งแรงและปลอดภัยกว่า ทั้งยังช่วยป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมของรถขณะเคลื่อนย้ายด้วย หากใครที่ต้องการลดความเสียหายให้เกิดขึ้นกับรถมากที่สุด ขอแนะนำให้เลือกใช้รถสไลด์ เพราะอุปกรณ์มีความแข็งแรงและปลอดภัยมากกว่า
และนี่คือวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเมื่อรถของเราเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนควรรู้และเตรียมความพร้อมไว้เสมอ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ จะเกิดขึ้นเป็นอุบัติเล็กๆ หรือจะเกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุที่มีความเสียหายหนัก ฉะนั้นอย่าลืมเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นป้ายไฟฉุกเฉินพกพา อุปกรณ์และเครื่องมือดูแลรถเบื้องต้น ประกันภัยรถยนต์ หรือเบอร์โทรฉุกเฉิน เช่น เบอร์ตำรวจทางหลวง เบอร์โทรตำรวจ เบอร์กู้ภัย รวมไปถึงเบอร์ติดต่อศูนย์บริการรถยก รถสไลด์เพื่อเคลื่อนย้ายรถ สำหรับใครที่มองหาศูนย์บริการรถสไลด์ที่บริการรวดเร็วและมีความปลอดภัย โดยเฉพาะรถสไลด์มีนบุรี โซนที่รถติดและเกิดอุบัติเหตุบ่อยล่ะก็ รถยกรถสไลด์เฉพาะกิจ พร้อมให้บริการเคลื่อนย้าย 24 ชั่วโมง โทร 091-087-4274