เลือก Shipping นําเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นอย่างไรให้ตอบโจทย์?

เมื่อต้องการนำสินค้าจากญี่ปุ่นเข้ามาขาย ไม่เพียงแต่จะต้องเลือกแหล่งสินค้าและวางแผนการเงินอย่างรอบด้านเท่านั้น สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ไม่ต้องการเสี่ยงหิ้วสินค้ากลับเข้ามาขายเอง การใช้บริการ Shipping นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยตอบโจทย์ได้อย่างรอบด้านเช่นกัน แต่จะเลือกใช้บริการ Shipping นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ธุรกิจมากที่สุด ลองมาทำความรู้จักกับ 3 เคล็ดลับดี ๆ ที่นำมาฝากในบทความนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกบริการ…

Home / PR NEWS / เลือก Shipping นําเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นอย่างไรให้ตอบโจทย์?

เมื่อต้องการนำสินค้าจากญี่ปุ่นเข้ามาขาย ไม่เพียงแต่จะต้องเลือกแหล่งสินค้าและวางแผนการเงินอย่างรอบด้านเท่านั้น สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ไม่ต้องการเสี่ยงหิ้วสินค้ากลับเข้ามาขายเอง การใช้บริการ Shipping นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยตอบโจทย์ได้อย่างรอบด้านเช่นกัน แต่จะเลือกใช้บริการ Shipping นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ธุรกิจมากที่สุด ลองมาทำความรู้จักกับ 3 เคล็ดลับดี ๆ ที่นำมาฝากในบทความนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกบริการ Shipping ที่เหมาะกับธุรกิจกัน

ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ

ก่อนที่จะตัดสินใจใช้บริการ Shipping นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่น เจ้าของธุรกิจควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่ออกโดยกระทรวงพาณิชย์ ประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมด รีวิวจากผู้ใช้งานจริง ไปจนถึงความน่าเชื่อถือในด้านของการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

การตรวจสอบความน่าเชื่อถือในส่วนนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันการโดนโกงจากมิจฉาชีพเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้เจ้าของธุรกิจใช้บริการ Shipping นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ลดความเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมายการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศได้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

เช็กเงื่อนไขการจัดการภาษี

การขนส่งสินค้าจากต่างประเทศมีด้วยกันหลากหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีเองก็จะมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่าย ภาษี การชั่งน้ำหนัก ตลอดจนข้อบังคับเกี่ยวกับขนาดพัสดุที่ใช้ในการขนส่ง 

ด้วยเหตุนี้ ไม่เพียงแต่จะต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือเท่านั้น แต่เจ้าของธุรกิจยังควรใช้บริการ Shipping นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นที่มีบริการจัดการภาษีและดำเนินการตามขั้นตอนขนส่งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ประหยัดเวลาในการจัดการเอกสารและค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วยตัวเอง 

ดูค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เรียบร้อย

การนำสินค้าจากญี่ปุ่นเข้ามาขาย นอกจากค่าขนส่ง ภาษี และค่าธรรมเนียมจากผู้ให้บริการ Shipping นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นแล้ว เจ้าของธุรกิจยังต้องพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายและต้นทุนของธุรกิจในด้านอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นอัตราแลกเปลี่ยน ค่าขนส่งภายในญี่ปุ่น ตลอดจนถึงค่าขนส่งภายในประเทศไทย รวมถึงค่าบริการของทางผู้ให้บริการเอง

ส่วนใหญ่แล้ว เนื่องจากเป็นการซื้อขายสินค้าที่มีการเทียบอัตราแลกเปลี่ยน เจ้าของธุรกิจยังควรคำนึงถึงตัวคำนวณเรทเงินที่ทางผู้ให้บริการกำหนดด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการวางแผนต้นทุนธุรกิจของตัวเองไปในตัว

จะเห็นได้ว่า การเลือกผู้ให้บริการ Shipping นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด สำหรับใครที่ต้องการสร้างธุรกิจการนำสินค้าจากญี่ปุ่นเข้ามาขาย อย่าลืมนำทั้ง 3 เรื่องที่นำมาฝากนี้ไปพิจารณาและปรับใช้ให้เข้ากับธุรกิจของตัวเองด้วยนะ