ในปัจจุบันบริษัทรับทำ SEO นั้นสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เพื่อการให้บริการที่เหมาะสม ในบทความนี้เราจะพามาดูถึงความแตกต่าง และความเชี่ยวชาญในการให้บริการของบริษัทรับทำ SEO ต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. บริษัทรับทำ SEO ทั่วไป
เป็นบริษัทที่มีทีมงานที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญทางเทคนิคในการทำ SEO ซึ่งพวกเขาสามารถปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อเพิ่มการออร์แกนิกค์ในผลการค้นหา และจัดอันดับในเครื่องมือค้นหาอย่าง Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ผู้เชี่ยวชาญที่รับทำ SEO สำหรับธุรกิจเฉพาะ
บริษัทเหล่านี้เน้นการให้บริการ SEO สำหรับธุรกิจเฉพาะ เช่น ร้านค้าออนไลน์, โรงแรมและรีสอร์ท, ร้านอาหาร, ธุรกิจท้องถิ่น เป็นต้น ซึ่งคนกลุ่มนี้จะมีความเข้าใจในการตลาด ความต้องการของธุรกิจเฉพาะ และใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มลูกค้าเหล่านั้น
3. บริษัท SEO สำหรับธุรกิจต่างชาติ
เป็นบริษัทที่มีฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ พวกเขามีความเชี่ยวชาญในการทำ SEO ที่เป็นไปตามแนวโน้มและกฎระเบียบในตลาดระหว่างประเทศ ซึ่งสามารถช่วยให้ธุรกิจเติบโตในช่องทางการตลาดระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. เอเจนซี่รับทำ SEO สำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะ
บริษัทเหล่านี้เน้นให้บริการ SEO สำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะ เช่น สุขภาพและความงาม, เทคโนโลยีสารสนเทศ, การเงินและการลงทุน เป็นต้น โดยพวกเขามีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหล่านี้ และสามารถใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับอุตสาหกรรมนั้นๆ ได้
ดังนั้นการเลือกบริษัทรับทำ SEO ที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะและความต้องการของธุรกิจ ผู้ที่ต้องการจ้างงานควรทำการวิเคราะห์และเปรียบเทียบบริษัทต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทนั้นๆ มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และความเข้าใจในธุรกิจของคุณอย่างเหมาะสม
นอกเหนือจากประเภทของบริษัทรับทำ SEO ที่กล่าวมาแล้ว ยังมีการแบ่งประเภทของ SEO ตามลักษณะการดำเนินงานและวัตถุประสงค์ต่างๆ ดังนี้
1. On-Page SEO
เป็นการปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ภายใน โดยจะเน้นไปที่การปรับปรุงเนื้อหาให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้คีย์เวิร์ด เพื่อเพิ่มโอกาสจากการค้นหา, การเพิ่มคุณภาพของเว็บไซต์, การเพิ่มความเร็วในการโหลด, การจัดวางโครงสร้างของเนื้อหา เป็นต้น เป้าหมายของ On-Page SEO คือ เพื่อเพิ่มความเข้าใจของเว็บไซต์ระหว่าง Search Engine และ User หรือผู้ใช้
2. Off-Page SEO
เป็นการสร้างความนิยมและการรับรองคุณภาพของเว็บไซต์จากภายนอก เช่น การสร้างลิงก์ (Link Building), การสร้างความนิยมผ่านโซเชียลมีเดีย, การเผยแพร่เนื้อหาบนช่องทางออนไลน์, การร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์และบุคคลที่มีอิทธิพล โดยเป้าหมายของ Off-Page SEO คือเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และความสำคัญของเว็บไซต์บน Search Engine
3. Local SEO
เน้นการทำ SEO ให้เว็บไซต์ของธุรกิจของคุณปรากฏในผลการค้นหาท้องถิ่น เช่น การปรับแต่งข้อมูลท้องถิ่นในเว็บไซต์, การรับรีวิว, การลงทะเบียนที่อยู่ธุรกิจในรายชื่อท้องถิ่น เป้าหมายของ Local SEO คือเพื่อเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจ ปรากฏในผลการค้นหาท้องถิ่นและดึงดูดลูกค้าท้องถิ่นมากขึ้น
4. Technical SEO
เน้นการปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างเว็บไซต์ เช่น การเพิ่มความเร็วในการโหลด, การปรับแต่งโครงสร้าง URL, การใช้แท็กเพื่อสร้างเนื้อหา, การติดตามและจัดการข้อผิดพลาดในเว็บไซต์ เป้าหมายของ Technical SEO คือเพื่อให้เว็บไซต์มีโครงสร้างที่ดี และสอดคล้องกับมาตรฐานการทำงานของเครื่องมือค้นหานั่นเองการเรียนรู้ประเภทของ SEO นั้นจะช่วยให้คุณเข้าใจและเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมในการพัฒนาเว็บไซต์ และการตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น