ขณะที่หนังไทย 2 เรื่อง ทองหล่อคิดส์-เจ้าหงิญ มีผู้สนใจร่วมลงทุน 100 ล้านบาท เผย 8 ประเทศทั่วโลกเตรียมถ่ายทำหนังในไทยคาดใช้เงินลงทุนรวมกว่า 3,800 ล้านบาท ชู Soft Power ความเป็นไทยผ่านอุตสาหกรรมหนังได้อย่างสง่างาม
![](https://img-ha.mthcdn.com/YMVZYr7dOwUF-ZzJf45JB9zOr3s=/mthai.com/app/uploads/2023/05/S__3031371.jpg)
วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า จากการที่ วธ. ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสัญลักษณ์ Content Thailand ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Cannes Film Festival 2023) ณ เมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 16-27 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า ประเทศไทยสามารถส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทย และขยายตลาดภาพยนตร์ไทยสู่ระดับนานาชาติ และผลักดัน “Soft Power” ความเป็นไทยได้ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจสร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศผ่านอุตสาหกรรมวัฒนธรรม 5F ได้แก่ อาหาร (Food) ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) ผ้าไทยและการออกแบบแฟชั่น (Fashion) มวยไทย (Fighting) และเทศกาลประเพณี (Festival) ได้อย่างเป็นรูปธรรม
![](https://img-ha.mthcdn.com/M6ooSMmOY0I5bPP1AKkBHvD9C_0=/mthai.com/app/uploads/2023/05/S__3031370.jpg)
นายอิทธิพล กล่าวว่า สำหรับการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ เป็นที่น่ายินดีว่ามีภาคเอกชนเข้าร่วมงาน 12 บริษัท อาทิ Benetone Films, BrandThink, Film Frame Productions, GDH 559, Halo Productions, Kantana Motion Pictures, M Pictures, Right Beyond, Sahamongkolfilm International และ Yggdrazil Group เนรมิตรหนัง ฟิล์ม และเวลา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งให้ความร่วมมือในหลากหลายกิจกรรม อาทิ กิจกรรมตลาดซื้อขายภาพยนตร์ และนิทรรศการคูหาประเทศไทย (Thailand Pavilion) โดยมีมูลค่าการเจรจาการค้ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ไฮไลท์ของคูหาประเทศไทย คือการจัดกิจกรรม Thai Film Pitching Project 2023 นำเสนอโครงการการสร้างภาพยนตร์เพื่อการร่วมลงทุน 2 เรื่อง ได้แก่ ทองหล่อคิดส์ โดย อาทิตย์ อัสสรัตน์ และ เจ้าหงิญ โดย เอมอัยย์ พลพิทักษ์ ซึ่งขณะนี้มี 43 บริษัท ที่สนใจเข้าร่วมลงทุนมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท
![](https://img-ha.mthcdn.com/6ZYL5U3FJ6uH4Nv6LFAYexnMUmU=/mthai.com/app/uploads/2023/05/S__8306711.jpg)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ตลอดการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในครั้งนี้ มีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมคูหาประเทศไทยจำนวนมากกว่า 600 ราย รวมถึงมีผู้ผลิตภาพยนตร์ที่สนใจและมีแผนจะเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในราชอาณาจักรไทย จำนวน 21 ราย จาก 8 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส กรีซ สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ อินเดียและออสเตรเลีย โดยมีแผนใช้เงินลงทุนรวมกว่า 3,800 ล้านบาท โดยรายละเอียดการเข้ามาติดต่อสอบถามในประเด็นหลัก ๆ อาทิ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในประเทศไทย การร่วมทุนผลิต (Co-Production) และการหาทุนในการสร้างภาพยนตร์ในประเทศไทย การจัดเทศกาลภาพยนตร์ในระดับประเทศและระดับนานาชาติในประเทศไทย (Film Festival) และการสนับสนุนด้านเงินทุนในการผลิตภาพยนตร์ (Film Funding) นอกจากนี้ ในวันเปิดคูหาประเทศไทยยังมีอาหารไทยให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน นักท่องเที่ยว ได้ลิ้มลอง ได้แก่ ส้มตำ ข้าวผัดกุ้ง ข้าวเหนียวมะม่วง และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ชาวต่างชาติรู้จักประเทศไทย ช่วยสร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศสร้างความมั่งคั่ง มั่นคงตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี