ไขข้อข้องใจ สอบเทียบ GED คืออะไร ยื่นเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้หรือไม่

หลายๆ คนกำลังเตรียมพร้อมเข้าสู่การเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งต้องผ่านสนามสอบมากมายกว่าจะได้เข้าคณะและมหาวิทยาลัยที่ไฝ่ฝัน แต่ยังมีการสอบอีกประเภทนั่นคือการสอบ GED ที่อาจจะยังไม่เป็นที่คุ้นหูมากนัก แต่มีความสำคัญกับคนที่เรียนแบบ Home School หรือผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในหลักสูตรนานาชาติและต่างประเทศอย่างแน่นอน ดังนั้นวันนี้มาลองทำความรู้จักกันดีกว่า ว่าการสอบ GED คืออะไร สอบอะไรบ้าง…

Home / PR NEWS / ไขข้อข้องใจ สอบเทียบ GED คืออะไร ยื่นเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้หรือไม่

หลายๆ คนกำลังเตรียมพร้อมเข้าสู่การเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งต้องผ่านสนามสอบมากมายกว่าจะได้เข้าคณะและมหาวิทยาลัยที่ไฝ่ฝัน แต่ยังมีการสอบอีกประเภทนั่นคือการสอบ GED ที่อาจจะยังไม่เป็นที่คุ้นหูมากนัก แต่มีความสำคัญกับคนที่เรียนแบบ Home School หรือผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในหลักสูตรนานาชาติและต่างประเทศอย่างแน่นอน ดังนั้นวันนี้มาลองทำความรู้จักกันดีกว่า ว่าการสอบ GED คืออะไร สอบอะไรบ้าง จะได้เตรียมพร้อมรับมือกันแบบไม่พลาด

สอบ GED คืออะไร

GED ย่อมาจาก General Educational Development คือการสอบเทียบวุฒิเทียบเท่ามัธยมปลาย เป็นหลักสูตรที่ใช้กับการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก สามารถสอบได้ตั้งแต่อายุ 16 ปี เป็นทางเลือกให้กับผู้ที่เรียนโฮมสคูล สอบเทียบเพื่อเรียนต่อมหาวิทยาลัย เข้าเรียนหลักสูตรนานาชาติ หรือเพื่อยื่นคะแนนสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศ

สอบ GED ต้องสอบวิชาอะไรบ้าง

ข้อสอบ GED เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษทั้งหมด แบ่งออกเป็น 4 วิชา ประกอบไปด้วย การใช้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ (Mathematical Reasoning), การใช้เหตุผลทางภาษาอังกฤษ (Reasoning Through Language Arts), สังคมศึกษา (Social Studies) และวิทยาศาสตร์ (Science) คะแนนเต็มวิชาละ 200 คะแนน

การสอบ GED จะเน้นการคิดวิเคราะห์และนำไปประยุกต์ใช้มากกว่าการท่องจำหรือแก้โจทย์แบบทั่วไป ในแต่ละวิชาจึงมีการตอบคำถามหลายรูปแบบ เช่น การเลือกตอบข้อที่ถูกต้องที่สุด การเติมคำในช่องว่าง การใส่จุดพิกัดที่ถูกต้อง การลากคำตอบไปใส่ในช่องว่าง เป็นต้น โดยไม่จำเป็นต้องสอบพร้อมกันทีเดียว 4 วิชา สามารถเลือกสอบวิชาไหนก่อนก็ได้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมและการเตรียมตัวของแต่ละคน ซึ่งข้อสอบแต่ละวิชาจะมีรายละเอียด ดังนี้

1. Mathematical Reasoning การใช้เหตุผลทางคณิตศาสตร์

มีข้อสอบทั้งหมด 46 ข้อ ระยะเวลาสอบ 115 นาที มีเนื้อหา ดังนี้ 

  • พีชคณิต (Algebra) สัดส่วนเนื้อหาออกสอบเยอะที่สุด
  • เรขาคณิต (Geometry)
  • การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Basic Data Analysis) 
2. Reasoning Through Language Arts (RLA) การใช้เหตุผลทางภาษาอังกฤษ

เป็นการสอบวัดระดับความเข้าใจภาษาอังกฤษที่จะรวมทั้งส่วนของการเขียนและการอ่านเข้าด้วยกัน ข้อสอบมีทั้งหมด 46 ข้อ ระยะเวลาสอบ 150 นาที เนื้อหาที่สอบจะแบ่งดังนี้ 

  • Tests all contents เป็นคำถามที่ใช้วัดทักษะไม่ว่าจะเป็นไวยากรณ์ หรือการอ่านจับใจความ
  • Extended Response เป็นข้อสอบพาร์ทเขียน โดยจะให้เขียนเรียงความ (essay) 1 บทความ
3. Social Studies สังคมศึกษา

เป็นการสอบวัดระดับความรู้และทักษะวิชาสังคม ระยะเวลาสอบ 70 นาที จำนวนข้อสอบ 35 ข้อ แบ่งออกเป็น 4 ส่วนดังนี้

  • การปกครองและหน้าที่พลเมือง (Government and Civics) 
  • ประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา (U.S. History) 
  • เศรษฐศาสตร์ (Economics) 
  • ภูมิศาสตร์ (Geography) 
4. Science วิทยาศาสตร์ 

เป็นข้อสอบวัดระดับความรู้วิชาวิทยาศาสตร์ มีระยะเวลาสอบทั้งหมด 90 นาที ข้อสอบประมาณ 38 ข้อ โดยแบ่งหาดังนี้

  • วิทยาศาสตร์กับชีวิต (Life science) 
  • ฟิสิกส์และเคมี (Physics and Chemistry) 
  • โลกและอวกาศ (Earth and Space) 

การวัดระดับคะแนนสอบ GED 

ระดับการวัดคะแนนของ GED จะแยกออกเป็นแต่ละวิชา แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ซึ่งจำเป็นต้องสอบให้ผ่านทุกวิชา ผลจัดระดับแบ่งออกเป็นดังนี้

1. Below Passing เป็นระดับที่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่สอบผ่าน ช่วงคะแนนอยู่ที่ 100-144 คะแนน ถ้าสอบไม่ผ่านสามารถลงสอบใหม่ได้ทันที สามารถสอบได้มากสุด 3 ครั้ง/วิชา ถ้าครั้งที่ 4 ไม่ผ่านจะต้องเว้นไปอีก 60 วันถึงจะสอบใหม่ได้อีกครั้ง

2. Passing Score ระดับคะแนนที่สอบผ่าน ช่วงคะแนนอยู่ที่ 145-164 คะแนน

3. College Ready Score เป็นระดับคะแนนที่สามารถใช้ยื่นสมัครเรียนต่อในหมาวิทยาลัยได้ ช่วงคะแนนอยู่ที่ 165-174 คะแนน

4. College Ready + Credit Score เป็นช่วงระดับคะแนนสูงมาก ช่วงคะแนนอยู่ที่ 175-200 คะแนน 

ผลสอบ GED ใช้ที่ไหนได้บ้าง

หลายคนอาจสงสัยว่าคะแนน GED สามารถใช้ยื่นเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในประเทศได้หรือไม่ ตอบเลยว่าได้ เพราะการสอบ GED เป็นการทดสอบวัดระดับที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมหาวิทยาลัยในประเทศที่สามารถใช้คะแนน GED ได้จะเป็นหลักสูตรอินเตอร์ หรือหลักสูตรนานาชาติ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (หลักสูตรนานาชาติ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (หลักสูตรนานาชาติ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (หลักสูตรนานาชาติ) และ MUIC วิทยาลัยนานาชาติมหิดล เป็นต้น ใครที่สนใจจะสอบรูปแบบนี้ต้องเตรียมตัวและวางแผนทบทวนเนื้อหากันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเนื้อหาค่อนข้างครอบคลุมหลายวิชาและเป็นเนื้อหาภาษาอังกฤษทั้งหมด

แม้ว่าการสอบ GED จะไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความพยายาม แต่หากได้ทริคดีๆ ช่วยให้สอบผ่านตั้งแต่ครั้งแรก คงจะดีกว่าต้องนั่งสอบใหม่หลายครั้งแน่นอน น้องๆ คนไหนที่จะลงสนามสอบเร็วๆ นี้ และกังวลว่าพื้นฐานในบางวิชาอาจจะยังไม่แน่นพอ แนะนำลงคอร์สเรียน GED ที่ INTERPASS สถาบันกวดวิชาที่มีเนื้อหาเข้มข้น ช่วยปูพื้นฐานไปจนถึงเรียนเจาะลึกรายละเอียดทั้ง 4 วิชา รับรองว่าจะมีเคล็ดลับการสอบและเตรียมตัวให้สอบผ่านฉลุย ได้คะแนนดีอย่างแน่นอน สามารถเลือกเรียนเฉพาะวิชาหรือจะเลือกเป็นแพคเกจเรียนก็คุ้ม สามารถเข้าไปทดลองเรียนฟรีได้ที่ เว็บไซต์ INTERPASS ได้เลย

สนใจเรียนกับ INTERPASS ติดต่อสอบถามได้ที่: 
  • Tel: 089-9964256, 089-9923965
  • Line: @InterPass
  • Facebook: InterPass