‘Transparent Skin’ คือผิวที่ผสมผสานระหว่าง ‘Glassy Skin’ ผิวหน้าใสเปล่งประกาย อิ่มฟูฉ่ำวาว และ ‘Clear Skin’ ผิวหน้าเรียบเนียน เด้งกระชับ ในเวลาเดียวกัน อาจเรียกได้ว่าเป็นมิติใหม่ของเทรนด์ผิวพร้อมใช้ที่กำลังมาแรงและถูกพูดถึงอย่างมากในเมืองไทย
หมอหยก-แพทย์หญิงฉัตรบงกช เขมาชีวะกุล Skin Dream Clinic CEO, American Academy of Aesthetic Medicine Faculty เผยว่า ปัจจุบันคนไทยให้ความสนใจกับคุณภาพผิวมากขึ้น จากเดิมที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะปรึกษาเรื่องสารเติมเต็มที่เน้นไปเรื่องของการปรับรูปหน้า ตอนนี้ความสนใจพุ่งไปที่เรื่องผิวสุขภาพดี เรียบเนียน ผิวโกลว์กระจ่างใส ฉ่ำวาว กลายเป็นเทรนด์ที่คนแทบทุกวัยให้ความสำคัญ
“ที่ผ่านมานวัตกรรมความงามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สารโบทูลินัม ท็อกซิน ที่แม้จะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยหรืองานผิวได้ แต่ก็ยังให้ผลลัพธ์ไม่เป็นธรรมชาติ หรือแม้แต่สารเติมเต็มบางตัว ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ซึ่งใช้เติมเต็มหรือปรับรูปหน้า แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหากับริ้วรอยร่องเล็กๆ ที่เกิดบนชั้นผิวตื้นได้ดีนัก ทำให้เกิดปัญหาฉีดแล้วเป็นก้อนนูน ไม่เรียบเนียนไปกับผิว ต้องใช้เวลาพักหน้านานกว่าที่สารเติมเต็มจะผสานไปกับผิว รวมถึงไม่ทำให้ผิวชุ่มชื้นตามที่คนไข้ต้องการ”
ข้อจำกัดทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ทางการแพทย์เองก็ได้พยายามพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพงานผิวล่าสุด Merz Aesthetics Thailand (เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย) บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายนวัตกรรมความงามระดับโลก ได้พัฒนานวัตกรรมสารเติมเต็มผิวตัวแรกของโลกจากสวิสเซอร์แลนด์ ภายใต้ชื่อ BELOTERO REVIVE ที่มอบประสิทธิภาพของ 2 สารประกอบหลัก ได้แก่ Hyaluronic Acid และ Glycerol มาพร้อมนวัตกรรมการผลิตซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ BELOTERO คือ CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ทำให้ได้เนื้อเจลละเอียดมีความเรียบเนียน กลืนกับผิวหน้าได้ดี มอบผลลัพธ์ความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติทันทีที่ฉีด มีความปลอดภัยสูง
หมอหยก ชี้ให้เห็นข้อแตกต่างระหว่างสารเติมเต็มแบบดั้งเดิมกับ BELOTERO REVIVE ว่า “สารเติมเต็มที่เราคุ้นเคยจะมีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid โมเลกุลใหญ่เพียงอย่างเดียว และมีคุณสมบัติที่จับตัวเป็นก้อนเพื่อเติมเต็มและทำให้ได้รูป จึงไม่เหมาะกับแก้ปัญหาริ้วรอยที่เกิดบนผิวชั้นตื้น ในขณะที่ BELOTERO REVIVE มีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid โมเลกุลเล็ก จึงสามารถฉีดลงบนผิวชั้นตื้นได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมี Glycerol ที่ไปเปิดช่องว่างของผิวเพื่อให้เซลล์ผิวรับน้ำได้มากขึ้น ยิ่งเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้ผิวกักเก็บน้ำได้ดีขึ้น”
BELOTERO REVIVE เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องคุณภาพผิว เช่น ผิวแห้ง ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวลอกบ่อย มีริ้วรอย รูขุมขนกว้าง มีงานวิจัยพบว่า กลุ่มคนไข้ที่มีปัญผิวเรื้อรังจากโรค หรือในกลุ่มคนที่ผิวดีอยู่แล้วแต่อยากให้ผิวโกลว์บางจุดบนในหน้าเพื่อช่วยให้รูปหน้าดูโดดเด่นขึ้นก็สามารถฉีดได้เช่นกัน
จุดเด่นอีกข้อของการรักษาด้วย BELOTERO REVIVE คือ เข็มที่ใช้ฉีดมีขนาดเล็กมากๆ รวมถึงโมเลกุลของ Hyaluronic Acid ที่เล็กกว่าสารเติมเต็มแบบเดิม หลังการรักษาคนไข้สามารถออกไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่งหน้าติดง่ายขึ้น ที่สำคัญคงคุณภาพผิวที่ดีได้นานถึง 9 เดือน
สุดท้าย หมอหยก ยังฝากเคล็ดลับการดูแลผิวสุขภาพดีด้วยว่า “ถ้าอยากมีผิวสุขภาพดี จำเป็นต้องดูแลผิวทั้งจากภายในและภายนอก รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ส่วนการรักษาด้วยสารเติมเต็มผิวนั้นก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่จะทำให้ผิวของคุณสุขภาพดีพร้อมใช้งาน ช่วยให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันง่ายขึ้น ลดขั้นตอนและความยุ่งยากในการแต่งหน้า หน้าเนียนใสฉ่ำวาวได้ตลอดทั้งวัน ไม่ต้องคอยปกปิด ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ”