กชพร เวโรจน์ หรือ มาดามหยก ประธานที่ปรึกษาพรรครวมแผ่นดินและหัวหน้าสาขาภาคเหนือ เปิดบ้าน พรรครวมแผ่นดิน ย่านถนนบอนด์สตรีท อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี (เมืองทองธานี) เชิญสื่อมวลชนร่วมฟังคำกล่าวเปิดใจ ‘โค้งสุดท้าย ก่อนเลือกตั้ง’ โดยยกทัพเหล่าศิลปิน ดารา นักแสดง ในนามทีม Change Together กว่า 10 ชีวิต ร่วมเปิดใจพร้อมข้อสงสัย ‘ดารา กับ การเมือง’ อาทิ ตฤณ เศรษฐโชค, ทูน หิรัญทรัพย์, เล็ก ไอยศูรย์, บุญโทน คนหนุ่ม, สดใส รุ่งโพธิ์ทอง, กล้วย เชิญยิ้ม, ดามพ์ เผด็จดัสกร, อุ้ย รวิวรรณ จินดา, โก๋ จตุภูมิ, บี๋ สวิช เพชรวิเศษศิริ, โฟน ฆธาวุธ ปิ่นทอง, เอ ไมค์ทองคำ, ลาดา อาร์สยาม, เต้ นันทศัย, กำปั้น บาซู และ รุจ ภาสพล
โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม 2566 มาดามหยก ถือฤกษ์ดีช่วงเวลา 13.00 น. ตั้งโต๊ะเปิดใจถึงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ชูนโยบายหลักทั้ง 12 ข้อ พร้อมเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนถามคำถามได้ทุกคำถาม เพราะทุกคำถามมีคำตอบ และยังเปิดโอกาสให้ทีมดารานักแสดง Change Together ได้บอกเล่าเก้าสิบถึงนโยบายที่ตัวเองอยากจะทำ เพื่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวไทย ในคอนเซ็ปท์ที่ว่า Change Together เปลี่ยนไปด้วยกัน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมประชาธิปไตย รับใช้ประชาชน มาดามหยกเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า
“สำหรับพรรครวมแผ่นดิน เบอร์ 47 พวกเรามองว่าเพียงพอหรือยังกับนโยบายแบบประชานิยม ผลักดันให้ประชาชนรอคอยความช่วยเหลือ สุดท้ายผู้แบกรับภาระหนี้สิน ภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น จากการกู้ยืมเงินมาแจก คือประชาชนทุกคนในประเทศ ถึงเวลาหรือยังที่พวกเราจะหันมาสร้างรายได้เข้าประเทศ หันมามองนโยบายรัฐสวัสดิการ ที่ทำให้คนไทยทุกคนสามารถทำงานและพึ่งพาตนเอง จนนำพาไปสู่เศรษฐกิจที่เข้มแข็งและยั่งยืน ภายใต้ความช่วยเหลือจากรัฐบาล ช่วยอำนวยความสะดวกให้ในด้านสถานที่ประกอบการ สถานที่ทำกิน ที่ดินทำกิน เปรียบเสมือนมอบเบ็ดให้ผู้คนไปหาปลามาทานกันเอง ยั่งยืนมั่นคงกว่าการแบมือขอปลา รออาหารจากผู้อื่นมอบให้ดังพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำรัสไว้ เมื่อ 4 ธันวาคม 2541 ว่า ‘เราไม่ควรให้ปลาแก่เขา แต่ควรจะให้เบ็ดตกปลา และสอนให้รู้จักวิธีตกปลาจะดีกว่า’
การแจกเงิน โดยผู้รับไม่ต้องออกเหงื่อออกแรงให้เกิดโภชน์ผลการผลิตใดๆ คือการบ่มเพาะนิสัยหวังพึ่งให้กับชาวบ้าน ดังที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองท่านหนึ่งเคยเตือนไว้อย่างมีน้ำหนักว่า ‘การขับเคลื่อนนโยบายทั้งระบบ ไม่ใช่ประชานิยมแบบที่ทำให้ประชาชนเป็นขอทาน ต้องไม่ทำให้ประชาชนเป็นขอทาน’ วิธีการแจกเงินแบบให้เปล่า จึงเท่ากับดูถูกประชาชนว่าไม่มีน้ำยาที่จะพึ่งพาตนเอง ในความเป็นจริงประชาชนทั่วทั้งประเทศมีศักยภาพที่จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับครอบครัวและชุมชนอย่างเป็นจริงอยู่แล้วมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน
วันนี้ มาดามหยก กชพร เวโรจน์ อยากขออนุญาตเชิญชวนทุกท่านมาร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้เกิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ขอเชิญชวนคนไทย รวมใจกัน นำความรู้ความสามารถ นำเทคโนโลยีที่ทุกฝ่ายมี ไม่ว่าท่านจะอยู่ในช่วงวัยใด อาชีพไหน และเพศอะไร ทุกคนมีสิทธิที่เท่าเทียม และเป็นกำลังสำคัญที่จะมาร่วมกำหนดอนาคตประเทศไทย ขอเชิญมาร่วม สร้างความเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน โดยต้องคำนึงถึง ชาติ ศาสนา สถาบันฯ และนำศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี อันดีงาม มีประวัติศาสตร์ยาวนานของประเทศไทย ที่นานาประเทศกล่าวถึงตลอดนั้น มาเป็นจุดแข็ง ส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างรายได้เข้าประเทศ ขอให้ตระหนักว่ามีอดีตจึงมีปัจจุบัน มีเรา และอนาคต ดังนั้นทุกอย่างเมื่อหลอมรวมกันจะก่อให้เกิดความสามัคคี ปรองดอง การพัฒนาทางที่ดีในแผ่นดินไทย
สุดท้าย การพัฒนาประเทศ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง การขับเคลื่อนทุกมิติเพื่อความเจริญต่อไปของประเทศไทยจะทำได้โดยง่าย หากทุกคนเปิดใจร่วมมือร่วมใจ ลดละความขัดแย้ง เปลี่ยนความขัดแย้งเป็นความสามัคคี เปลี่ยนช่องว่างระหว่างแต่ละเจเนอเรชั่นเป็นความเคารพคนรอบข้างอย่างเข้าใจ เปลี่ยนการขัดขวางเป็นความร่วมมือ เปลี่ยนอคติเป็นสติปัญญา เปลี่ยนความไม่เข้าใจเป็นการหันหน้าปรึกษาพูดคุยกัน ถึงเวลาแล้วที่เราคนไทยจะมาร่วมเปลี่ยนไปด้วยกัน Change Together มาดามหยกขอฝากพรรครวมแผ่นดิน เบอร์47 มอบให้เป็นพรรคการเมืองยุคใหม่ ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับประชาชนคนไทยทุกคน ทุกเพศทุกวัย หลากหลายอาชีพ เน้นความปรองดอง สร้างสรรค์ สามัคคี มีเมตตาตามแบบฉบับคนไทยเรา เคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน สร้างความเท่าเทียมลดความเหลื่อมล้ำ ดำรงไว้ซึ่ง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามมา ณ ที่นี้นะคะ”
พรรครวมแผ่นดินถึงแม้ว่าจะเป็นพรรคใหม่ แต่ก็มีความตั้งใจที่ทำงานเพื่อประชาชนและพร้อมเปลี่ยนไปด้วยกัน เพื่อความสดใสและความยั่งยืนให้กับประเทศไทย