DSI กองสลากพลัส กู้ยืมเงิน แทนไท

แทนไท เข้าพบดีเอสไอในฐานะพยาน หอบเอกสารชี้แจง กรณีให้ กองสลากพลัส กู้ยืมเงินเพื่อประกอบธุรกิจ

วันนี้ (27 ก.พ. 2566) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายแทนไท ณรงค์กูล นักธุรกิจและไอดอลคริปโตชื่อดัง พร้อมด้วยทนายความได้เข้าชี้แจงกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะพยาน โดยนำพยานเอกสารและพยานวัตถุเข้าชี้แจง กรณีการให้บริษัท…

Home / PR NEWS / แทนไท เข้าพบดีเอสไอในฐานะพยาน หอบเอกสารชี้แจง กรณีให้ กองสลากพลัส กู้ยืมเงินเพื่อประกอบธุรกิจ

วันนี้ (27 ก.พ. 2566) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายแทนไท ณรงค์กูล นักธุรกิจและไอดอลคริปโตชื่อดัง พร้อมด้วยทนายความได้เข้าชี้แจงกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะพยาน โดยนำพยานเอกสารและพยานวัตถุเข้าชี้แจง กรณีการให้บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด กู้ยืมเงินเพื่อประกอบธุรกิจ

นายแทนไท เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้เข้าพบดีเอสไอตามหมายเรียกในฐานะพยาน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน (มูลฐานพนันออนไลน์) ซึ่งผมก็เป็นนักลงทุนคนหนึ่งที่มองหาโอกาสทางธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองและบริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด โดยผมมีสัญญาการให้ บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด กู้ยืมเงินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

“โดยผมได้นำหลักฐานการให้กู้ยืมเงิน เป็นแคชเชียร์เช็ค 2 ฉบับ จำนวน 150 ล้านบาท และ 50 ล้านบาท ที่นำเงินจากบัญชี บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ไปซื้อแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายให้ กับ บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด รวมถึงมีเอกสารการบอกเลิกสัญญากับ บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด เนื่องจากสัญญาเงินกู้มีข้อความระบุชัดเจนในเหตุแห่งการบอกเลิกสัญญาว่า “ด้วยปรากฏสถานการณ์ข่าวในเชิงลบต่อผู้กู้ จนเป็นเหตุให้ผู้กู้ประสบปัญหาในการประกอบกิจการ ทำให้ไม่สามารถหารายได้เพียงพอต่อการชำระค่าดอกเบี้ยแก่ผู้ให้กู้ได้ตามสัญญา ผู้ให้กู้จึงประสงค์เลิกสัญญา” ซึ่งเงินที่ บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด โอนคืนกลับมาให้ กับ บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ในวันที่ 30 มกราคม 2566 จำนวน 100 รายการ รายการละ 2 ล้านบาท รวม 200 ล้านบาท ผมขอยืนยันว่าเงินจำนวนดังกล่าว คือเงินต้นที่ให้กู้ยืมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และในวันนี้ผมได้นำหลักฐานมาแสดงให้กับทางดีเอสไอด้วย”

นายแทนไท กล่าวต่อไปว่า ผมพร้อมพิสูจน์ความจริงว่าเงินที่ผมนำมาลงทุนทำธุรกิจทั้งหมด ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา ธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และการฟอกเงิน ซึ่งหากมีการกล่าวหาผมโดยปราศจากข้อเท็จจริง
ทำให้ผมเสื่อมเสียชื่อเสียงและสังคมเกิดความเข้าใจผิด รวมถึงทำให้ธุรกิจได้รับความเสียหาย ผมคงต้องพิจารณาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป