
คงมีคนไม่น้อยที่กำลังมีความสุขขณะเดินทางไกลเพื่อไปเที่ยวหรือกลับไปหาครอบครัว แต่ดันต้องมาเจอปัญหารถเสียกลางทาง ซึ่งหากเกิดเจอแบบนี้คงเสียเวลาและรู้สึกเสียอารมณ์ไม่น้อย หากไม่อยากเจอเหตุการณ์รถมีปัญหา ก่อนเดินทางควรตรวจเช็กสภาพรถให้ดีๆ ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำ 8 จุดที่ควรตรวจเช็กก่อนเดินทาง เพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยในการเดินทาง มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1.แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ถือเป็นหัวใจสำคัญของการสตาร์ทเครื่องยนต์ ควรตรวจสอบสภาพของแบตเตอรี่ให้แน่ใจก่อนว่ายังทำงานได้ดี โดยหมั่นเช็ดคราบขี้เกลือและคราบเขม่าบนขั้วของแบตเตอรี่ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าระดับน้ำของสารหล่อเย็นอยู่ในระดับมาตรฐาน รวมถึงตรวจสอบดูว่าสายแบตเตอรี่บิดเบี้ยวหรือไม่และทำการขันให้แน่น
2.ระบบไฟส่องสว่าง
รถต้องมีแสงสว่างเพียงพอเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางสำหรับทุกสภาพแวดล้อม รวมถึงการขับรถในที่มืดหรือช่วงค่ำของวัน ตรวจเช็กระบบไฟและระบบไฟฟ้าให้ครบทุกจุด ทั้งไฟหน้า ไฟสูงและต่ำ ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว ไฟถอยหลัง ไฟหน้า ไฟตัดหมอก ไฟฉุกเฉิน และอื่นๆ โดยวิธีตรวจสอบคือก่อนออกเดินทางลองเปิดใช้งานไฟทั้งหมด เพื่อดูว่าไฟทุกจุดนั้นอยู่ในสภาพการทำงานปกติหรือไม่ จุดใดไม่สว่างหรือทำงานไม่ถูกต้องควรแก้ไขทันที เพราะหากไฟบางจุดเสียหรือไม่สว่างเท่าที่ควร อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดและเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้
3.เช็กล้อและยาง
หนึ่งในปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่งก่อนเดินทางไกลก็คือลมยางของรถยนต์ทั้ง 4 ล้อ เพราะเป็นตำแหน่งที่รับน้ำหนักและมีส่วนสำคัญให้การขับเคลื่อนเป็นไปอย่างราบรื่น โดยรถแต่ละประเภทก็จะมีแรงลมดันยางแตกต่างกันออกไป ควรเติมตามความเหมาะสมหรือตามค่ากำหนดที่รถระบุ ซึ่งสามารถดูได้บริเวณข้างประตูของฝั่งคนขับ ไม่ควรเติมลมยางมากหรืออ่อนเกินไป รวมถึงไม่ลืมที่จะเตรียมยางอะไหล่สำรองและอุปกรณ์ไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินด้วย ซึ่งก็ควรหมั่นเช็กเป็นประจำเช่นกันว่ายางอะไหล่ยังอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
4.ระบบเบรกและน้ำมันเบรก
การเบรกนั้นเกี่ยวข้องกับการขับขี่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะช่วงที่ต้องลดความเร็ว หยุดรถ หรือจังหวะฉุกเฉินต่างๆ พยายามตรวจสอบระบบเบรกเพื่อให้แน่ใจว่ายังทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถจอดรถได้อย่างราบรื่น นิ่มนวล แต่หากคุณต้องเหยียบเบรกลึกและกระแทกเบรกให้แรงขึ้นกว่าปกติ นั่นกำลังบ่งบอกอาการของเบรกเสีย ควรตรวจสอบผ้าเบรกทันที
5.ระบบแตรรถยนต์
หากจะให้แน่ใจจริงๆ ว่ารถของเราพร้อมแล้วสำหรับการออกเดินทางไกล ก็ไม่ควรลืมที่จะตรวจสอบแตรด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วแตรรถมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเราต้องใช้แตรเพื่อสื่อสารและเตือนผู้อื่นบนท้องถนนโดยการบีบแตร ในการตรวจสอบแตรและดูว่าทำงานดีอยู่หรือไม่นั้น ให้ลองฟังดูว่าแตรยังคงมีเสียงดังและลมแตรยังดีอยู่เท่านั้นเอง
6.ตรวจสอบหม้อน้ำและระบบหล่อเย็นภายในรถ
หม้อน้ำรถยนต์มีหน้าที่ช่วยระบายความร้อนและช่วยหล่อเลี้ยงความเย็นให้กับเครื่องยนต์เพื่อไม่ให้มีอุณหภูมิสูงเกินไป ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการดูแลหม้อน้ำและคอยดูระดับน้ำในหม้อน้ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอนั้นเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นประจำ ในการเติมน้ำยาหล่อเย็นควรดูที่ระหว่างเครื่องหมาย FULL และเครื่องหมาย LOW หากระดับน้ำต่ำกว่าจุดต่ำสุด ให้เติมน้ำยาหล่อเย็นลงไปจนถึงเครื่องหมาย FULL หรือหากเดินทางแล้วรถความร้อนขึ้นหรือมีสัญญาณเตือนสัญลักษณ์หม้อน้ำปรากฎขึ้นมา ควรรีบจอดรถ ดับเครื่อง และรอให้เครื่องยนต์เย็นลงและไม่ควรเปิดดูหม้อพักน้ำทันที
7.เช็กช่วงล่าง
ระหว่างขับให้ทดลองขับรถบนถนนเส้นตรง โดยดูว่าพวงมาลัยอยู่ในตำแหน่งหันตรงหรือไม่ หากไม่ตรง แนะนำให้ไปตั้งศูนย์ใหม่ที่อู่หรือศูนย์ที่ให้บริการ รวมถึงหมั่นตรวจเช็กส่วนประกอบต่างๆ ของระบบกันสะเทือน เช่น ลูกหมาก ถ้าสั่นสะเทือนบนถนนที่ขรุขระและมีเสียงดัง ควรนำเข้าศูนย์เพื่อให้ช่างเช็กอาการก่อนเดินทางด้วยเช่นกัน
8.น้ำมันเครื่อง
หมั่นตรวจสอบระดับของน้ำมันเครื่องเป็นประจำ ซึ่งสามารถทำได้โดยการจอดรถในท่าแนวราบ เปิดฝากระโปรงหน้า มองหาก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง แล้วดึงก้านวัดขึ้น ใช้ผ้าเช็ดน้ำมันส่วนเกินออกจากก้านวัดระดับน้ำมัน ใส่ก้านวัดระดับน้ำมันกลับเข้าที่เดิมแล้วดึงขึ้นเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง สังเกตการเปลี่ยนแปลงในแถบวัดระดับน้ำมันเครื่อง ควรอยู่ระหว่าง F1 และ L หรือ Max และ Min แต่ถ้าระดับสูงหรือต่ำเกินไปควรเพิ่มหรือนำน้ำมันเครื่องออก
เพื่อการเดินทางให้ปลอดภัยทั้งต่อตัวคุณ ครอบครัว และเพื่อนร่วมทาง นอกจากการตรวจสอบสภาพรถยนต์ให้ดีแล้ว การมีน้ำใจและไม่ประมาทก็เป็นอีกส่วนที่ทำให้เดินทางถึงที่หมายได้อย่างสวัสดิภาพในวันหยุดยาว สำหรับวันหยุดยาวครั้งหน้า หากใครหรือครอบครัวไหนที่กำลังมองหารถมือสองสภาพดีเอาไว้เดินทางไปเที่ยวสักคัน โดยเฉพาะรถตลาดที่เป็นที่นิยม เช่น Toyota Vios, Toyota Altis มือสอง หรือรุ่นอื่นๆ ของแบรนด์ Toyota สามารถเข้าไปดูและเลือกได้ที่ Car Hero ศูนย์รวมรถมือสองที่ดีที่สุด มั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้รถสภาพดีพร้อมใช้งาน ในราคาที่จับต้องได้ เพราะ Car Hero ได้คัดรถที่ดีที่สุดและได้รับการตรวจเช็กจากฮีโร่กว่า 221 จุดทุกคันมาเป็นอย่างดี สบายใจและรอรับรถอยู่ที่บ้านได้เลย รอเพียงแค่คุณมาจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้