เพียงหนึ่งปีภายหลังจากการรีแบรนด์ “Hitachi Energy” บริษัทผู้บุกเบิกเทคโนโลยีและผู้นำงานด้านดิจิทัล มีเป้าหมายใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม คือ การเป็นองค์กรที่ “ขับเคลื่อนอนาคตพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน”
ดร.วรวุฒิ วรุตตมพรสุ Country Managing Director บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เปิดตัว บริษัทได้พัฒนาและนำเสนอโซลูชันหลัก เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย
EconiQTM พอร์ตโฟลิโอที่มีประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจที่ยอดเยี่ยม ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถลดการเกิดคาร์บอนฟุตพรินต์ตลอดวงจรชีวิตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งยังได้เปิดตัว เซอร์กิตเบรกเกอร์ 420-kilovolt (kV) Circuit-Breaker ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอทางไฟฟ้าแรงสูงอย่าง EconiQ โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาโซลูชันทางเลือกจากการไม่ใช้ซัลเฟอร์เฮกซาฟลูออไรด์ ที่มีประสิทธิภาพในเชิงนิเวศเศรษฐกิจ
Grid-eXpandTM ชุดการเชื่อมต่อโครงการแบบฉนวนอากาศและฉนวนก๊าซที่ผลิตแบบโมดูลแนวใหม่ ซึ่งได้รับการพัฒนาประกอบ และทดสอบในโรงงานก่อนการส่งมอบ เพื่อให้พร้อมสำหรับการจัดสรรพลังงานแก่พื้นที่ปฏิบัติงานที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว
IdentiQTM โซลูชันระบบดิจิทัลแบบแพ็กคู่ของงานไฟฟ้ากระแสตรงแรงดันสูง และพอร์ตโฟลิโอคุณภาพไฟฟ้าช่วยอำนวยความสำดวกในการประสานงานด้านดิจิทัลแบบข้ามสายงาน
Lumada Inspection Insights พอร์ตโฟลิโอโซลูชันดิจิทัลแบบครบวงจรเพื่อการตรวจสอบ การเฝ้าระวัง และการใช้งานสินทรัพย์สำคัญทางธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจน OceaniQTM พอร์ตโฟลิโอด้านนวัตกรรมของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการรับมือความท้าทายของปัญหานอกชายฝั่งทะเล เพื่อลดต้นทุน เพิ่มความปลอดภัย และยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน
“ฮิตาชิ เราขับเคลื่อนธุรกิจด้านนวัตกรรมสังคมผ่านการสร้างสรรค์สังคมที่ยั่งยืนด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี เราจะแก้ไขปัญหาความท้าทายของลูกค้าด้วยสังคมด้วยโซลูชัน Lumada ซึ่งใช้ประโยชน์จาก OT (Operational Technology) และผลิตภัณฑ์ภายใต้โครงสร้างธุรกิจของเรา ด้วยการขับเคลื่อนพลังงานสะอาด ระบบดิจิทัล และนวัตกรรม เรามุ่งสร้างการเติบโตผ่านการประสานความร่วมมือกับลูกค้าของเรา”
โดยชื่อ Hitachi Energy คือ การสะท้อนถึงภาพรวมด้านพลังงานที่กำลังวิวัฒน์ไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงโอกาสในการสร้างสรรค์คุณค่าทางสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ชื่อใหม่นี้ ยังช่วยตอกย้ำสถานะของบริษัทในการเป็นผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีและบริการทั้งสำหรับลูกค้าในปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะธุรกิจด้านโครงข่ายพลังงาน หากยังเปิดรับโอกาสในขอบเขตที่กว้างขึ้นไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนความยั่งยืน และวิถีชีวิตใหม่ (Smart Life) ของผู้คน
“ใน 30 ปีข้างหน้าจะมีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้นเป็น 2 เท่า จะใช้พลังงานหมุนเวียนเข้ามาทดแทนพลังงานไฟฟ้า เช่นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม มีการใช้พลังงานไฮโดรเจน แทนแบตเตอรี่ไฟฟ้า ซึ่งบริษัทได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของเรื่องเหล่านี้เป็นอันดับต้นๆ”
ดร.วรวุฒิ เปิดเผยว่า นับจากนี้ไป “ความยั่งยืน” จะเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของ Hitachi Energy TH พร้อมเผยถึงแผนกลยุท์ด้านความยั่งยืน Sustainability 2030 ว่า Hitachi Energy TH จะเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานทั่วโลก และกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อผู้คน สันติภาพ และพันธมิตร โดยมีแผน Sustainability 2030 ที่เกี่ยวข้องกับมิติ “ด้านสิ่งแวดล้อม” ประกอบไปด้วย 4P (Planet, People, Peace และ Partnership)
P-Planet ได้แก่ Clean water, Clean Energy และ Responsible Production Consumption มีเป้าหมายภายในปี 2030 ในแง่ของ Global Level เพื่อลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซใน Value Chain 50% ลดการปล่อยของเสีย 50% ลดการใช้น้ำสะอาด 25% และ ลดการใช้สารเคมี 25%
“เรามีการทำไฟฟ้าที่ไม่ได้มาจาก Fossil-Fuel ในโรงงานที่บางปู มีการติดตั้ง Solar Roof Top และใช้เทคโนโลยีระบบการจัดการของตัวเอง”
P-People Good Health Well-Being เน้นเรื่องสุขภาพและการศึกษาที่มีคุณภาพของคนในบริษัท คนที่อยู่ในสังคม รวมถึงให้ความสำคัญในเรื่องเพศ
P-Peace การดำเนินธุรกิจภายใต้ขอบเขต และ P-Partnership ดำเนินธุรกิจแบบมีเพื่อนร่วมทาง
“ไม่มีธุรกิจใดที่จะสามารถดำเนินธุรกิจได้เพียงลำพัง เรามีเพื่อนร่วมธุรกิจในทุกระดับ อย่างเมื่อ มีนาคมที่ผ่านมา เราเพิ่งได้มีการเซ็นลงนามบรรลุข้อตกลงกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในเรื่อง Energy Transition เดือน พฤษภาคม เซ็น MOU ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต มี Micro Grid ที่เบตง มี Data Center ในเรื่องของสถานีไฟฟ้า นอกจากนี้ เรายังมี Success Story ในระดับโลก เช่น Off Shore Wind FRAM”
เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวในประเทศไทย Hitachi Energy ได้ดำเนินการติดตั้งหลังคาโรงงานเป็นแผงโซลาร์โดยคาดว่าจะช่วยลดอัตราการจัดซื้อพลังงานไฟฟ้า ทั้งยังตั้งเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนในขั้นตอนดำเนินงาน และมุ่งสู่เป้าหมายแรกในการใช้พลังงานหมุนเวียน 100%
โดย Hitachi Energy TH ได้ลงนามสัญญาคาร์บอนเครดิตกับบริษัทชั้นนำของเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น ไม่นานมานี้ Hitachi Energy TH ยังได้รับใบรับรองโครงการส่งเสริมสถานประกอบการรวมพลังสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสุขอย่างยั่งยืนประจำปี 2022 (Corporate Social Responsibility, Department of Industrial Works: CSR-DIW)
อีกทั้งยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะร่วมขับเคลื่อนการลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อมุ่งสู่การเป็นกลางทางคาร์บอนในระดับองค์กรธุรกิจอีกด้วย
“เราร่วมมือกับลูกค้าและพันธมิตรธุรกิจในการแสวงหาโซลูชันเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลก มุ่งสู่อนาคตที่เป็นกลางทางคาร์บอนอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม ในฐานะผู้ประกอบการในประเทศไทย เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านพลังงาน ทั้งยังให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิต การสร้างแรงบันดาลใจ และส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไปพร้อมกัน”
ในแง่ของการเติบโตทางธุรกิจ ดร.วรวุฒิ กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจในไทยมีมูลค่าอยู่ที่ราวๆ 6,000 ล้านบาท ในแง่ของยอดขาย Hitachi Energy TH ในฐานะธุรกิจด้านพลังงาน หากรัฐบาลจะเน้นการผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กของกลุ่ม VSPP และหากมีโอกาสในอนาคต Hitachi Energy อาจจะเข้าไปร่วมด้วย
“เป้าหมายธุรกิจในตอนนี้ Hitachi Energy TH เราตั้งเป้าหมายลดคาร์บอนฟุตพรินต์ โดยจะลิงค์กับ Sustainability 2030 Plan เรามี Global Target ลด Co2 ตลอดห่วงโซ 50% ในไทย 100% ใช้ไฟฟ้า ไม่ใช้ Fossil-Fuel ใช้คาร์บอนเครดิตพลังงานแสงอาทิตย์เข้าไป รวมถึงกำจัดของเสีย 50% ให้ได้ภายในปี 2030” เรียกได้ว่า Hitachi Energy เป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีและเป็นผู้นำด้านดิจิทัลที่จำเป็นในการเร่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่อนาคตที่ปราศจากคาร์บอนเลยก็ว่าได้
Hitachi Energy มีผลงานที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วอย่างแพร่หลายมากกว่า 140 ประเทศ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีพนักงานประมาณ 38,000 คนใน 90 ประเทศทั่วโลก มีบริษัทในเครือกว่า 853 แห่งและพนักงานทั่วโลกรวมกว่า 370,000 คน มีผลประกอบการทางธุรกิจกว่าหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในไตรมาสแรกของปี 2022 สามารถสร้างรายได้ไปแล้วกว่า 84,136 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับ Hitachi Energy TH ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Hitachi Energy ปัจจุบันมีพนักงานที่ดูแลตลาดประเทศไทย เมียนมาร์ ลาว และกัมพูชาจำนวน 450 คน มีสำนักงานใหญ่อยู่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร และมีโรงงานการผลิตอยู่ที่อุตสาหกรรมบางปู ทั้งยังมีศูนย์บริการ Product Solution Service ตั้งอยู่ที่บ้านฉาง จังหวัดระยอง
“Hitachi Energy Thailand เรากำลังขับเคลื่อนระบบพลังงานของโลกให้มีความยั่งยืน ยืดหยุ่น และปลอดภัยมากขึ้น พร้อมกับการสร้างสมดุลด้านคุณค่าทางสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ” ดร.วรวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย