วันที่ 11 สิงหาคม 2565 เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 8 และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่กรณีสื่อสังคมออนไลน์เพจเฟสบุ๊คต้องแฉ มีการนำเสนอข่าวโดยระบุข้อความว่า “พบผิวถนนช่วงนิคมสร้างตนเองพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสภาพพังยับ ทั้ง ๆ ที่ตามป้ายโครงการแจ้งว่าเพิ่งสิ้นสุดสัญญาก่อสร้างเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 ทำให้เครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่มีความสงสัยว่าถนนที่สร้างมาได้มาตรฐานหรือไม่”
จากการลงพื้นที่ มีผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองพระแสง ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ให้ข้อมูลและนำลงพื้นที่ โดยโครงการดังกล่าว ได้ลงนามสัญญาจ้างเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 เป็นเงิน 12,850,000 บาท เริ่มดำเนินการวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 ก่อสร้างแล้วเสร็จวันที่ 22 มีนาคม 2564 โดยผู้รับจ้างจะรับผิดชอบในความชำรุดบกพร่องของงานจ้าง ภายใน 2 ปี 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2564 – 25 พฤษภาคม 2566 นั้น จากการตรวจสอบ ในระยะทางก่อสร้าง 10 กิโลเมตร พบถนนมีการชำรุดเสียหายอย่างหนักมากกว่า 10 จุด และพื้นที่ดังกล่าวมีผู้ประกอบการรับซื้อผลปาล์ม จำนวน 3 ราย ทำให้มีรถบรรทุกสิบล้อพ่วงบรรทุกผลปาล์มในเส้นทางดังกล่าว ซึ่งอาจจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ถนนพังชำรุดได้เร็วขึ้น
ที่ผ่านมานิคมสร้างตนเองพระแสง ได้ส่งหนังสือแจ้งผู้รับจ้างให้เข้ามาแก้ไขความชำรุดบกพร่องจำนวน 3 ครั้ง
ครั้งที่ 1 วันที่ 18 มิ.ย.64 ผู้รับจ้างได้ตอบกลับ ความว่าจะเร่งรัดส่งช่างผู้ควบคุมงาน เข้ามาตรวจสอบสภาพถนนที่ชำรุดเสียหาย และดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขความชำรุดบกพร่องของงานก่อสร้างโครงการดังกล่าวให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว แต่สุดท้ายผู้รับจ้างไม่มีการเข้ามาซ่อมแซมใด ๆ
ครั้งที่ 2 วันที่ 27 ตุลาคม 64 ผู้รับจ้างได้ตอบกลับมาว่า ทางห้างฯ ได้รับผลกระทบเรื่องแรงงานจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลโดยตรงต่อการทำงาน ทำให้การเข้าดำเนินการซ่อมถนนลาดยางต้องเลื่อนออกไปและจะเร่งรัดจัดเตรียมกำลังคนและเครื่องจักรเข้าซ่อมถนนในจุดที่เสียหายให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด แต่สุดท้ายผู้รับจ้างไม่มีการเข้ามาซ่อมแซมใด ๆ
ครั้งที่ 3 วันที่ 27 มิถุนายน 65 ผู้รับจ้างได้รับหนังสือแล้วแต่ไม่มีการตอบกลับใด ๆ
คณะจากสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 8 และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ให้คำแนะนำ เบื้องต้นแก่นิคมสร้างตนเองพระแสง ให้ทำหนังสือหารือกับคลังจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ/หรือกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ว่ากรณีดังกล่าวสามารถดำเนินการอย่างไรต่อไป เพื่อให้ประชาชนและภาครัฐได้รับประโยชน์สูงสุดจากการบริหารสัญญาดังกล่าว เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาดำเนินการต่อไป รวมทั้งเสนอให้นิคมสร้างตนเองพระแสง ร่วมกับชุมชน และผู้ประกอบการรับซื้อผลปาล์ม ประชุมหารือ บำรุงรักษาแลดูแลถนนสายดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 8 และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขอเอกสาร หลักฐานเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวทั้งหมด เพื่อศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ว่าการดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้องครบถ้วนหรือไม่