หลายคนอาจเคยได้พบประสบการณ์การเข้าถึงรสชาติอาหารที่ล้ำลึกกว่าเคย และสงสัยว่าทำไมอาหารธรรมดาๆ บางมื้ออาจมีความพิเศษและอร่อยขึ้นได้ เพียงแค่มีเครื่องดื่มที่เข้ากันมาประกอบ เพราะการแพริ่งอาหารกับเครื่องดื่ม (Food Pairing) เป็นศาสตร์การดึงจุดเด่นของรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือขนมหวานมาผสมผสานกับกลิ่น และรสชาติของเครื่องดื่มที่สร้างให้เกิดความโดดเด่นที่เข้ากันอย่างลงตัว ให้มื้ออาหารนั้นกลมกล่อมและมีมิติยิ่งขึ้น จนทำให้อยากทานซ้ำแล้วซ้ำอีก
การแพริ่งอาหารกับเครื่องดื่ม
แน่นอนเมื่อพูดถึงการแพริ่งอาหารกับเครื่องดื่ม หลายคนอาจจะคุ้นชินกับการจับคู่อาหารกับเครื่องดื่มชนิดไวน์ ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการทานอาหารตะวันตกที่มักจะจับคู่ไวน์แดงกับการทานเนื้อแดง หรือไวน์ขาวกับเนื้อปลา แต่ความจริงแล้ว การแพริ่งอาหารกับเครื่องดื่มไม่ได้มีสูตรตายตัว ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่การหยิบไวน์ขวดที่เหมาะสมมาผสานกับอาหารจานตะวันตกเท่านั้น อาหารจีน หรือ อาหารญี่ปุ่นก็มีการแพริ่งควบคู่กับชาชนิดต่างๆ ที่ดึงให้รสชาติโดดเด่นเช่นกัน ดังเช่นการทานชาเขียวคู่กับขนมหวานญี่ปุ่นที่เป็นการบาลานซ์ความหวานและขมได้อย่างลงตัว
จับคู่วิสกี้กับอาหาร ความรื่นรมย์ที่อยากบอกต่อ
การจับคู่วิสกี้กับอาหาร ก็เป็นอีกหนึ่งการแพริ่งอาหารกับเครื่องดื่มที่สามารถการันตีความรื่นรมย์ของการเข้าถึงรสชาติอาหารได้อย่างน่าสนใจ เพราะวิสกี้เป็นเครื่องดื่มที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าค้นหา สะท้อนออกมาผ่านรสชาติและกลิ่น ซึ่งก็แตกต่างกันไปตามสถานที่ผลิต ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ รวมถึงจำนวนปีของการบ่ม ระยะเวลาในการบ่มวิสกี้ที่ต่างกันย่อมส่งผลให้ความนุ่มลึกของรสชาติแตกต่างกันไปอย่างน่ามหัศจรรย์ เอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้แหละที่ทำให้การดื่มวิสกี้กับอาหารแต่ละจานสนุกยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นชินกับการแพริ่งอาหารกับเครื่องดื่มอย่างวิสกี้ แนะนำให้ลองเลือกดื่มด่ำไปกับรสชาติของวิสกี้แบบเพียว เพื่อเข้าถึงรสชาติออริจินัล ไม่มีสิ่งปรุงแต่ง การดื่มวิสกี้ก็เหมือนกับการรับประทานอาหารที่ต้องใช้ประสาทสัมผัสต่างๆ ในการดื่มด่ำไปกับจินตนาการ ว่ารสสัมผัสที่ได้เป็นกลิ่นหรือรสชาติแบบใด ใครที่ยังไม่เคยลอง แนะนำให้เริ่มต้นจากการรับรู้กลิ่นผ่านการเอียงแก้วเข้าหาตัว จะได้พบกับกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ต่อมาค่อยๆ จิบวิสกี้แล้วค้างไว้ในปากสักพักเพื่อให้เข้าถึงรสสัมผัสเฉพาะ หรือจะลองการดื่มวิสกี้พร้อมน้ำแข็งสักก้อนแบบ On The Rock ก็เป็นการเปลี่ยนรสสัมผัสให้แตกต่างไป
เมื่อได้ลองรสสัมผัสไร้การปรุงแต่งแล้ว อาจจะลองขยับมาเลือกวิสกี้ให้เหมาะกับอาหาร หรือ ขนมจานโปรด ซิงเกิลมอลต์วิสกี้อย่าง The Singleton ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทำให้การแพริ่งอาหารกับเครื่องดื่มเป็นไปอย่างน่าสนใจ ด้วยรสชาติที่ครบรส นุ่ม และดื่มง่าย มาพร้อมระยะการบ่มที่แตกต่างกันตั้งแต่ 12 15 และ 18 ซึ่งรสสัมผัสและกลิ่นที่ได้ก็มีเสน่ห์ต่างกันไป ลองแพริ่งวิสกี้กับมื้ออาหารถัดไปของคุณแล้วค้นพบเสน่ห์ของรสชาติอันมหัศจรรย์ที่นอกจากจะผสมผสานกันอย่างลงตัวแล้ว ยังช่วยดึงความโดดเด่นของวัตถุดิบออกมา การันตีให้มื้อนั้นเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจไม่รู้ลืม