Realme smartphones มือถือ สมาร์ตโฟน เรียลมี

realme มอบประสบการณ์ขั้นสุดกับกล้องระดับแฟล็กชิปใน realme 9 Pro+ กับเทคโนโลยี “ProLight Imaging Technology” เซ็นเซอร์ Sony IMX766, ระบบกันสั่นคู่ และ AI ลด Noise อย่างชาญฉลาด

ด้วยการยึดมั่นในปรัชญา Dare to Leap ทำให้ realme มุ่งมั่นนำเสนอความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีและการออกแบบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงแก่ผู้ใช้สมาร์ตโฟนทั่วโลก โดยเฉพาะในตระกูล Number Series realme มุ่งเน้นการสร้างภาพลักษณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงประสบการณ์สมาร์ตโฟนระดับแฟล็กชิปได้อย่างคุ้มค่าที่สุด realme 8…

Home / PR NEWS / realme มอบประสบการณ์ขั้นสุดกับกล้องระดับแฟล็กชิปใน realme 9 Pro+ กับเทคโนโลยี “ProLight Imaging Technology” เซ็นเซอร์ Sony IMX766, ระบบกันสั่นคู่ และ AI ลด Noise อย่างชาญฉลาด

ด้วยการยึดมั่นในปรัชญา Dare to Leap ทำให้ realme มุ่งมั่นนำเสนอความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีและการออกแบบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงแก่ผู้ใช้สมาร์ตโฟนทั่วโลก โดยเฉพาะในตระกูล Number Series realme มุ่งเน้นการสร้างภาพลักษณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงประสบการณ์สมาร์ตโฟนระดับแฟล็กชิปได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

realme 8 Pro ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จของแบรนด์ในการสร้างนิยามใหม่ของกล้องสมาร์ตโฟนในด้านความละเอียดสูง และในรุ่น realme 9 Pro+ นี้ ทีมวิศวกรของ realme ก็ได้ร่วมมือกันอีกครั้งเพื่อให้คำตอบแก่คำถามที่ค้างคาใจเรามาตลอด – “จะดีแค่ไหน ถ้ากล้องสมาร์ตโฟนสามารถถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้อย่างยอดเยี่ยม?”

และวันนี้ realme รู้สึกตื่นเต้นและภาคภูมิใจที่จะได้นำเสนอเทคโนโลยีการถ่ายภาพรูปแบบใหม่ที่จะถูกใช้ในสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดของแบรนด์ซึ่งมีประสิทธิภาพล้ำหน้ากว่าสมาร์ตโฟนทุกรุ่นในคลาสเดียวกัน โดยเราเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า “ProLight Imaging Technology”

ทีมวิศวกรการถ่ายภาพของ realme ได้ระบุถึงสาเหตุหลัก ๆ บางประการที่ทำให้เกิดจุดรบกวนภาพ (Noise) และส่งผลต่อความคมชัดของภาพถ่ายกล้องสมาร์ตโฟน ซึ่งได้แก่ การใช้เซ็นเซอร์ขนาดเล็ก สภาพแสง และการสั่นไหว ทำให้ ProLight Imaging Technology จึงผสานองค์ประกอบต่าง ๆ อย่างชาญฉลาดเพื่อให้คุณสามารถเก็บภาพได้สวยงามในทุกสถานการณ์ ทั้งการใช้เซ็นเซอร์รับแสงขนาดใหญ่ ร่วมกับระบบอัลกอริธึมช่วยลดจุดรบกวนของ Noise ในภาพ และระบบกันสั่นคู่

สัมผัสเซ็นเซอร์ระดับแฟล็กชิป Sony IMX766
เริ่มจากการเลือกใช้เซ็นเซอร์รับแสงระดับท็อปที่นิยมใช้ในสมาร์ตโฟนแฟล็กชิปในท้องตลาดกว่า 15 รุ่นอย่างเซ็นเซอร์ Sony IMX766 ซึ่งมีต้นทุนสูงกว่า 600 ดอลลาร์ เซ็นเซอร์รุ่นนี้มีขนาดใหญ่ถึง 1/1.56 นิ้วและถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในคลาสเดียวกัน โดยสามารถรับแสงได้มากกว่าถึง 45%

ระบบกันสั่นคู่ OIS+EIS
เซ็นเซอร์ทั่วไปจะต้องใช้เวลามากกว่าปกติในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยซึ่งทำให้มีโอกาสเกิดภาพสั่นไหวได้ง่าย หนึ่งในองค์ประกอบของ ProLight Imaging Technology คือการติดตั้งระบบกันสั่นไหวแบบ Optical สำหรับการถ่ายภาพนิ่งด้วยเลนส์กล้องหลัก และระบบกันสั่นไหวสำหรับการถ่ายวิดีโอ โดยระบบกันสั่นไหวแบบ Optical จะช่วยลดการสั่นไหว ทำให้กล้องนิ่งขึ้นในขณะเซ็นเซอร์ทำงาน คุณจึงได้ภาพที่สวยคม ชัดใสมากขึ้น แม้ถ่ายภาพในที่แสงน้อย

ระบบลดจุดรบกวน AI Noise Reduction Engine 3.0
การถ่ายรูปด้วยกล้องสมาร์ตโฟน คุณจะถูกจำกัดด้วยขนาดของเซ็นเซอร์กล้อง ดังนั้น เราจึงหันไปเพิ่มระดับการประมวลผลภาพถ่ายเพื่อเสริมประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์ในการลดจุดรบกวนของภาพ (Noise) ให้น้อยที่สุด ProLight Imaging Technology ผสานระบบ AI Noise Reduction Engine 3.0 เพื่อลดจุดรบกวนภาพได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากที่สุด

เมื่อกดชัตเตอร์ realme 9 Pro+ จะทำการถ่ายภาพต่อเนื่องกันหลาย ๆ ภาพ ระบบลดจุดรบกวนด้วยปัญญาประดิษฐ์จะใช้อัลกอริธึมค้นหาค่าเฉลี่ยในภาพเพื่อหาจุดแตกต่างและลบจุดรบกวนสัญญาณดิจิทัลให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่เนื่องจากจุดรบกวนสัญญาณดิจิทัลมีหลายรูปทรงและขนาด ระบบลดจุดรบกวนจึงใช้การเรียนรู้เชิงลึกในการระบุและลบรูปทรงเหล่านี้ เพื่อมอบรูปถ่ายในสภาพแสงน้อยที่ชัดใสสวยงามและมีจุดรบกวนน้อยกว่า

นี่คือศักยภาพของ ProLight Imaging Technology ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในกล้องหลักของ realme 9 Pro+ ที่ช่วยให้คุณเก็บภาพทุกช่วงเวลาประทับใจได้อย่างสวยงามไม่ว่าอยู่ในสภาพแสงใด และยังถือเป็นกล้องถ่ายภาพที่ดีที่สุดในสมาร์ตโฟนตระกูล Number Series ของ realme สามารถถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้อย่างยอดเยี่ยมเทียบชั้นกับสมาร์ตโฟนแฟล็กชิปของวงการเลยทีเดียว

Street Photography 2.0 อีกขั้นของการถ่ายภาพแนวสตรีท
realme พร้อมที่จะแนะนำอีกระดับของโหมดการถ่ายภาพสตรีท นั่นคือ Street Photography 2.0 เพื่อให้การถ่ายภาพแนวสตรีทมีความลื่นไหลและเป็นธรรมชาติมากที่สุด ด้วยการใช้การเปิดรับแสงนานอัจฉริยะมาพร้อมกับโหมดต่างๆ 4 โหมด แต่ละโหมดจะมีถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ได้แก่
• Rush Hour ช่วยให้คุณโฟกัสวัตถุ และเบลอสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านไปมาได้อย่างลงตัว
• Neon Trail เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืน ที่มีแสงสาดไปมา
• Light Trail ช่วยให้ถ่ายภาพวัตถุและโฟกัสแสงไฟที่สาดส่องผ่านไปมาได้สวยงาม
• Light Painting ออกแบบมาสำหรับการถ่ายภาพเชิงสร้างสรรค์

นอกจากนี้ realme ยังได้เชิญแฟน ๆ ร่วมกันสร้างสรรค์ฟิลเตอร์ ที่เรียกว่า ฟิลเตอร์ ยุค 90 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพแนวสตรีทและสแน็ปช็อตในชีวิตประจำวัน ไม่เพียงเท่านี้ realme ยังมีฟีเจอร์ใหม่สำหรับมือโปรกับ Peak และ Zoom ที่คุณสามารถซูมและโฟกัสได้อย่างแม่นยำด้วยปุ่มเดียว ช่วยให้ทุกคนสามารถจับภาพช่วงเวลาสำคัญได้โดยตรงจากสมาร์ตโฟน โดยไม่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพอีกต่อไป

ความน่าสนใจของ realme 9 Pro Series ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ สามารถติดตามชมพร้อมกันได้ในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 มีนาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของทาง realme ได้แก่ YouTube และ Facebook พลาดไม่ได้กับกิจกรรมพิเศษ ลุ้นรับ realme 9 Pro Series จำนวน 2 รางวัล สำหรับผู้ที่รับชมการเปิดตัวในครั้งนี้อีกด้วย

เกี่ยวกับ realme (เรียลมี)
realme แบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก นำเสนอผลิตภัณฑ์สมาร์ตโฟนและอุปกรณ์ AIoT ที่มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยซึ่งให้ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์เทคโนโลยีไลฟ์สไตล์ที่คุ้มค่าทั้งสเปก คุณภาพ และงานออกแบบระดับพรีเมียม เพื่อเจาะกลุ่มคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ในระดับราคาที่ทุกคนสามารถซื้อหาได้ บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 2018 โดย Sky Li ภายใต้แนวคิด “Dare to Leap” ปัจจุบัน realme ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตสมาร์ตโฟนที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกและสามารถเติบโตจนติดกลุ่ม 5 อันดับแบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำใน 15 ประเทศทั่วโลกภายในเวลาเพียง 2 ปี โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2021 realme สามารถขยายตลาดมากถึง 61 ตลาด ทั้งในจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ ยุโรป รัสเซีย ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา และแอฟริกา สามารถดูข้อมูลได้ที่ www.realme.com