(19 มกราคม 2565 : กรุงเทพฯ) อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ เปิดแผนธุรกิจปี 2565 ปักธงยอดขาย 1,000 ล้านบาท เดินหน้าขยายเพิ่มอีก 1,000 ช็อป หวังอัพส่วนแบ่งการตลาดถึง 70% ตอกย้ำเบอร์ 1 ด้านผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องซักผ้าอบผ้าอุตสาหกรรมระดับโลก พร้อมเร่งเดินเครื่องเปิดเกมรุกบุก 360 องศา ทั้งต่างจังหวัดในทุกภูมิภาคและขยายไปต่างประเทศ เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงการใช้บริการร้านสะดวกซัก มากขึ้น โดยเตรียมปล่อยสินค้านวัตกรรมใหม่เพิ่มอีก 2 รุ่น คาดปีนี้ธุรกิจร้านสะดวกซักในไทยจะเติบโตเพิ่มถึง 3,500 ช็อป มูลค่าตลาดรวมพุ่งแตะ 10,000 ล้านบาท เผยอนาคตร้านสะดวกซักยังเติบโตต่อเนื่องเหมือนต่างประเทศ และจะเป็นมากกว่าร้านสะดวกซักธรรมดาด้วยการให้บริการครบวงจรที่เหนือกว่าและ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
คุณสุกรี กีไร ผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโสประจำภูมิภาคอินโดไชน่า บริษัท อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ซิสเต็มส์ แอลแอลซี (Alliance Laundry Systems LLC) ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายเครื่องซักผ้าอบผ้าอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจร้านสะดวกซักของไทยในปี 2565 ว่า ร้านสะดวกซักจะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยคาดว่าปีนี้จะมีร้านสะดวกซักถึง 3,500 ช็อป จากเดิมปี 2564 ที่มีเพียง 2,400 ช็อป ซึ่งจากการเติบโตของธุรกิจร้านสะดวกซักนั้น อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ เป็นบริษัทที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดถึง 70% และคาดว่าจะเติบโตเป็น 80% ในอีก 3 ปีข้างหน้า พร้อมตั้งเป้ายอดขายของปี 2565 อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท โดยปัจจัย การเติบโตมาจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่หันมาใช้บริการร้านสะดวกซักมากขึ้น ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ผู้คนหันมาดูแลสุขภาพและใส่ใจในเรื่องความสะอาดอย่างยิ่ง จึงนำเสื้อผ้ามาซักและอบเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่ร้านสะดวกซักเป็นจำนวนมาก ซึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภครูปแบบนี้จะยังคงมีอยู่ต่อไปแม้สถานการณ์โควิด-19 จะจบลง
สำหรับมูลค่าตลาดรวมของร้านสะดวกซักในปีนี้คาดว่าจะพุ่งไปแตะที่ 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท และคาดว่าในอีก 6 – 7 ปีข้างหน้าไทยจะมีร้านสะดวกซักรวมกว่า 9,000 สาขา อย่างไรก็ดี ภาพรวมของธุรกิจร้านสะดวกซักในปัจจุบันยังมีโอกาสเติบโตได้อีกยาว และตอนนี้ถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต ซึ่งคนที่เข้ามาลงทุนก่อนก็จะได้เปรียบในแง่ของโลเคชันและการแข่งขัน
“อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องซักผ้าอบผ้าอุตสาหกรรมที่อยู่ในธุรกิจนี้มาถึง 114 ปีแล้ว โดยเราเข้ามาในไทยเมื่อปี 2560 ตอนนั้นมีร้านที่ซื้อสินค้าของเรา 6 ช็อปเท่านั้น ซึ่งเมื่อเราเปิดตลาดและรุกตลาด อย่างต่อเนื่อง เพียงระยะเวลา 4 ปี เราได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าทั่วประเทศ โดยปี 2564 มีร้านสะดวกซักที่ใช้สินค้าของเราถึง 1,565 ช็อป และคาดว่าปี 2565 จะเพิ่มจำนวนขึ้นอีก 1,000 ช็อป”
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ขยายธุรกิจในไทยนั้นมีกลยุทธ์การตลาดที่เจาะกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ อย่างการจัดงาน “Alliance Wealth Investment” ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดให้ตัวแทนจำหน่ายได้รับฟังเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ และการเติบโตของธุรกิจ พร้อมทั้งมีข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้สนใจลงทุนเปิดร้านสะดวกซัก และจากความสำเร็จของงานนี้ ทางบริษัทฯ ได้ต่อยอดไปสู่กิจกรรมการตลาดที่บุกไปตามต่างจังหวัด เพื่อเข้าถึงลูกค้ารายใหม่ๆ มากขึ้น อีกทั้งจากผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมในไทย ปีนี้บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจสู่ประเทศต่างๆ ในอินโดไชน่า ซึ่งมีจำนวนประชากรรวมกว่า 250 ล้านคน โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าไปจำหน่ายสินค้าให้กับกลุ่มโรงพยาบาล, โรงแรมและโรงงานซักผ้ามาแล้ว แต่ครั้งนี้จะเจาะไปที่ธุรกิจร้านสะดวกซักโดยเฉพาะ ตั้งเป้าเริ่มต้น ด้วยประเทศเวียดนาม ก่อนที่จะขยายไปสู่ลาว, กัมพูชาและเมียนมาต่อไป
ขณะเดียวกัน อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ไม่หยุดนิ่งในการสร้างสรรค์สินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยการสร้างสินค้าคุณภาพที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเดือนนี้บริษัทฯ ออกเครื่องอบผ้ารุ่น Tempest ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นระบบรวมอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ซึ่งมอเตอร์มีขนาดเล็กลงแต่ให้ประสิทธิภาพการอบที่ดีเหมือนเดิม และอีกรุ่นอยู่ระหว่างการพัฒนาและทดสอบสินค้ารุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะเดียวกันบริษัทฯ เตรียมขยาย Service Center ไปตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อเสริมจุดแข็งด้านการบริการในการดูแลลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
คุณสุกรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ร้านสะดวกซักจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันและอนาคต เพราะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่มีเวลาจำกัดมากขึ้น ยกตัวอย่างคนที่อยู่อาศัยกันเป็นครอบครัวก็ไม่ต้องใช้เวลาในวันหยุดพักผ่อนไปกับการซักผ้าในแต่ละครั้งที่ต้องใช้เวลานาน หรือคนที่อาศัยในคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ทเมนท์ที่มีพื้นที่จำกัดก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินไปกับการซื้อเครื่องซักผ้าราคาสูงเพื่อซักผ้าเพียงสัปดาห์ละไม่กี่ครั้ง ทั้งนั้น ข้อจำกัดต่างๆ จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปหากมาใช้บริการที่ร้านสะดวกซักซึ่งมีเครื่องซักผ้าอบผ้าอุตสาหกรรมที่สามารถทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคได้มากกว่าในระยะเวลาอันรวดเร็ว
“เรามองว่าร้านสะดวกซักจะค่อยๆ ปรับรูปแบบไปจากที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ด้วยการมุ่งเน้นมอบประสบการณ์ ที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น Contactless Payment หรือการชำระเงินแบบไร้สัมผัสรูปแบบต่างๆ ทั้งการ จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต การเติมเงินผ่าน Speed Queen Central Payment และ Mobile Banking เป็นต้น ขณะที่ในร้านก็อาจมีสิ่งอำนวยความสะดวกระหว่างการใช้บริการ เช่น ทีวี, Wi-Fi และปลั๊กไฟให้ลูกค้าได้เชื่อมต่ออุปกรณ์เพื่อความบันเทิง รวมถึงอาจมีพื้นที่เด็กเล่นรองรับกลุ่มครอบครัว ขณะเดียวกัน ร้านสะดวกซักอาจขยายบริการอื่นเพิ่มเติม อย่างการซักอบเสื้อผ้าแบบครบวงจรผ่านระบบออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น ซึ่งเป็นภาพที่จะเห็นในอนาคตอันใกล้” คุณสุกรี กล่าว